บุกรวบ "ไข่เล็ก" ตีนแมวลักทรัพย์กว่า 2 ล้านบาท แฉประวัติเคยร่วม "แก๊งไทยสนาม" ตำนานโจรยุค Y2K เผยได้วิชามาจากเรือนจำ

วันที่ 17 มิ.ย.2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หน.PCT ชุดที่ 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) ร่วมจับกุม นายศราวุธ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ไข่เล็ก อายุ 46 ปี

ผู้ต้องหาในข้อหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า” โดยถูกจับกุมขณะที่กำลังก่อเหตุได้บริเวณริมถนนบางเอียน ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมไขควง อุปกรณ์การงัดแงะ และเงินสด (ต่างประเทศ) ที่ขโมยมา

สืบเนื่องจากชุดสืบสวนทราบว่า นายศราวุธ ฉายา “จอมโจรไขควงเดียว” ได้ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์หลายพื้นที่ ตระเวนก่อเหตุย่องเข้าบ้านประชาชนไม่ต่ำกว่า 5 หลังคาเรือนกวาดทรัพย์สินไปรวมไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดยเคยก่อเหตุร่วมกับกลุ่มเพื่อนช่วงปี 2549 ขโมยของในบ้านของประชาชนในพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณทล โดนกันแบบรายวัน กวาดทรัพย์ไปรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 29 ล้านบาท โดยแผนประทุษกรรมการก่อเหตุคือใช้ไขควงเพียงอันเดียว

ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนจึงวางแผนสืบสวนสะกดรอยจนทราบว่า นายศราวุธ ได้ก่อเหตุบริเวณอาคารพาณิชย์แบบเก่าแห่งหนึ่ง ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อาศัยจังหวะที่คนร้ายเดินออกมาจากตรอกข้างอาคารพาณิชย์ดังกล่าว แสดงตัวเข้าจับกุม จากผลการตรวจค้นตัวพบไขควง และอุปกรณ์การงัดแงะ อีกทั้งพบทรัพย์สินที่เพิ่งขโมยมา

จากการสอบสวน นายศราวุธ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเป็นคน จ.สุราษฎร์ธานี แต่เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาได้เดินทางมาอาศัยเรียนปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ หลังจากจบปริญญาตรีได้ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เห็นว่าได้เงินน้อยและไม่พอใช้ จึงเริ่มก่อเหตุลักขโมยจากของเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อยมาจนมีชื่อเสียงชื่อแก๊งว่า “แก๊งไทยสยาม” มาจากนามสกุลเดียวกันเพราะทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน

นายศราวุธ ให้การต่อว่า จนวันหนึ่งประมาณปี 2548-2549 ตนได้เข้าไปขโมยของในบ้านย่านยานนาวา ได้ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมหลายล้านบาท โดยเป้าหมายของการเข้าขโมยคือ เงิน ทอง เครื่องเพชรและพระที่มีมูลค่า จากการขโมยครั้งนั้นตนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ติดตามตนจนเจอ ทำให้ตนและพี่ ๆ ของตนอีก 3 คนถูกจับกุมด้วย ซึ่งหลังจากถูกจับก็เข้าไปอยู่ในเรือนจำได้เรียนรู้ความผิดพลาดต่าง ๆ

นายศราวุธ ให้การอีกว่า แต่เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วก็ยังติดนิสัยเดิม จึงไปก่อเหตุอีกและถูกจับอีก 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2555 ในพื้นที่ สภ.ปากช่อง และครั้งพ้นโทษออกมาก็ยังมั่นคงในเส้นทางสายเดิม จนมาถูกจับกุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2561 ในพื้นที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ้นโทษออกมาปี 2565 ตนคิดว่าได้เตรียมการก่อเหตุเป็นอย่างดี เพราะมีวิธีการหลบเลี่ยงหลายอย่าง

นายศราวุธ ให้การว่า ซึ่งวิชาที่กล่าวมา ตนได้วิชามาจากที่ตนได้ติดคุกอยู่ในเรือนจำ เคยติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้คาดไม่ถึงว่าจะมาถูกจับแบบนี้ ตนรู้สึกงงมาก และขอให้คำมั่นต่อตำรวจชุดจับกุมว่าหากพ้นโทษออกมาแล้ว จะไม่ก่อเหตุอีกเพราะไม่อยากติดคุกอีกแล้ว โดยเตือนไปยังประชาชนว่าหากไม่อยากถูกขึ้นบ้านต้องเลี้ยงหมา และไม่เก็บทรัพย์สินไว้ในบ้าน

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป