คาใจเด็ก 10 เดือนตกรถหัดเดินดับแต่ไส้ฉีก แม่ใจสลายฝากเลี้ยงลูกไม่คิดส่งไปตาย
ความคืบหน้าคดีของ น้องซี ที่เสียชีวิต หลังจากที่พ่อและแม่ได้นำน้องซี ไปฝากกับสถานรับดูเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง จังหวัดชลบุรี สภาพร่างของน้องมีร่องรอยช้ำที่แผ่นหลัง หน้าผาก และบนศีรษะ ซึ่งพี่เลี้ยงบอกว่าน้องซีนั่งอยู่บนรถหัดเดิน ล้อรถเกิดหักทำให้รถคว่ำและน้องหกล้ม
ในช่วงคืนวันที่เกิดเหตุ 2 มิ.ย.เวลาเที่ยงคืนเข้าวันที่ 3 มิ.ย. ทางพี่เลี้ยงแจ้งว่าน้องมีอาการผิดปกติ แต่ไม่ได้บอกแม่ว่าน้องเป็นอะไร แม่มาทราบเรื่องคือน้องอาการโคม่าแล้ว เธอรับไม่ได้เมื่อได้เห็นลูก เพราะน้องหยุดหายใจแล้วตั้งแต่ที่แม่ได้ไปเจอลูก จากนั้นก็โทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัย ให้มาทำการปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถจะยื้อชีวิตของน้องเอาไว้ได้ หลังจากเกิดเหตุพี่เลี้ยงไม่รู้สึกผิดอะไร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซึ่งผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ การเสียชีวิตของน้องซี ระบุว่า มีเลือดออกในช่องท้องจากขั้วลำไส้เล็กฉีกขาด และอักเสบจากการกระแทกของแข็งไม่มีคม
ก่อนจะร้องเรียนกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยเหลือ
ทีมข่าวได้สอบถามถามแม่ของน้องซี ที่เชื่อว่าน้องน่าจะถูกทุบตีเพราะมีรอยช้ำ ไม่ได้เกิดจากสาเหตุหกล้ม ตามที่พี่เลี้ยงกล่าวอ้างว่า ประมาทปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว แล้วน้องหกล้มจนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ประกอบกับผลชันสูตรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ออกมาว่า น้องมีเลือดออกในช่องท้อง ลำใส้เล็กฉีกขาด และอักเสบจากการถูกของแข็งที่ไม่มีคมกระแทก ทำให้แม่ปักใจเชื่อว่า น้องน่าจะถูกทำร้ายทุบตีจนเสียชีวิตอย่างแน่นอน ยอมรับยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะลูกถูกพรากไป
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดบางคล้า อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บร่างของ น้องซี ได้พบกับยายและตาของน้อง ที่มาเฝ้าดูศพหลานที่บรรจุอยู่ในโลงเย็น โดย นายฉัตรชัย อายุ 52 ปี ตาของน้องซี เปิดเผยว่า ได้ทำพิธีสวดอภิธรรมศพเสร็จสิ้นเป็นวันสุดท้ายเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่จะฌาปนกิจเพราะอยากให้คดีคืบหน้า และทุกอย่างคลี่คลาย จึงจะมาปรึกษากันว่าจะดำเนินการทำพิธีฌาปนกิจน้องวันไหน ส่วนตัวเชื่อว่าหลานตนเองไม่ได้เกิดจากการประสบอุบัติเหตุ เพราะตนเองเห็นสภาพบาดแผลและผลชันสูตรศพรุนแรงมาก รวมถึงร่องรอยต่างๆ ตนเองไม่ค่อยได้เจอกับหลานเพราะอยู่กันคนละที่แต่มาพบ อีกครั้งหลานก็เสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวไปยังบ้านที่เกิดเหตุ แต่ถูกปิดล็อก จึงได้โทรศัพท์สอบถาม สามีของพี่เลี้ยงที่ตกเป็นผู้ต้องหา ยืนยันไม่ได้มีการทำร้าย แต่ยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะไปตรวจงานข้างนอก
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นางสาวณัฏฐณิศกา อายุ 30 ปี พี่เลี้ยงเด็ก และเป็นเจ้าของสถานที่ที่เปิดรับเลี้ยงเด็ก ในข้อหากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เบื้องต้นผู้ต้องหาก็ยังให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายของน้องแต่อย่างใด