พิรุธกระสุนปริศนาฆ่าหนุ่มดับคาป่ายูคา สงสัยลุงเจอศพอยู่ไกลรู้ได้ไงมีคนตาย
จากกรณีเมื่อเวลา 08.00 น. (13 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.ด่านทับตะโก ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืน ที่บริเวณถนนในหมู่บ้านหุบกระท้อน หมู่ที่ 18 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่เกิดเหตุเป็นถนนในหมู่บ้านในป่ายูคาลิปตัส พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายขวัญชัย คำเทศ อายุ 40 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีส้ม ใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าบู๊ทสีฟ้า สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน มีแผลเป็นรูที่บริเวณหน้าอก 1 รู ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นอาร์ซี สีดำ นอนล้มคว่ำอยู่ โดยบรรทุกกระสอบใส่ของมาด้านหน้ารถอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าคนร้ายคือใคร ตำรวจชุดสืบสวนกำลังติดตามตัวอยู่ ส่วนตัวผู้ตาย จากประวัติพบว่า ผู้ตายเพิ่งจะออกจากเรือนจำในคดีอาวุธปืนเมื่อ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาก่อนจะถูกยิงเสียชิวิตปริศนา
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ พบว่า เส้นทางที่ผู้ตายถูกยิงนั้น เป็นถนนในป่ายูคาลิปตัส เส้นทางเปลี่ยว แทบไม่มีบ้านคน และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จากการลงพื้นที่พบว่า จุดที่ผู้ตายถูกยิงกลางถนน หากเดินเข้าไปในป่ายูคาลิปตัส จะพบต้นยูคาลิปตัส 10 กว่าต้นถูกตัดล้มอยู่ คาดว่า ผู้ตาย ได้ตัดไม้เตรียมจะนำไปขาย แต่ไม้แต่ละต้นมีการตัดโคนต้นไว้แล้ว แต่ยังไม่ทันได้ตัดปลายต้นไม้ ผู้ตายได้ถูกยิงเสียก่อน
นอกจากนี้ห่างออกไปจากจุดที่พบศพประมาณ 15 เมตร ทีมข่าวไปพบกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ปลอก ข้างพงหญ้าริมถนน ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นกระสุนปืนลูกซองของผู้คนร้ายหรือไม่ โดยลักษณะปลอกกระสุนบริเวณท้ายปลอกมีสนิมเกาะ ซึ่งต่อมาทีมข่าวได้บันทึกภาพแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้มาเก็บปลอกกระสุนปืนลูกซองที่ทีมข่าวพบไปตรวจสอบ นอกจากนี้ ตำรวจยังได้นำตัว นายสมัย ซึ่งเป็นคนพบศพคนแรกมาชี้จุดที่เห็นผู้ตายด้วย ซึ่งอยู่ห่างจากศพประมาณ 70 เมตรได้
และด้วยความบังเอิญหรือไม่ ลุงสมัย ได้ชี้จุดที่ตนเองยืนมองเห็นศพให้ทีมข่าวดู ซึ่งดันไปอยู่ใกล้เคียงกับจุดที่ทีมข่าวพบปลอกกระสุนลูกซองตกอยู่มาก ทำให้ทั้งตำรวจและทีมข่าวค่อนข้างแปลกใจว่า ระยะการมองเห็นศพของลุงสมัย ทำไมมองเห็นได้ไกลมากๆ ว่า คือศพของผู้ตาย จากนั้นทีมข่าวได้สอบถาม ลุงสมัย ทับทิมสี เจ้าตัวเปิดเผยว่า ช่วงเวลา 07.40 น. เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ตนเองจะออกไปตัดต้นกระถินเพื่อจะนำไปเลี้ยงแพะจึงได้ชวนเพื่อนนั่งรถกระบะไปด้วยกัน โดยตนเองถึงแม้จะแขนข้างขวาขาด แต่ก็สามารถขับรถมือซ้ายและเข้าเกียร์ได้ไม่มีปัญหา โดยตนเองไม่ได้เข้ามาตัดกระถินบริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 2 เดือนแล้ว เมื่อวานเป็นวันแรกที่กลับมาตัดใหม่ และบังเอิญเพื่อนตนเองมาหาที่บ้าน ฝนตกจึงชวนกันไปตัดกระถินยามว่าง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองจอดรถกระบะไว้บนถนนทางหลวงชนบท และเดินลงจากรถหยิบมีดพร้ามาจะตัดต้นกระถิน แต่เมื่อเดินเข้าไปในทางดิน ซึ่งเป็นป่ายูคาลิปตัส และต้นกระถิน ในระยะประมาณ 70 เมตร ตนเองได้สังเกตเห็นว่า เหมือนมีคนนอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนน ด้วยความตกใจ และคิดว่าเป็นคนนอนเสียชีวิตจริงๆ จึงไม่ได้เดินเข้าไปดูใกล้ๆเพราะกลัว ส่วนเพื่อนไม่ได้ลงจากรถ ตนเองจึงรีบกลับขับรถกระบะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบทันที ซึ่งระยะทางที่เกิดเหตุจะอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กม. นายสมัย ยืนยัน ตนเองก่อนจะพบศพไม่ได้ยินเสียงปืน หรือ มีใครขี่รถสวนออกมาจากซอยป่าจุดที่พบศพเลยซักคน ส่วนผู้ตายตนเองก็ไม่ค่อยรู้จัก เคยเห็นหน้าแต่ไม่เคยทักทายกัน และยืนยันตนเองไม่เกี่ยวข้องและตนเองมองเห็นศพในระยะประมาณ 70 เมตรจริงๆ ส่วนที่ไม่ได้เดินไปดูใกล้ๆ เพราะตกใจกลัวก็แค่นั้น
ทั้งนี้ก่อนพบว่าเสียชีวิตผู้ตายได้หายออกไปจาบ้านตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. จนกระทั่งไปเจอเป็นศพในวันที่ 14 มิ.ย. ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้สอบถายนายไอซ์ อายุ 16 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเองอยู่บ้านกับพ่อ 2 คน สวนแม่แยกทางกันไปนานแล้ว ช่วง 10 โมงเช้า 12 มิถุนายน ตนเองได้ออกไปทำงานนอกบ้าน ส่วนพ่อยังคงนอนหลับอยู่ภายในบ้านไม่ได้ออกไปไหน กระทั่งช่วง 2 ทุ่มตนเองกลับบ้านมาก็ไม่เจอพบพ่อและรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ตนเองก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหนอย่างไร คิดว่า พ่อคงไปหาเพื่อนแถวบ้าน จนเช้า 13 มิถุนายน ตนเองจะออกไปทำงานเริ่มสงสัยแล้วว่าพ่อก็ยังไม่กลับมา จากนั้นไม่นาน ย่าได้โทรมาบอกว่า พ่อถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ตนเองจึงมาดูที่เกิดเหตุทันที นายไอซ์ ยืนยันที่ผ่านมาพ่อไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แต่พ่อมีพฤติกรรมเสพยาบ้า แต่ก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร ทำแต่งานที่ชอบตัดไม้ไปขาย ส่วนป่ายูคาลิปตัสที่พ่อไปตัดไม้ พ่อก็ขออนุญาติเจ้าของที่แล้วไม่น่าจะใช่ปัญหา และพ่อก็เพิ่งจะออกจากคุกได้เพียง 7 วัน (6 มิ.ย.) ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อถูกตำรวจจับเข้าคุกในคดีอาวุธปืน ซึ่งใครไม่รู้แจ้งจับพ่อ ทำให้ตนเองไม่รู้เลยว่า ใครเป็นคนลงมือฆ่าพ่อ
นอกจากนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับนายขวัญใจ เขาช่อง หรือ ลุงศักดิ์ เจ้าของที่ที่เกิดเหตุ โดยเจ้าตัวนั้น ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดัน นอนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในบ้าน เดินไปไหนไม่ได้มา 1 ปีกว่าแล้ว เจ้าตัวบอกว่า ที่ผ่านมาตนเองรับรู้มาตลอดว่า ชอบมีชาวบ้านแอบเข้าไปตัดไม้ในสวนของตนเองบ่อยครั้ง แต่ตนเองก็ไม่เคยว่า เพราะสวนของตนเอง มีมากกว่า 300-400 ไร่ ก็ดูแลไม่หมดแล้ว และก่อนที่ตนเองจะป่วย ก็มักจะเห็นผู้ตายเข้ามาตัดไม้ในพื้นที่ตนเองบ้าง แต่ตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรู้ว่าผู้ตายมีฐานะลำบาก ไม่ได้ตัดไม้ขโมยอะไรเยอะแยะ จึงเต็มใจที่จะแบ่งให้ไม่หวง
ส่วนลูกชาย วันนี้ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำ ซึ่งตนเองก็ยืนยันได้ว่า ลูกชายก็คงไม่รู้เรื่อง เพราะมีสวนข้าวโพดที่ต้องดูแลอีกจำนวนมาก และไม่ได้มีนิสัยหวงของ ขนาดต้องลากปืนลูกซองไปยิงคนตาย โดยตนเองได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปทั้งหมดแล้ว และเสียใจเหมือนกันที่มาเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นภายในที่ดินของตนเอง