"พล.อ.ประยุทธ์" ยิ้มแย้มหลังครม.เลิกประชุม ย้ำ ใช้อำนาจบริหารให้ถูกต้องแก้ไขปัญหาปชช. ส่วนปม แนวคิดขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ทำประชามติแบ่งแยกดินแดน ฝ่ายกฎหมายติดตามอยู่ ย้ำเดินหน้าพูดคุยสันติสุขไม่ใช่เป็นการเจรจาสันติภาพ ชี้ ปัญหาในตอนนี้คือการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้สมบูรณ์ ไม่ว่าใครจะเป็น
วันที่ 13 มิ.ย. 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ จัดปาฐกถาพิเศษหัวข้อ การกำหนดอนาคตตนเอง และให้มีการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราช รัฐปาตานี หรือ รัฐปัตตานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้เรื่องฝ่ายกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่าในความคิดของเราคิดว่าถูกต้องหรือไม่ ทำได้หรือไม่
ส่วนจะมีการตัดไฟแต่ต้นลมอย่างไร เนื่องจากมีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ให้ฝ่ายกฎหมายเขาดำเนินการ และฝ่ายมั่นคงก็ติดตามในเรื่องนี้อยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดตนไม่อยากให้สถานการณ์กลับไปสู่ที่เดิมสถานการณ์ไม่สงบเกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ ความมุ่งหมายของเราคือรักษาสถานการณ์นี้เอาไว้ให้ได้ทั้งการพูดคุยที่ได้มีคณะพูดคุยสันติสุข ซึ่งเป็นกรอบของทั้งรัฐบาลประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปัญหาในตอนนี้คือการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้สมบูรณ์แล้วเสร็จ ไม่ว่าใครจะเป็น ซึ่งสิ่งที่เราทำมาหลายปี ขอให้เกิดความเรียบร้อยเน้นเรื่องการพัฒนา รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งการพูดคุยต่างๆเป็นการพูดคุยสันติสุขไม่ใช่เป็นการเจรจาสันติภาพ เนื่องจากเราไม่ได้รบกัน ขอให้ใช้คำให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ได้เดินมาพร้อมกับนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาวทิพานันท์ ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีการหยอกล้อ พูดคุยยิ้มแย้มอยู่ตลอดระหว่างเดิน ซึ่งเมื่อพลเอกประยุทธ์เดินมาถึงโพเดียมผู้สื่อข่าวได้กล่าวแซวพลเอกประยุทธ์ว่า ยิ้มแย้มแจ่มใสแบบนี้มีข่าวดีหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ก็ร่วมกันทำงาน วันนี้ก็บอกในครม. ว่าต้องอดทน ปัญหาต่างๆก็มีเข้ามาตลอดเวลาโดยเฉพาะเกี่ยวกับบริหารรัฐบาลอยู่ตรงนี้ก็ต้องใช้อำนาจบริหารให้ถูกต้อง ในการแก้ไขปัญหาประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งมีการหารือในหลายมิติทั้งพลังงานประปา ซึ่งก็ต้องหามาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชนมากเกินไป ซึ่งก็ต้อง เตรียมมาตรการรองรับแต่ก็จะทำได้มากน้อยเพียงใดก็สุดแล้วแต่เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