ผู้การฯ เมืองชลช็อกถูกแจ้งจับรีด 140 ล้าน สารวัตรโต้ยิบ เจอแล้วรถส่งเงินซุกหมู่บ้าน

วันที่ 17 มิ.ย. 2566 จากกรณีที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี มีการรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหาย 6 ราย แจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมพวกรวม 10 คน อุ้มรีดไถเงินจำนวน 140 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย ประกอบด้วย
1.พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
2.พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาสุพัน รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
3.พ ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี
4.พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง
5.พ.ต.อ.ดำรงค์ อ่อนตา ผกก.สอท.
6.พ.ต.ต.นครราช นนสีลาด
7.พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่
8.ร.ต.อ.สมบุญ บุตรดาเลิศ
9.นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี
10.นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์

ผู้เสียหายแจ้งว่า ได้มีโอกาสไปเจอกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แล้วมีการเรียกเงิน โดยมีนายตำรวจคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และพลเรือนอีก 2 คน ตามรายชื่อดังกล่าว

โดยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมาว่า มีขบวนการเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งตำรวจที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจค้นบ้านที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ 1.บ้านนายธนินวัฒน์ (เป้) เขตคลองสามวา กทม. 2.บ้านนายเสฏฐวุฒิ (กัน) อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 3.บ้านนายอภิรักษ์ (ต๊อบ) อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่จับได้เพียงนายเป้ ส่วนนายกัน และนายต๊อบ ไม่พบตัว

จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายเป้มาสอบสวนที่ สน.คันนายาว เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 23 พ.ค. 2566 ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ได้นำตัวนายเป้ ไปพบ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีการคุยกันถึงคดีเกี่ยวกับเงินที่พัวพันกับครอบครัวของผู้ต้องหาซึ่งอ้างว่าเกี่ยวกับเว็บพนัน จนเกิดวลีเด็ด "เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา" หลังจากนั้นได้มีนายพิสิษฐ์ หรือต้น เข้ามาเจรจาเรียกเงิน 120 ล้านบาท

กระทั่งเวลา 23.00 น. นายวีระ หรือบอย ได้เข้ามาพูดคุยต่อ ก่อนพาตัวนายเป้ ไปที่ห้องใน สภ.บางละมุง

จากนั้นนายเป้ ได้ติดต่อกับกลุ่มเพื่อนเพื่อยืมเงินรวม 85.2 ล้านบาท และติดต่อนายกัน เตรียมเงินเคลียร์คดี 20 ล้านบาท กระทั่งเวลา 22.00 น. ของวันที่ 24 พ.ค.. นายเป้ได้รับการประกันตัว โดยมีนายบอยพาไปส่งที่บ้าน

วันต่อมา 25 พ.ค. นายกัน เดินทางกลับถึงไทย ได้นัดพบเจอกับนายต้น เพื่อส่งเงิน 5 ล้านบาท และนัดส่งเงินอีกรอบ วันที่ 26 พ.ค.

ขณะที่ในวันที่ 26 พ.ค. นายบอย ได้นัดหมายนายเป้ และนายจักรกริช หรือแก๊บ พูดคุยเรื่องคดี เรียกเงินอีก 30 ล้านบาท และนายกันได้เดินทางไปส่งเงินที่เหลือ 20 ล้านบาทให้กับนายต้น

และวันที่ 27 พ.ค. นายแก๊บ นำเงิน 30 ล้านบาท มอบให้กับนายบอย โดยมีชายขาเป๋เป็นตัวแทนรับเงิน

โดยเรื่องนี้ ผู้เสียหายมีการระดมเงิน 85.2 ล้านบาทส่งตำรวจ โดยนายเป้ได้ติดต่อขอยืมจากนายเค 29.2 ล้านบาท นายพุ 8 ล้านบาท และ น.ส.ใหม่ 28 ล้านบาท ขณะที่นายกัน ได้ขอยืมนายบอย มาอีก 20 ล้านบาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ เมื่อ 3 วันที่แล้ว ตอนแรกที่ได้รับข้อมูลก็ยังไม่เชื่อ เพราะการกล่าวหาตำรวจระดับสูงจะมีความผิด และที่ผู้ร้องเรียนไปแจ้งที่ สภ.คูคต เพราะมีการส่งมอบเงินที่พื้นที่ดังกล่าว จากนั้นตนได้นำเรียน ผบ.ตร. และได้สืบสวนสอบสวน พบว่า มีมูลความจริง เช้าพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) จะนำข้อมูลไปอนุมัติออกหมายจับ

