"เลขาฯ ป.ป.ช." ยัน "พิธา " ยื่นบัญชีทรัพย์สิน หุ้นไอทีวี เป็นผู้จัดการมรดก ตามคำสั่งศาล ก่อนเข้ารับตำแหน่งปี 62 แต่ไม่ยืนยันหุ้นเป็นของนายพิธา 100% หรือไม่
วันนี้( 16 มิ.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินโดย หนึ่งในนั้นคือการยื่นเอกสารถือครองหุ้นบริษัท ITV จำกัด (มหาชน) ในนามผู้จัดการมรดกซึ่งมีเอกสารทางราชการคือคำสั่งศาล และหนี้การค้ำประกันตามที่ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นการยื่นก่อนเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 62 เป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามปกติ และได้มีการยื่นเข้ามาเพิ่มเติมเป็นใบหุ้นของ itv ที่มีเอกสารระบุชื่อเป็นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จำนวน 42,000 หุ้น มูลค่าประมาณ 42,000 บาท และมีหมายเหตุกำกับ มีเอกสารประกอบคือคำสั่งศาล เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปี 2550 ที่ได้ระบุว่า ให้นายพิธาเป็นผู้จัดการมรดก
ส่วนการโอนหุ้นของนายพิธานั้น ป.ป.ช.ก็จะต้องตรวจสอบด้วยเช่นกันว่ามีการโอน เรียบร้อยเมื่อไหร่ โอนก่อนหรือโอนหลังพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งต้องดูว่าหลังจากพ้นตำแหน่งทรัพย์สินดังกล่าวยังอยู่หรือไม่ ถ้าพ้นแล้วแต่ทรัพย์สินยังอยู่ก็ต้องยื่น แต่ถ้าพ้นแล้วทรัพย์สินไม่อยู่ก็ไม่ต้องยื่นตามกฎหมาย แต่ถ้ามีเหตุสงสัย อาจจะแค่สอบถาม เพราะหุ้นดังกล่าวมีมูลค่าเพียงกว่า 40,000 กว่าบาท ถ้าเทียบกับสัดส่วนที่ยื่นมาซึ่งเป็นทรัพย์สินจากการเป็นผู้จัดการมรดกรายการอื่น ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยมาก
ส่วนกรณีการเป็นผู้จัดการมรดก นอกจากจะมีคำสั่งศาล ต้องมีเอกสารอื่นประกอบด้วยหรือไม่ เลขาป.ป.ช.ชี้แจงว่าจะต้องมีการตรวจสอบคำสั่งศาล ว่าจะต้องมีหนังสือขอว่าเป็นสำเนาหรือต้นขั้วที่มาจากคำสั่งศาลหรือไม่ เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้อง 5 ชุด เป็นเอกสารตั้งแต่ปี 2550 ผ่านมาแล้วกว่า 15 ปี ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าปกติ เนื่องจากทางราชการปกติแล้วเอกสารจะต้องทำลายเอกสารในเวลา 10 ปี การจะไปค้นข้อมูลเก่าของแต่ละหน่วยงานอาจเป็นไปด้วยความยากลำบาก และได้รับการแจ้งว่าอยู่ระหว่างการตรวจค้นยังหาไม่เจอ
เลขา ป.ป.ช.กล่าวอีกว่าล่าสุดได้รับแจ้งจากทางศาล พบว่าการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกดังกล่าวไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงต้องไปดูว่าในพินัยกรรมมอบทรัพย์สินให้ใครบ้าง เพราะว่านายพิธาอาจจะมีหน้าที่แค่เป็นคนแบ่งทรัพย์สินให้กับทายาท ซึ่งในประเด็นดังกล่าว ป.ป.ช. ไม่ได้ขอเอกสารดังกล่าวเพราะไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. เนื่องจากบทบาทหน้าที่ของ ป.ป.ช.มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่เข้าและพ้นจากตำแหน่งเท่านั้น และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า หุ้น iTV เป็นของนายพิธา 100% เพราะไม่เห็นรายละเอียด ซึ่ง ป.ป.ช. จะรู้เพียงว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่ง มีทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งนายพิธา ได้ยื่นในฐานะเป็นผู้มรดกให้ ป.ป.ช. แล้วเมื่อตอนเข้ารับตำแหน่ง
ส่วนการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ อดีต ส.ส. กรณีพ้นจากตำแหน่งนั้นได้ยื่นมาแล้ว ร้อยละ 80 ส่วนที่เหลือขอขยายระยะเวลา ซึ่งจะสิ้นสุดใน 18 มิ.ย. นี้" นายนิวัติไชย กล่าว