เปิดปากศพ! ลุงมะเร็งยิง 2 ศพ ไม่สน 60 ล้าน แค้นถูกล่อเปิดตู้เย็นน้ำขังให้ไฟชอร์ต
จากกรณีวานนี้(13มิ.ย.66)เวลา 10.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยังกันเสียชีวิต บริเวณท่าดินแดง ซ.6 แขวงและเขตคลองสาน กรุงเทพฯ จึงนำกำลังสายตรวจเข้าไปตรวจสอบ ต่อมาพบศพนายกัลป์ หุตะกมล อายุ 51 ปี หลานชายคนก่อเหตุถูกยิงเสียชีวิตคารถที่จอดในบ้านพัก และพบอีกสองศพในบ้านคือนางสาวกนกวรรณ แก้วประเสริฐ อายุ 48 ปี หลานสาวคนก่อเหตุ , และนายอดิศักดิ์ ชื่นอารมณ์ อายุประมาณ 67 ปี คนก่อเหตุยิงตนเองเสียชีวิต จากสาเหตุปมขัดแย้งมรดก
วันนี้เวลา 12.30 น. นางเล็กอายุ 65 ปี ภรรยาของคนก่อเหตุ มาพร้อมกับนายบอย (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ลูกชายคนก่อเหตุ เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อรับศพ 3 ศพ ประกอบพิธีทางศาสนา คือ 1.นายอดิศักดิ์ ชื่นอารมณ์ อายุประมาณ 67 ปี คนก่อเหตุ จะไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดประยุรวงศาวาส มีพิธีฌาปนกิจศพวันที่ 18 มิถุนายน 2.นายกัลป์ หุตะกมล อายุ 51 ปี หลานชายคนก่อเหตุ และ3. นางสาวกนกวรรณ แก้วประเสริฐ อายุ 48 ปี หลานสาวคนก่อเหตุ ประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดอนงคารามวรวิหาร พระอารามหลวง มีพิธีฌาปนกิจศพวันที่ 17 มิถุนายน ส่วนสาเหตุที่ทางญาติแยกสามศพประกอบพิธีทางศาสนา เพราะยังทำใจไม่ได้ เนื่องจากสามศพขณะมีชีวิต มีความขัดแย้งกันเรื่องส่วนตัวมาตลอด 5 ปี จนสุดท้ายเกิดเหตุการณ์สลด
ทั้งนี้ในเวลา 14.45 น. ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตนำร่างน้าเขยและหลานรวมสามศพ ออกจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยนางเล็กถือรูปของสามี ซึ่งมีลูกชายนอประกอบพิธีตามพระสงฆ์ เพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณของพ่อตามครอบครัวไปประกอบพิธีตามศาสนาที่วัด มีการมัดตราสังคนตายก่อนยกร่างนายอดิศักดิ์ลงโลงศพ จากนั้นวางพวงมาลัยในโลง แล้วลูกชายจุดธูป 1 ดอก บอกด้วยวิญญาณพ่อให้ตามกลับครอบครัวไป ก่อนพระสงฆ์จะสวดเชิญวิญญาณ และยกโลงศพขึ้นรถกู้ภัยไปที่วัดประยุรวงศาวาส
ในขณะที่อีกสองศพ ร่างของนายกัลป์และนางสาวกนกวรรณ ญาติไม่ได้มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณออกจากโรงพยาบาลมีเพียงอาสาสมัครกู้ภัยและพระสงฆ์ที่ประกอบพิธีเท่านั้น ก่อนยกร่างทั้งสองศพไปประกอบพิธีที่วัดอนงคารามวรวิหาร พระอารามหลวง
