หวิดเป็นศพ! 4 โจ๋นั่งรถดูดบุหรี่ เจอรัวยิงพรุน มือปืนหูฝาดคิดว่าด่า
จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่น 4 คน นั่งรถยนต์โตโยต้า รุ่นโคโลน่า สีเขียว ขับรถมาตามถนนสายไหม เมื่อมาถึงแยกไฟแดงตลาดวงศกร ขณะที่รถติดไฟแดงได้มีชาย 2 คนใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีดำ มาจอดประกบที่ด้านข้าง แล้ว 1 ใน 2 ที่มากับรถจักรยานยนต์ได้ถามกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่บนรถยนต์ว่า “มึงด่ากูหรอ” ทำให้กลุ่มวัยรุ่นนรถยนต์เห็นท่าไม่ดี ขับรถหนีเลี้ยวขวาเข้าไปในถนนสุขาภิบาล 5 แต่ชายสองคนก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ตามมาทันที่ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 92
จากนั้นชาย 1 ใน 2 คน คาดว่าจะเป็นคนนั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่บนรถยนต์จำนวน 5 นัด ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่ถูกยิ่งพยายามจะขับรถหนีแต่รถเสียหลัก ไปจอดอยู่ฝั่งเลนตรงข้ามร้านขายที่นอนห่างจากตลาดวงศกรประมาณ 200 เมตร
โดยกระสุนปืนไปถูกนายนายวิวัฒน์ อายุ 18 ปี คนขับ เข้าที่แขนขวา ชายโครงขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายสินติภาพ อายุ 20 ปี นั่งหน้าข้างคนขับ ได้รับบาดเจ็บมือขวา ส่วนนายปัณณวรรธ อายุ 16 ปี กับนายธนากรณ์ ก้อนแก้ว อายุ 17 ปี นั่งอยู่เบาะด้านหลัง มีอาการแน่นหน้าอกบาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นที่ถูกยิงจะเปิดประตูวิ่งหนีตายไปกันคนละทิศและทาง หลังก่อเหตุ คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าทางแยกไฟแดงตลาดวงศกร
ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่เกิดเหตุ ได้หลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดโดยเวลา 01.10 น. ขณะที่รถเก๋งสีเขียวซึ่งเป็นรถของผู้เสียหายจอดติดไฟแดงบริเวณแยกตลาดวงศกร ได้มีรถจักรยานยนต์ของคนร้ายสอนสองคนมาจอดประกบด้านขวา และเหมือนกับทั้งสองฝ่ายพูดคุยกัน ก่อนที่รถเก๋งจะขับเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุก็ขี่ตามไป
กระทั่งในเวลา 01.12 น. (เวลากล้องช้ากว่าเวลาจริง 7 นาที) กล้องวงจรปิดทางเข้าตลาดวงศกรบันทึกภาพรถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุขี่ประกบ แล้วยิงรถเก๋งบริเวณเยื้องกับทางเข้าตลาดวงศกร ต่อมากล้องวงจรปิดอีกมุมหนึ่งในเวลาเดียวกัน จะเห็นรถผู้เสียหายถูกยิงและชะลอเหยียบเบรกแต่รถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุยังขับขี่ตามไป
ทีมข่าวช่อง 8 สอบถาม นายเป้ นามสมมุติ อายุ 17 ปี หนึ่งในสี่ของกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกไล่ยิง เล่าว่า ตนเองและเพื่อนอีกสามคนได้ไปนั่งดื่มที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งในตลาดสายไหม ก่อนที่จะขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน จังหวะนั้นได้มีการเปิดกระจกรถทั้ง 4 บาน ออกเพื่อสูบบุหรี่ และตนเองกับเพื่อนก็มีการพูดแหย่และด่ากันในรถแต่ไม่ตั้งใจจะด่าใคร
