"เศรษฐา" เผยนักลงทุนทั่วโลก ห่วงสถานการณ์การเมืองไทย เชื่อ หากตั้งรัฐบาลสำเร็จ พร้อมลงทุนในไทย เตรียมขึ้นเหนือคุยผู้ประกอบการ ออกตัวไม่แข่ง "พิธา" แค่เตรียมพร้อมเลือกตั้งอีก 4 ปีข้างหน้า นำ "เพื่อไทย"กลับมาเป็นที่ 1 อีกครั้ง
วันที่ 14 มิ.ย. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นักลงทุนต่างชาติกังวลถึงสถานการณ์การเมืองไทย ว่า เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.66) ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์กับนักลงทุนจากทั่วโลก 107 ราย ที่ต่างสอบถามถึงสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และอยากให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เนื่องจากทำให้การลงทุนหยุดชะงัก ซึ่งตนเองได้ชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยเป็น 1 ใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และอยากให้ทั้ง 8 พรรค จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากฟังจากเสียงนักลงทุนแล้ว พบว่า หากจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนดีขึ้น
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่สำเร็จ จะส่งผลต่อการลงทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มันก็เหนื่อย เพราะมีปัจจัยและตัวแปรเปลี่ยนแปลงตลอด ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศกังวล แต่หากจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วก็เชื่อว่าจะไม่มีนักลงทุนย้ายฐานการผลิตออกไปจากประเทศไทย มั่นใจรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองจะให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเห็นได้จากการเดินสายพบภาคเอกชน และภาคธุรกิจ ของนายพิธา แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ทั้งภาคเอสเอ็มอี และอุตสาหกรรม หากจัดตั้งรัฐบาลได้น่าจะช่วยดึงดูดนักลงทุนกลับมาประเทศไทยได้
ทั้งนี้ หากการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จจะส่งผลต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้อยู่กับความเป็นจริง ไม่อยากให้ ถ้า หรือ สมมติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล และมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้ง 8 พรรค จะตั้งรัฐบาลได้ แม้จะมีตัวแปรทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไปบ้าง แต่มั่นใจว่าจะจัดตั้งได้สำเร็จ ขณะที่นักลงทุนเองก็หวังจะให้จัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะยังมีนักลงทุนจากต่างประเทศอยากย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย เพียงแค่ยังรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
เมื่อถามย้ำว่า เป็นห่วงสถานการณ์การเมืองขณะนี้หรือไม่ เพราะผ่านการเลือกตั้งมานานแต่ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่า เป็นห่วง แต่อยากให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จโดยเร็ว และขณะนี้ตนเองขอโฟกัสการทำหน้าที่ในพรรคเพื่อไทย โดยอาทิตย์หน้าจะเดินทางพบนักธุรกิจขนาดย่อยในจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. โดยอาจจะเป็นจังหวัดน่าน ไปดูการปลูกกาแฟ และโกโก้ เพื่อแก้ปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย และการเผาป่า ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ หรือ ฝุ่น PM 2.5
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้ออกตัวก่อนว่า การลงพื้นที่ภาคเหนือ ไม่ได้ไปหาเสียง หรือแข่งกับนายพิธา ที่ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนที่ภาคเหนือในขณะนี้ แต่ไปรับฟังปัญหาแล้วนำมาดูว่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า พรรคเพื่อไทยจะต้องกลับมาเป็นที่ 1
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า กกต. ไม่รับรอง ส.ส. กว่า 71 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมี ส.ส. พรรคเพื่อไทยมากที่สุด นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ขอไปคุยกับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคก่อน แต่เชื่อว่า ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย จะเคลียร์ตัวเองจากข้อกล่าวหาได้