ต่อมาเวลา 16.00 น. ทางอาสาสมัครกู้ภัยได้มาที่บ้านเกิดเหตุ พร้อมกับนิมนต์พระสงฆ์มา 1 รูป เพื่อประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณจากบ้านพักที่เกิดเหตุ โดยในบ้านพักมีพี่แดง พี่สาวภรรยาคนก่อเหตุ ร่วมประกอบพิธีนี้ในบ้านพัก โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในบ้านพักเนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัว ระหว่างที่ประกอบพิธี ทางนางเล็กเป็นคนเชิญดวงวิญญาณของนายอดิศักดิ์สามี ส่วนพี่แดงจะเชิญดวงวิญญาณของหลานทั้งสองที่เสียชีวิต
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับคุณนาง อายุ 40 ปี เป็นแม่บ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่าจะเกิดเหตุสลด โดยช่วงเช้าประมาณเกือบ 10.00 น. วานนี้ ตนได้รับสายโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านบอกว่ามีเสียงปืนดังขึ้นจากบ้านพักเกิดเหตุ รัวประมาณเกือบ 20 นัด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋งหลานชายเจ้าของบ้านถูกยิงใส่หลายนัด แต่ไม่ได้สังเกตว่าใครอยู่ในรถ ต่อมาพบพี่แดง พี่สาวภรรยาคนก่อเหตุอยู่ในห้องพักเปิดเพลงเสียงดัง จึงช่วยออกมาจากบ้านพักก่อน แล้วตำรวจก็มาในที่เกิดเหตุ ก่อนพบศพ 3 ศพในบ้านพักระหว่างเกิดเหตุตนได้สอบถามเพื่อนบ้านก็เล่าให้ต้นฟังว่าก่อนเกิดเหตุนายอดิศักดิ์ถือปืนออกมาเดินวนบริเวณหน้าบ้านพัก ต่อมาหลานชายก็บีบแตรรถเก๋งใส่ ซึ่งทางนายอดิศักดิ์ ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายและอยู่ต่อได้ไม่เกิน 1 เดือน เชื่อว่านาทีนั้นคงสติหลุดจึงใช้ปืนกระหน่ำยิงใส่หลานชายและหลานสาว ส่วนสาเหตุที่ทำไมต้องยิงใส่ทั้งสองศพ เพราะสะสมมือเรื่องส่วนตัวที่ถูกกลั่นแกล้งตลอด
ยอมรับว่าที่ผ่านมาน้าเขยกับหลานชายทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนเป็นเรื่องปกติของครอบครัว โดยหลานชายจะหาเรื่องน้าเขยตลอด บางครั้งก็พาลหาเรื่องคนอื่นเช่นพี่เล็ก พี่แดง และแม่บ้าน ยืนยันว่าคนในบ้านอดทนตลอดไม่มีใครโต้ตอบส่วนสาเหตุที่หลานชายและหลานสาวกลั่นแกล้งน้าเขย เนื่องจาก จะบีบให้น้าเขยและน้าสาวช่วยขายมรดกทั้งหมด ทั้งส่วนของบ้านและที่ดินรวม 393 ตารางวา เพื่อที่จะมาแบ่งมรดกแล้วจะได้แยกย้ายกันออกจากบ้านพักไป เพราะหลานชายและหลานสาวไม่อยากอยู่กับน้าเขยและน้าสาวในบ้านพักหลังนี้ จึงคล้ายกับเล่นสงครามประสาทกับทุกคนในบ้าน บีบให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ
นอกจากนั้นก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันหลานชายโพสต์ภาพในเฟซบุ๊กต่อกันหลายวัน รูปที่ฝึกยิงปืนพร้อมกับอาวุธปืนคล้ายจะข่มขู่คนในครอบครัว ทำให้คนในบ้านเริ่มระแวงกับพฤติกรรมของหลานชาย เพราะตัวหลานชายเล่นปืน และชอบหาเรื่องคนในบ้าน หวั่นว่าจะไม่ปลอดภัยส่วนตัวก็ยังเคยถูกหลานชายกลั่นแกล้งแม้ว่าตนจะไม่ใช่ญาติแต่เป็นแม่บ้าน ยืนยันพฤติกรรมหลานชายและหลานสาวที่อยู่ในบ้านพักร้ายกาจมาก