สำหรับจุดส่งมอบเงิน 85.2 ล้านบาท มีด้วยกัน 2 จุด จุดที่ 1 จะวางไว้ท้ายรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สัส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวน 57 ล้านบาท ส่วนจุดที่ 2 นำเงินใส่กระเป๋า ไปส่งหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.คูคต อ.ลําลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งบริเวณท้ายซอยยังคงมีรถยนต์สีส้มที่ทางตำรวจที่ร่วมก่อเหตุนัดเพื่อนของนายเป้ ผู้เสียหาย ให้ส่งเงินกว่า 57 ล้านบาท จอดอยู่ท้ายหมู่บ้าน ทีมข่าวยังสังเกตว่าบริเวณในหมู่บ้านพบเป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้น มีประมาณเกือบ 100 หลังคาเรือน ในหมู่บ้านไม่มี รปภ.ดูแลความปลอดภัย บุคคลภายนอกสามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านแห่งนี้ได้ง่าย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณจรรยา ชาวบ้านที่เห็นรถต้องสงสัย เผยว่า ก่อนหน้านี้เคยเห็นรถคันดังกล่าวขับเข้ามาในหมู่บ้านจริง ช่วงเวลาประมาณบ่ายๆ แต่ไม่สามารถระบุวันได้แน่ชัด ซึ่งตอนนั้นตนสังเกตเห็นว่ารถเก๋งคันดังกล่าวขับเข้ามาในหมู่บ้านด้วยความเร็วผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด และไม่ได้สังเกตเห็นว่าภายในรถเก๋งมีใครบ้าง และมากันกี่คน จากนั้นตนก็ไม่เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับกลับออกมาจากหมู่บ้าน และก็ไม่รู้ว่าจอดทิ้งไว้บริเวณท้ายซอยหมู่บ้าน

นางจรรยา เผยต่อว่า ที่ผ่านตนไม่เคยเห็นลักษณะรถเก๋งคันดังกล่าววิ่งเข้ามาภายในหมู่บ้านแต่อย่างใด จึงทำให้ตนก็มั่นใจว่าไม่น่าจะใช้รถเก๋งของคนในหมู่บ้านเพราะไม่คุ้นเคย หลังจากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอของทีมข่าว ตนก็รู้สึกตกใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ภายในหมู่บ้าน

สอบถามนางสมพร รองประธานหมู่บ้าน บอกว่า ปกติแล้วหมู่บ้านแห่งนี้จะสามารถเข้าออกได้ 2 ช่องทาง ซึ่งบริเวณท้ายหมู่บ้านจะมีรถแท็กซี่เข้าออกเป็นประจำ โดยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเปิดสามารถขับรถเข้าออกได้ตลอดเวลา ส่วนที่จอดรถท้ายหมู่บ้านก็จะมีลูกบ้านจอดรถอยู่เป็นประจำ ส่วนรถแท็กซี่สีส้มที่มีการส่งเงินให้กันนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อน คาดว่าเป็นรถของคนนอกหมู่บ้านนำมาจอด

นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณด้านหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเส้นทางในการส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว โดยชาวบ้านในพื้นที่บอกกับทีมข่าวว่า เส้นทางที่จะมุ่งหน้าสู่บริเวณถนนด้านหลังวัดแสงแก้วฯ นั้นสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง โดยทางเข้าจะมีลักษณะเป็นถนนลาดยางไปจนถึงบริเวณโดยรอบของวัด ถัดจากนั้นเป็นเส้นทางถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก และเส้นทางดินลูกรัง สองข้างทางเป็นป่าละเมาะ ไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่ค่อยมีชาวบ้านอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่มักจะเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านในพื้นที่ ใช้เป็นทางผ่านเพื่อไปทำไร่ทำสวน

ทีมข่าวยังได้ไปที่บ้านของนายธนินวัฒน์ หรือเป้ เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งถูกตำรวจตรวจค้นจนเป็นที่มาของการรีดเงิน 140 ล้านบาท โดย รปภ. ให้ข้อมูลว่า ในวันที่ 23 พ.ค. ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. มีบุคคลที่คาดว่าจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบเดินทางมาที่หมู่บ้าน และได้แสดงตัวว่าบอกว่าจะเข้าไปทำงาน โดยมีรถขับตามกันประมาณ 3 คัน คาดว่ามีประมาณ 7-8 คน เท่าที่ตนจำได้หนึ่งในนั้นเป็นรถกระบะสีส้ม หากจำไม่ผิดคาดว่าจะเป็นรถฟอร์ด ซึ่งเขามาพร้อมกับหมายค้นและได้แสดงให้ตนดู แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดของหมายดังกล่าว เนื่องจากเขาแสดงให้เห็นแบบห่างๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 2-3 ชั่วโมง และได้เดินทางออกมาประมาณ 15.00 น. ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่ออกมาตนไม่ได้เห็นนายธนินวัฒน์ หรือลูกบ้านออกมาด้วย และในวันดังกล่าวตนและเพื่อนที่ปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ด้วยแต่อย่างใด มีเพียงนิติบุคคลของหมู่บ้านที่เข้าไปสังเกตการณ์ในวันนั้นด้วย

ขณะที่ ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า ไม่สะดวกชี้แจง และตัดสายไป

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง พ ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นข่าวใหญ่โต ได้ทราบเรื่องแล้วเหมือนกัน ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน สื่อบอกว่าจะมีการออกหมายจับตน ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน ยืนยันว่ายังไม่มีหมายจับมา ตนอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชา