"ชูวิทย์" ฟาดแผนพิฆาต"พิธา" หลังกกต.รับคำร้องม.151 อาจโดนหนักถึงตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี ถามทำไมระบอบประชาธิปไตยเรามันถึงยุ่งยากนัก
จากกรณี กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ในการสมัครรับเลือกตั้ง เหตุการถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ
คำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาที่จะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาในกรณีที่ร้องว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ
แต่เนื่องจากกรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนไต่สวนต่อไป ว่านายพิธาเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามแต่ได้สมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้งจะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป
ต่อมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แผนพิฆาต ระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกให้เสียงคนส่วนมากลงคะแนน ฝ่ายใดรวมกันได้เกินครึ่งเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ หัวหน้าพรรคคะแนนมากสุดเป็น “นายกฯ” แต่ประเทศไทย เลือกตั้งไปแล้ว คะแนนก็เห็นกันหมด จนถึงวันนี้ยังไม่รู้ทิศทาง วนเวียนอยู่กับ “หุ้นสื่อ” ตีความไปมา ร้องกันไม่หยุดหย่อน ยอกย้อนซ่อนเงื่อน ประเทศตุรกีเลือกตั้งพร้อมกับไทย แค่ 3 วัน ได้รับมอบทำงานต่อ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนอย่างไทย
คาดว่าอีกนานกว่าจะรู้ “ใครเป็นนายกฯ?”แค่หุ้นสื่อที่ปิดไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็จะเอาให้ได้ กกต. ดูเหมือน “ยกคำร้อง”แต่กลับเป็นว่า “หนักกว่าเดิม” นี่ยังไม่พูดถึงเรื่อง ส.ว. ที่ต้องมา “ช่วยเลือก” นายกฯ อีก ทำไมระบอบประชาธิปไตยเรามันถึงยุ่งยากมากนักวะ!?