เจ้าของทิ้งตึก 5 ปีช็อกเจออินเดียยึดทำบาร์-ที่พัก สื่อรุดช่วยเจอบังชวนเช่าห้อง

นายศุพณัฐ ชินวัฒน์ อายุ30ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับสภ.เมืองพัทยา ถูกชาวอินเดียบุกอาคารพาณิชย์ของตน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เข้าตรวจสอบทันที ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนพัทยาสาย 3 ทางไปท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้ จ.ชลบุรี ต้านหน้าอาคารมีป้ายสถานบันเทิงชื่อชัดเจน

เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าของอาคาร ได้ตรวจสอบโดยรอบ พบว่ามีการทำ
ประตูลับเข้า-ออกไว้ด้านหลัง จึงได้เข้าไปยังข้างในอาคารได้

เมื่อตรวจสอบด้านในพบว่า ชั้นล่างข้างหน้าถนนมีการทำเคาต์เตอร์เป็นที่โล่ง และมีการทำห้องโชว์ ลักษณะเป็นบาร์เบียอยู่ข้างใน ส่วนชั้น2-3-และ4 มีการเปิดให้เช่าเป็นห้องพักรายวันและรายเดือน บางห้องมีคนพักอาศัยอยู่ บางห้องถูกรื้อข้าวของพังเสียหาย

เจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ที่พักอาศัย ทราบว่า คนที่ดูแลอาคารนี้ เป็นชาวอินเดีย พักอาศัยอยู่ด้านหลังอาคารเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกมาสอบถาม ชาวอินเดียได้บอกกับทางเจ้าของอาคารและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองไม่รู้เรื่องว่าอาคารนี้เป็นของใคร ตนเองเป็นเพียงลูกจ้าง ที่คอยดูแลกิจการให้เจ้านายซึ่งเป็นชาวอินเดียด้วยกัน ตอนนี้เจ้านายไม่อยู่พัทยากลับไปอินเดีย หากเจ้านายกลับมาจะแจ้งให้ทราบ

เบื้องต้นทางเจ้าของอาคาร ได้นำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของทั้งหมด ให้พนักงานชาวอินเดียที่ดูแลให้รับทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ทราบจะทำการล็อกประตูทั้งหมด ห้ามให้มีผู้ใดเข้าออก ก็นผู้ที่พักอาศัยอยู่จะให้อาศัยอยู่ไปก่อน จนกว่าทางเจ้าของอาคาร จะได้พบกับชาวอินเดีย ที่มาแอบอ้างเป็นเจ้าของอาคารของตน พร้อมทั้งจะดำเนินคดี หากสามารถตกลงเจรจาค่าเสียหายของอาคารทั้งหมดกันได้ ผู้เป็นเจ้าของยินดีที่จะเจรจา และต้องรู้ให้ได้ว่า ใครเป็นคนดำเนินการอยู่เบื้องหลังชาวอินเดียนี้ ถึงกล้ากระทำผิดมาแอบอ้างเป็นเจ้าของอาคาร2คูหานี้ มาทำเป็นธุรกิจของตนเอง สำหรับอาคารดังกล่าวตนไม่ได้มาดูเลยกว่า 5 ปีแล้ว พอมาตรวจสอบก็พบว่ามีชาวอินเดียมาอยู่ ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้นยังไม่ทราบเพราะชาวอินเดียที่เจอยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย

ทีมข่าวช่อง8 เข้าไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าของตึก พบว่ามีชาวอินเดียอาศัยอยู่สองห้อง จึงสอบถาม ชาวอินเดียที่เช่าอยู่ห้องพัก บอกว่า เช่าในราคา เดือนละ 6,500 บาท ซึ่งเช่าผ่านเพื่อนชาวอินเดียอีกทีนึง เพราะเชื่อว่าเจ้าของน่าจะเป็นชาวอินเดีย

ขณะที่ชั้น4ของอาคารพานิชย์แห่งนี้ซึ่งจริงๆแล้วเป็นดาดฟ้า และมีการต่อเติมเปิดเป็นห้องเช่านั้น ก็มีชาวอินเดียอีกสองคนพักอาศัยอยู่ เจ้าของตึกจึงขอให้เก็บข้าวของและดำเนินการออกจากตึกทันที

สิ่งที่ทำให้เจ้าของตกใจมากคือมีบางห้องสภาพเหมือนไม่ใช่ห้องนอนเพราะเต็มไปด้วยขยะและเศษซากสิ่งของสกปรกจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

เจ้าของอาคารต้องเร่งดำเนินคดี ก็คือว่าจริงๆแล้วชาวอินเดียที่อ้างตัวเป็นเจ้าของตึกแห่งนี้ คือคนที่เป็นเจ้าของตึกด้านข้างเห็นว่าตึกแห่งนี้ไม่มีคนอยู่ จึงทำการเจาะกำแพงผนังซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกับอาคารพาณิชย์แห่งนี้เชื่อมกันแล้วเข้าดำเนินการปล่อยเช่า

ส่วนชั้นล่าง ด้านหน้าอาคารมีป้ายสถานบันเทิงชื่อร็อคสตาร์ อินเดียนเเดนซ์ คลับ ด้านหน้าติดกระจก ด้านในมีการทำเคาเตอร์เป็นที่โล่ง และมีการทำห้องโชว์ ลักษณะเป็นบาร์เบียร์อยู่ข้างใน

โดยทีมข่าวช่อง8 โทรศัพท์ไปสอบถามตามเบอร์ที่ปล่อยให้เช่าห้อง ปลายสายมีคนรับเป็นชาวอินเดีย จึงสื่อสายภาษาอังกฤษ โดยยืนยันว่าให้เช่าห้อง 7,000 บาทต่อเดือน

ทีมข่าวได้รับข้อมูลมาระบุว่า ชายชาวอินเดียคนดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นเจ้าของอาคารแห่งนี้ชื่อซันโต๊ด มีธุรกิจเป็นร้านอาหารข้างอาคารพานิชย์แห่งนี้

ทีมข่าวจึงไปสอบถามที่ร้านอาหารของนายซันโต๊ดชาวอินเดีย บอกว่าตอนนี้บอสไม่อยู่บอสไปอินเดียได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ส่วนอาคารที่ปล่อยเช่านั้นก็เข้าใจมาตลอดว่าน่าจะเป็นของบอส โดยที่ไม่ทราบว่าจริงๆแล้วมีเจ้าของเป็นชาวไทย

ในขณะที่ทางการสืบสวนพบข้อมูลว่านายซันโต๊ด ยังคงอยู่อาศัยในประเทศไทยแต่เลี่ยงที่จะมาพูดคุยเจรจาเพราะกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี และถูกผลักดันออกนอกประเทศ

ไทยซื้อตึก แต่บังยึดทำบาร์