ขณะที่ นางเล็ก อายุ 65 ปี ภรรยาของคนก่อเหตุ เปิดใจว่า สาเหตุที่สามีก่อเหตุสลด ตนเชื่อว่าจากอาการป่วยของสามีที่เป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย จะสามารถอยู่ต่อได้ไม่เกิน 1 เดือน ประกอบกับทน พฤติกรรมหลานชายและหลานสาวที่กันแกล้งมาตลอด 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาสามีพยายามนิ่งและไม่ตอบโต้แต่ทางหลานก็ยังไม่หยุด จึงทำให้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายก่อเหตุดังกล่าว ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องส่วนตัวที่สามีถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องปมแย้งมรดกส่วนของเรื่องมรดก ยอมรับว่าตนมีพี่น้องทั้งหมด5 คน เป็นหญิงล้วน โดยตนเป็นลูกคนสุดท้อง หลังพ่อแม่ที่เป็นเจ้าของมรดกเสียชีวิต ได้ยกบ้านหลังเกิดเหตุให้กับตนและพี่แดง ซึ่งเป็นลูกสาวคนรอง แต่ในส่วนพื้นที่บริเวณชุมชนแออัดที่ปล่อยให้เช่าและทรัพย์สินบางส่วนไม่ได้ระบุใครคือคนรับมรดก หลายปีต่อมาพี่สาวคนโตของตนเสียชีวิต ซึ่งพี่สาวคนโตมีลูกสองคนคือนายกัลป์ หุตะกมล อายุ 51 ปี และนางสาวกนกวรรณ แก้วประเสริฐ อายุ 48 ปี ตนและพี่แดงก็เป็นคนอุปการะและดูแลทั้งนายกัลป์และนางสาวกนกวรรณต่อจากนั้น
ต่อมามีการฟ้องร้องกันเรื่องความเป็นเจ้าของมรดก จนเรื่องยังอยู่ในชั้นศาล เพราะทางหลานชายหลานสาวก็อยากชิงสิทธิ์เป็นเจ้าของ สุดท้ายหลานชายหลานสาวเสนอให้ขายบ้านที่เกิดเหตุที่ตนและพี่แดงเป็นเจ้าของ พร้อมที่ดินรอบนอกบ้านที่ปล่อยคนเช่าบ้าน รวม 393 ตารางวา จำนวน 65 ล้านบาท เพื่อเอามาแบ่งทรัพย์สินอย่างเท่าเทียมกัน และแยกย้ายกันออกจากบ้านหลังที่เกิดเหตุปรากฎว่าตนและพี่แดงขอร้องหลาน ไม่อยากขายบ้านที่ตนเคยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งในส่วนนี้ตนกับพี่แดงเป็นเจ้าของมรดก แต่หลานทั้งสองไม่ยอม แล้วกดดันสารพัดเพื่อให้ยอมขายบ้านเพื่อแบ่งทรัพย์สินกัน เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ โดยทั้งนายกัลป์ และนางสาวกนกวรรณ เริ่มก่อกวนแกล้งสามีตนที่ป่วยตลอด เอาน้ำมาสาดตอนนอน บีบแตรรถหน้าบ้านดังลั่น เอาน้ำร้อนมารดต้นไม้ที่สามีเลี้ยง โพสต์ภาพยิงปืนขู่คนในครอบครัว
ในส่วนตนก็ถูกกลั่นแกล้งเช่นกัน หลานเอาน้ำผสมผงซักผ้ามาราดพื้นครัวและตู้เย็น หวังให้ตนลื่นล้มและไฟดูดขณะเข้าครัว รวมถึงพี่แดง พี่สาวตน ก็ถูกหลานเอากำยานที่จุดมาวางไว้รอบห้องนอน หวังให้ควันเข้าห้องนอน ยืนยันทั้งตน พี่สาวตน และสามีตน ทนพฤติกรรมแบบนี้มา 5 ปี โดยหลานไม่นึกถึงตอนที่ตนและพี่แดงอุปการะและดูแลหลานมา เวลามีหนี้ก็เอาเงินส่วนตัวไปเคลียร์ให้ขณะที่ประเด็นเรื่องปืนของสามี ยอมรับก่อนหน้านี้สามีมีปืนไว้ครอบครอง เพราะเป็นข้าราชการเก่า เผยมีใบอนุญาติปืนในครอบครองถูกกฎหมาย สภาพจิตใจตอนนี้ทั้งครอบครัวที่เหลือ ย่ำแย่มาก