โดยเมื่อขับรถมาถึงบริเวณแยกไฟแดงตลาดวงศกร รถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุได้ขับขี่กันมาสองคน และได้ถามพวกตนเองว่า “มึงมาด่ากูหรอ” ซึ่งทางพวกตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ด่า แต่เป็นช่วงจังหวะไฟเขียว เพื่อนจึงได้ขับรถเพื่อจะเลี้ยวเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ผู้ก่อเหตุยังขับขี่จักรยานยนต์ขี่ตามมาพร้อมกับชักอาวุธปืนบอกให้พวกตนเองจอดรถ แต่เมื่อเพื่อนตนเองที่เป็นคนขับเห็นปืนจึงไม่กล้าจอดพยามขับหลบหนี
ขณะที่ขับรถหนีมาถึงหน้าตลาดวงศกรก็ถูกผู้ก่อเหตุใช้วุตปืนยิงใส่ไปที่ฝั่งคนขับจำนวน 5 นัด กระสุนปืนถูกเพื่อนที่เป็นคนขับ ทำให้เพื่อนบอกว่าไม่สามารถขับต่อไปได้ แล้วรถเกิดการดับกลางถนน เป็นช่วงจังหวะที่ผู้ก่อเหตุวนรถจักรยานยนต์กลับมาเพื่อจะยิงซ้ำ ตนเองและเพื่อนจึงวิ่งหนีออกจากรถ ผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่อีกจำนวน 4-5 นัด ทำให้ตนเองและเพื่อนอีกสองคน คือ คนที่นั่งเบาะหลังข้างตนเอง และคนขับถูกยิงเข้าที่ขาและแขน ต้องกระเสือกกระสนวิ่งหนีเข้าไปในป่า และไปหลบอยู่หลังร้านเฟอร์นิเจอร์
ส่วนเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ ลงมาไม่ทัน จึงได้หมอบหลบอยู่ในรถ ทำให้ผู้ก่อเหตุมองไม่เห็น กระทั่งผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หนีไป พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่เคยรู้จักและมีปัญหาบาดหมางกับผู้ก่อเหตุมาก่อน
สอบถามผู้ดูแลร้านเฟอร์นิเจอร์บริเวณเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงกลางดึกของคืนวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนเองนอนพักผ่อนอยู่ในร้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าที่จะเดินออกมาดู ซึ่งระหว่างนั้นได้ยินเสียง คาดว่าจะเป็นที่ถูกยิงสอง 2 คนวิ่งมาหลบอยู่ที่หลังร้าน และได้ยินทั้งสองคนคุยกันบอกว่าอย่าเสียงดัง เดี๋ยวพวกมันได้ยิน เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที ได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาลและตำรวจเดินทางมาถึง ทำให้ผู้เสียหายทั้งสองคนที่เข้ามาหลบหนีได้เดินออกไป แต่ตนเองก็ไม่ได้เปิดประตูออกไปดูจึงไม่ทราบเหตุการณ์หลังจากนั้น ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่น่าเสียดายที่ไม่สามารถบันทึกภาพได้เพราะเสีย และไม่ได้ซ่อมแซมเนื่องจากเตรียมที่จะย้ายร้านไปอยู่ที่อื่น
ส่วนความคืบหน้าของคดี ตำรวจ สน.สายไหม เปิดเผยว่า รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 1 คน เป็นคนซ้อนที่ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 4 คน และได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลเพื่อจะนำมาประกอบในการขอศาลอนุมัติออกหมายจับ
โดยสาเหตุทั้งสองฝ่ายมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะรู้จักกันแต่กลุ่มผู้เสียหายยังให้การข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับตำรวจไม่หมด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเพียงแค่คนเดียว คือคนขับที่ถูกกระสุนยิงเข้าที่ขาและแขน ส่วนเพื่อนที่นั่งมาด้วยอยู่เบาะด้านหน้าเป็นแค่รอยฟกช้ำที่เกิดจากการหลบหนีระหว่างถูกยิง นอกจากนี้ผู้ที่นั่งอยู่เบาะหลังสองคนก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด