"เรืองไกร" ข้องใจ กกต.ทำไมไม่สอบปมถือหุ้นสื่อ ทำ"พิธา"พ้น ส.ส.ปี 62 และถือได้ว่าไม่มีการเสนอชื่อเป็นนายกฯ จี้ ต้องดำเนินการ เตรียมเปิดข้อมูลต่อหลัง 12 มิ.ย.
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวกรณี กกต.มีมติไม่รับ 3 คำร้องสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่า ที่ กกต. มีมติ 6 ต่อ 0 ตีตกคำร้อง โดยอ้าง พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 51 และมาตรา 60 นั้น พอฟังได้ แต่ในคำร้องของตน มีประเด็นอื่นให้ กกต.ใช้อำนาจหน้าที่อยู่ เช่น สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา เมื่อต้นปี 62 สิ้นสุดลงหรือไม่ หรือ และทำไม กกต. ไม่ดำเนินการตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 82 ตาม พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 14 วรรคสอง ประกอบ รัฐธรรมนูญมาตรา 89 วรรคสอง คือ ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่
เพราะการที่ กกต.ตั้งกรรมการสอบทางอาญาตามมาตรา 151 ฐาน รู้ว่าไม่มีสิทธิสมัคร ส.ส.แต่ยังลงสมัคร อาจทำให้เข้าใจได้ ว่า กกต. เห็นว่าการถือหุ้นสื่อตามคำร้องเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ป.สส. มาตรา 42 (3) ประกอบ รธน. มาตรา 98 (3) ดังนั้น กกต.ควรย้อนไปดูคำร้องให้ละเอียด ว่า ยังมีงานที่ต้องทำตามหน้าที่และอำนาจต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไป หลังวันจันทร์ที่ 12 มิ.ย.