ชูวิทย์ชำแหละฟาสต์แทร็กติดยศผู้กอง คนตระกูลดังอบรมอื้อ ท้าส่งลงใต้ดัดหลังไฮโซ
จากกรณีการเลื่อนขั้นของ แคท อาทิติยา ภายหลังจากเข้าหลักสูตร กอส. ซึ่งเคยเป็นผู้เข้าประกวดเวทีนางสาวไทย ก่อนคว้ามงมาครองได้หลายเวที ต่อมาเข้ารับ
ราชการเป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดสำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ ในส่วนงานรับผิดชอบเรื่องงานเอกสาร และงานพิธีการด้านต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ล่าสุดวันที่ แคท อาทิติยา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า "จากประเด็นที่แคทได้โพสต์ภาพที่ให้คุณพ่อ คุณแม่ ประดับยศให้ เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิตรับราชการของแคท แคทไม่มีเจตนาโพสต์เพื่ออวดอ้างหรือไปกระทำการสิ่งใด เพื่อไปกระทบจิตใจเพื่อน ๆ พี่ ๆ ข้าราชการตำรวจ และทุกฝ่าย แต่อย่างใด
ในการนี้แคทกราบขอโทษอย่างสูงที่กระทำการดังกล่าวโดยไม่ได้ไตร่ตรอง
สุดท้ายนี้ เมื่อแคทได้รับโอกาสในการทำงาน ขอสัญญาว่า จะสั่งใจทำงาน ที่ได้รับ
มอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถและอย่างดีที่สุด"
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊กอีซ้อขยี้ข่าว2 ได้โพสต์ภาพและข้อความ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อก่อนยังเป็นทหาร ตอนนี้เป็นตำรวจ ร.ต.อ.แล้วด้วย
ต่อมาปรากฏภาพถ่ายอดีตเจ้ากรมดุริยางค์ทหารบก มอบช่อดอกไม้ให้กับ
ร.ต.อ.หญิงอาทิติยานั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยกรณีร.ต.อ.หญิงอาทิติยา เคยเป็นพนักงานราชการกรมดุริยางค์ทหารบก กองบัญชาการกองทัพบกวาระงาน 1 ปี ในปี 2562 และลาออกไปสอบตำรวจ
ขณะที่พลตำรวจโทอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีของผู้กองแคท ไม่ขอใช้คำว่าตำแหน่งคุณวุฒิที่ขาดแคลนเพราะการเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจมีได้หลายทาง ตั้งแต่การสอบแข่งขันทายาท การโอนย้ายจากหน่วยราชการอื่น และโดยการคัดเลือก ในสวนของความขาดแคลนก็เป็นอีกหนึ่งที่ ตร.มีการรับบุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ เช่น นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์หลักฐาน หรือว่าสายต่างๆ ที่สามารถมาทดแทนในส่วนที่ ตร.ขาดแคลน ก็ถือเป็นคุณวุฒิขาดแคลน กรณีของผู้แคท ซึ่งมีวุฒิปริญญาโททางด้านนิเทศน์ศาสตร์นั้น ไม่ได้เป็นคุณวุฒิที่ขาดแคลน แต่เป็นความต้องการของหน่วยงานใน ตร.ที่จะกำหนด สเปคคนที่จะเข้ามาบรรจุรับราชการในระดับ รองสารวัตร ซึ่งมีสเปคและหลักเกณฑ์ต่างๆ ตามที่ต้องการจึงเปิดรับสมัครคนที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดได้เข้ามา เพื่อตอบสนองความต้องการของหน่วย พร้อมทั้งชี้แจงขั้นตอนการเลื่อนยศ ของหลักสูตร กอส.
และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีคนดัง และคนนามสกุลดัง ที่เข้าเรียนหลักสูตร กอส.
ล่าสุด มนัส บุญจำนงค์ นักมวยสากลแชมป์เหรียญทอง โอลิมปีก 2004 ที่กรุง
เอเธนส์ ประเทศกรีซ และ เหรียญเงิน โอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีน ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เล่าถึงการรับราชการของตนเอง โดยระบุว่า"เห็นคนแชร์เยอะมากตอนนี้ เรื่องติดยศ พวกผมทำชื่อเสียงมากันเยอะ หลายคนทำชื่อเสียงให้ประเทศซาติมาไม่รู้เท่าไร ยังไม่ได้เลื่อน ยศและตำแหน่งเลย (หมดประโยชน์ก็หมดค่า)"
ก่อนที่ วรพจน์ เพชรขุ้ม อดีตนักมวยสากลเหรียญเงิน โอลิมปีก 2004 ที่ประเทศ
กรีซ จะเข้ามาคอมเมนต์ว่า "23 ปีเต็มๆ จ.ส.ต. สุดๆ ครับระบบราชการ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ก็อย่าไปหวังอีกปีกว่าๆ คงไม่ต้องไปวุ่นวายกะระบบที่ยืนกุมไข่และดีครับผมเหมาะสมครับท่าน"
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้คาวมเห็นและตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ซึ่งจริงๆ แล้วหลักสูตรนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เป็นลูกไฮโซเส้นสายเอาไปประดับยศ แล้วก็ออกมาขับรถหรูตามนายหรืออยู่กองการต่างประเทศ อยู่ ตม. ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง เซ็นชื่อบ้างหรือไม่ก็ไม่เซ็น บางคนขึ้นถึงชั้นสารวัตรก็ไม่เคยเข้าไปทำงาน แล้วประโยชน์อะไรที่เรามีหลักสูตร กอส. บอกว่าหลักสูตรนี้หลังบ้านคือลูกคนดังเจ้าใหญ่นายโต แล้วมาลงอวดในโซเชียลแล้วก็มีรุ่นพนันออนไลน์ออกมาอีก
โดยอยากจะฝากให้ผู้ใหญ่หรือคนเกี่ยวข้องจัดการตามที่บอกคือหลังจากเรียนจบ 17 อาทิตย์ในช่วงเวลา 4 เดือน ฝึกภาคปฏิบัติแค่อาทิตย?เดียว เพราะถ้าจบมาแล้วควรไปหาที่ลงหรือจะไปลงโรงพักแบบจับฉลากกันไปเลย ไปลง 3 จังหวัด หรือไปลงที่ไหนสักที่หนึ่งที่ใด ให้มันเอาจริงแบบ
ฝากทิ้งท้ายว่าถ้าเป็นตำรวจแล้วก็อย่าไปน้อยใจในวาสนา แต่แค่จะบอกว่าถ้าหลักสูตรนี้ยังไม่เลิกนะ เพราะปีนึงรับ 4-500 คน แนะนำว่าเพิ่มเงื่อนไขหลังจากเรียนจบจะต้องไปฝึกงานตามโรงพัก ก็เหมือนกับตำรวจที่เรียนจบจากโรงเรียนในร้อยมาเขาต้องทำแบบนี้