นิกม์ โต้สมคบคิดลูกน้องเด็ดปีกพิธา มั่นใจเอกสาร itv ไม่บิดเบือน สอนริเป็นนายกฯ ตกม้าตาย

จากกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มีการร้องเรียน กกต. เรื่องการถือหุ้นสื่อ หรือ หุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเตดนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ต่อมาเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายพิธาได้มีการโอนหุ้นดังกล่าวออกไปแล้วนั้น รายการข่าว 3 มิติ ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี ผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อให้ตรวจสอบว่า บันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสาร ไม่ตรงกับการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวีดีโอไว้

โดยเฉพาะช่วงคำถามว่า ไอทีวี ยังดำเนินกิจการสื่อหรือไม่ จึงอยากให้ตั้งคำถามไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของไอทีวีที่อาจจะกลับมาดำเนินกิจการต่อไป หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา กรณี สปน. ยกเลิกสัมปทานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี

"มีคำถามมาจาก คุณภาณุวัฒน์ ขวัญยืน มาด้วยตัวเองนะครับ"

"มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ"

"ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ นะครับ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะครับ"

"จากคุณวิรัตน์ คล่องประกิจ นะครับ หากคดีความต่างๆ จบสิ้นเรียบร้อย บริษัทจะมีปันผลไหม บริษัทจะมีแผนการดำเนินงานธุรกิจต่อไป จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกรึเปล่า บริษัท จะมีแผนชำระบัญชี หรือกิจการอื่นๆ แก่ผู้ถือหุ้นหรือไม่นะครับ"

"ขอเรียนอย่างนี้นะครับ ก็ผมว่าผลของคดีเป็น เขาเรียกว่าอะไรอะ เป็นจุดสำคัญที่สุดของบริษัท ถ้าผลคดียังไม่ได้ออกมา มันเป็นไปได้ยากมากที่เราจะดำเนินการใดๆ กับไอทีวี ณ ขณะนี้ อย่างในอดีตที่ผ่านมา เราได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินมาดู Option ต่างๆ ก็ยังไม่ได้มีทางเลือกใดๆ ที่เหมาะสม
ณ ขณะนี้ ทั้งหมดทั้งมวล ต้องรอผลทางคดี ถ้าผลคดีสิ้นสุดลงแล้ว ทางบริษัทจะพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมให้กับทางผู้ถือหุ้นต่อไปนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพิจารณา จะจ่ายเงินปันผลอย่างไร จะดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่อย่างไร หรือจะชำระบัญชีอย่างไรทางเราจะพิจารณาทางเลือกที่มีทั้งหมดและเลือกทางเลือกที่เหมาะสมให้ผู้ถือหุ้นต่อไป"

ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ กล่าวว่า คำตอบที่บันทึกอิเล็กทรอนิกส์ กับคำตอบในรายงานบันทึกการประชุมที่เป็นเอกสารนั้นไม่ตรงกัน เพราะในเอกสารระบุว่า ภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ถามคำถามว่า "บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินงานเกี่ยวกับสือหรือไม่" ซึ่งคำตอบในเอกสารระบุว่า "ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ"
ฐปณีย์ ระบุอีกว่า เมื่อรายงานไม่ตรงกัน ผู้ถือหุ้นจึงกังวลว่า เรื่องนี้จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่กำลังมีการพิจารณาคดีถือหุ้น ITV ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล

ต่อมา นายนิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย กล่าวชี้แจงเรื่องคลิปการประชุมผู้ถือหุ้น itv ที่ถูกเปิดเผยออกมา ปรากฏชื่อของนายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ผู้รับโอนหุ้น itv ของนายนิกม์ ไปตั้งคำถามว่า "ยังมีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหม" โดยยอมรับ ตอนประชุมผู้ถือหุ้น ตนอยู่กับนายภาณุวัฒน์จริง ช่วยกันตั้งคำถามจริง แต่เป้าประสงค์ไม่ได้ทำเป็นขบวนการอย่างที่เขากล่าวหา เพราะวันที่ประชุม ตอนนั้นยังไม่ทราบเลยว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

วันนี้มีความพยายามบอกว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดพยายามไปขัดแข้ง ขัดขา ว่าที่นายกฯ ถามจริงๆ วันที่ตนโพสต์เรื่องนี้รวมถึงวันที่ประชุมผู้ถือหุ้น ตนไม่สามารถตรัสรู้ได้ว่าใครจะได้เป็นนายกฯ และตนกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวข้อมูลที่เขามี ก็คนละฉบับเพราะที่เขามีคือ บมจ.006 แต่ตนเป็นเอกสารของผู้ถือหุ้น ที่ต้องใช้รหัสส่วนตัวเข้า

เมื่อถามว่าวันนี้พรรคก้าวไกลไกล ตั้งข้อสังเกต ว่า เรื่องพวกนี้มีการวางแผนทำเป็นกระบวนการ ตั้งแต่การโพสต์และการตั้งคำถามในที่ประชุม นายนิกม์ กล่าวว่า มีประโยชน์อะไรที่ตนต้องทำแบบนั้น เรื่องนี้มันเกิดจากเหตุที่ตนสงสัยว่าทำไมยังถือหุ้นตัวนี้อยู่ได้ ซึ่งตนก็มาดูว่านักการเมืองมีใครถืออยู่บ้าง และเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีการวางแผนอะไรเลย เพราะวันนั้นเรายังไม่รู้เลยว่าว่าที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นนายพิธา และไม่จำเป็นด้วยที่ตนจะต้องไปสกัดกั้น เจ้าตัวคนถือรู้ดีที่สุด

นายนิกม์ กล่าวว่า ยอมรับว่า ตนช่วยตั้งคำถามแต่มันเป็นคำถามที่ตนสงสัย ซึ่งถามไปหลายคำถาม ยกตัวอย่างเช่นถ้านักการเมืองถือหุ้นจะมีผลอะไรหรือไม่ เพราะการตั้งคำถามเป็นการพิมพ์เข้าไป และต้องยอมรับว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนั้น ถามไปหลายคำถาม ส่วนคลิปที่เปิดเผยออกมาเป็นเพียงแค่คำถามบางส่วน จึงอยากเรียกร้องให้มีการเปิดเผยคลิปตัวเต็ม ซึ่งหนึ่งในคำถามนั้นก็เป็นคำถามที่ถูกส่งเข้าไป