ผัวโหดทืบเมียแก้วหูแตก เจอจับคาเตียงโต้ชอบขืนใจ โชว์เก๋าส่งรูปในกรงขู่เมีย

หญิงร้องขอความช่วยเหลือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ถูกสามีชาวกะเหรี่ยงโหด ทำร้ายร่างกายช้ำไปทั้งตัวจนแก้วหูซ้ายแตก พยายามหลบหนีแต่ถูกตามไปทำร้ายซ้ำที่ทำงาน และยังบุกงัดบ้านเข้าไปข่มขืนหลายครั้ง หากไม่ยอมก็จะถูกทำร้ายร่างกายอีก

นางสาวหมีพู อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักกับนายมานัส อายุ 36 ปี ประมาณต้นปี 2566 คบหากันมาได้หนึ่งเดือนก็มีการทำร้ายร่างกายตนบ่อยครั้ง และมีการทำร้ายแบบรุนแรงประมาณ 4 ครั้ง คือ ตบ ตี และกระทืบ จนแก้วหูข้างซ้ายแตก ต้องรักษาตัวอยู่ประมาณสองเดือน จนปัจจุบันนี้หูก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ จนตนขอเลิกและหนีไปอยู่หอพักย่านเตาปูน ในกรุงเทพฯ แต่หลังจากเลิกกันไปแล้วฝ่ายชายยังตามมาบุกรุกที่ห้องพัก โดยฝ่ายชายไปบุกพังข้างของในบ้านของตน และจะไปดูใบเสร็จค่าไฟหอพักใหม่ที่ตนไปอาศัยอยู่ เพื่อตามไปยังที่อยู่ในใบเสร็จปัจจุบัน ตามไปล่วงละเมิดทางเพศ ถ้าตนไม่ยินยอมก็จะโดนทำร้ายร่างกาย

จนครั้งสุดท้ายที่โดนทำร้าย เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายมานัสบุกไปตบหน้าตนต่อหน้าผู้คนที่อู่ซ่อมรถ จนตนหมดความอดทน จึงได้ร้องเรียนไปทางกันจอมพลังเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความและออกหมายจับไปแล้วแต่ยังจับตัวไม่ได้ ทุกครั้งที่ตำรวจจะไปจับกุม นายมานัสก็บอกว่าเป็นเรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่ง แต่ตนยืนยันว่าเราตัดขาดกันแล้วอย่ามายุ่งกันอีก

ด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง บอกว่า ได้ประสานมายังผู้กำกับ สภ.อุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบหมายจับของผู้ก่อเหตุทราบว่า นายมานัส ชายชาวกะเหรี่ยง มีหมายจับค้างอยู่ที่ สน.เตาปูน ในหลายข้อหา จึงได้ประสานมาที่ สภ.อุทัย วางแผนให้ตำรวจเข้าไปจับตัว

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านพระปิ่น 11 อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.อุทัย เมื่อไปถึงชุดสืบสวนได้ขึ้นไปที่ด้านบน พบนายมานัส นอนอยู่ในห้อง ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับของ สน. เตาปูน ทั้งหมด 4 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กักขังหน่วงเหนี่ยว บุกรุกเคหสถานยามวิกาล และลักทรัพย์ ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.อุทัย ระหว่างนั้นสื่อมวลชนได้สอบถาม นายมานัส ยอมรับว่า มีการทำร้ายร่างกายจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายหลายครั้ง พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ลักทรัพย์ ส่วนการข่มขืนก็ไม่เป็นความจริง โดยอ้างว่ายังอยู่กินฉันสามีภรรยากัน และอ้างอีกว่า สาเหตุที่ทำร้ายเพราะผู้หญิงมีเรื่องผู้ชายอื่น และยอมรับว่าตนเองข่มขู่ที่จะทำร้ายร่างกายผู้หญิงจริงเนื่องจากหึงหวง

ด้าน น.ส หมีพู บอกว่า ยังกังวลใจ เกรงว่าหากผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวออกมา ตนเองจะได้รับอันตราย เพราะผู้ต้องหาเคยข่มขู่ว่า หากไปแจ้งตำรวจจะฆ่าตนเอง แม้แต่ระหว่างที่ตัวผู้ต้องหาอยู่ในห้องสืบสวนยังไม่ยอมสำนึกผิด ได้ถ่ายรูปตัวเองส่งมาให้ พร้อมกับระบุข้อความว่า “พอใจยัง" "ทำแบบนี้ทำไม”

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างว่าทำร้ายเพราะตนนอกใจหรือมีแฟนใหม่นั้น ยืนยันว่า ไม่จริง อดีตแฟนหนุ่มก่อเหตุจากความโมโหหรือไม่พอใจกับเรื่องทั่วไป หากไล่ออกจากบ้านก็จะถูกตบตี หรือยกมือทำท่าตี มีการข่มขู่ จนเกิดความกลัวและไม่กล้าพูด ตนต้องหลีกเลี่ยงโดยการย้ายไปอยู่ที่อื่นแทน ซึ่งพอย้ายไปอยู่ที่อื่นก็จะถูกตามไปกระทืบและทำร้ายร่างกายอีก จนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม ทุกวันนี้ต้องทำงานไปกลับกรุงเทพ-อยุธยา เหนื่อยมาก และตนมาทราบว่าแฟนเก่าคนอื่นๆ ก็ถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้เช่นกัน หลังจากที่ตนเองก็ถูกทำร้ายมาแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาก็จะใช้เหตุผลเดียวกันนี้ เรื่องผู้หญิงมีคนอื่นหรือหึงหวงในการกล่าวอ้าง

ขณะเดียวกัน นางสาวหมวย อดีตภรรยา ก็ได้มาติดตามความคืบหน้าที่ตนเองเคยแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกับให้ปากคำเพื่อประกอบพยานหลักฐานในการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายมานัส ผู้ต้องหาอดีตสามีในการดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย

ออกคุกแล้วเจอกัน!