พระโดดขึ้นรถสีการับกิจนิมนต์โต้ชู้สาว ฝ่ายหญิงฉะคนจับผิด ถ้าเก่งนักก็มาทำดู

จากกรณีที่ชาวบ้าน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวช่อง 8 ว่า เจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้าน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอยู่กับสีกา 2 ต่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกห้วงนาทีที่มารับเจ้าอาวาส

ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนายทวีศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 เล่าว่า วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาสจำวัดอยู่เพียงรูปเดียว ส่วนนางบี (นามสมมุติ) ได้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้พร้อมกับสามีชาวต่างชาติ และลูกชาย เพื่อมาขอบวชสามีชาวต่างชาติ และปฎิบัติธรรมอยู่ที่วัดแห่งนี้ เมื่อปี 2564 หลังจากที่สามีชาวต่างชาติบวชได้ไม่นานก็โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เพราะวีซ่าหมดอายุ จากนั้นสามีชาวต่างชาติได้เดินทางกลับประเทศ ส่วนนางบีก็อยู่ปฎิบัติธรรมที่วัด ได้ 3 วัน ชาวบ้านเห็นไม่เหมาะสม จึงให้ย้ายออกจากวัด ก่อนจะไปเช่าบ้านอยู่ที่หน้าวัด

จากนั้นก็จะเห็นทั้งคู่ขับรถกระบะออกไปด้วยกันตลอด ซึ่งตนเองและชาวบ้านเคยเตือนหลายครั้งแล้วว่าไม่เหมาะสมและให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังคงไปไหนมาไหนด้วยกันสองคน

ส่วนทางเจ้าอาวาสวัดทางชาวบ้านยังคงรักและศรัทธาจึงไม่อยากให้สึกจากการเป็นพระ แต่จะให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสีกาอีก

ทีมข่าวได้กราบนมัสการเจ้าอาวาส โดยท่านก็ยอมรับกับว่าไม่เหมาะสม พระผู้ใหญ่ก็เตือนหลายครั้ง แต่เวลาจะไปทำกิจนิมนต์ การวานให้นางบีช่วยขับรถพาไปทำธุระ สะดวกกว่า เนื่องจากว่าไม่อยากวานให้ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยหรือชาวบ้านคนอื่นพาไป เพราะรู้ว่าทุกคนต่างทำมาหากิน และการจะรอให้ชาวบ้านว่างก็ไม่ทันเวลานัดหมาย เนื่องจากแต่ละวันตนเองมีกิจนิมนต์ค่อนข้างเยอะ และเวลาเดินทางไปแต่ละครั้งบางวันก็ไปหลายวัน ชาวบ้านเองก็ไม่สะดวกที่จะพาตนเองไปกิจนิมนต์ ยอมรับว่าดูไม่เหมาะสม หรือ ผิดศีลข้อห้ามของพระ แต่ยืนยัน ตนเองและนางบี ไม่ได้มีอะไรเกินเลย และออกจากวัดไปข้างนอกแต่ละครั้ง คือ ไปกิจนิมนต์ ไม่ได้ไปทำอะไรที่ไม่ดีหรือเสื่อมเสีย แต่หากชาวบ้านไม่สบายใจอยากให้ตนเองลาสิกขาตนเองก็พร้อมที่จะลาสิกขา

ต่อมาทีมข่าวได้คุยกับนางบี บอกว่า ตนเองรู้มาตลอดว่าชาวบ้านจับผิดตนเอง และตนเองก็อยากถามกลับไปชาวบ้านด้วยว่า ทำไมถึงไม่อาสาพาเจ้าอาวาสวัดไปทำกิจนิมนต์เหมือนที่ตนเองทำ เพราะที่ตนเองทำทุกวันนี้ก็ไม่ได้เงินหรือค่าตอบแทนอะไร แม้กระทั่งค่าน้ำมันตนเองก็เป็นคนเติมเอง

ส่วนตนเองอยู่ที่วัดแห่งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มาเอาอะไรภายในวัดหรือจะมาหลอกเอาเงินเจ้าอาวาสวัดเพราะเจ้าอาวาสวัดเองไม่ได้เป็นคนถือเงินแต่เป็นคณะกรรมการหมู่บ้านที่เป็นคนถือเงิน ยืนยันตนเองทำด้วยใจ รักเคารพศรัทธาเจ้าอาวาสวัดเท่านั้น