ไขปริศนาครูกุ๊กไก่ตายไม่เกี่ยวฆาตกรรม แม่ส่งแชตลูกสาวลาตาย ผอ.รู้ข่าวช็อกเข้า รพ.

กรณีเหตุการณ์พบศพ น.ส.ปารียา หรือครูกุ๊กไก่ อายุ 28ปี ครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ใช้สายไฟผูกคอกับบานเกล็ดหน้าต่างบ้านเช่าไม่มีเลขที่ เสียชีวิตห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กม. สภาพศพห้อยขาติดกับพื้นเสียชีวิตในชุดนอนสีฟ้าชมพู เหตุเกิดเมื่อเที่ยง 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา

เบื้องต้นทางญาติๆ ได้นำศพครูกุ๊กไก่ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านแม่ที่หมู่บ้านปลายนา ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางความคลางแคลงใจ

โดยนายธเนศ อายุ 53ปี พ่อของครูกุ๊กไก่ ได้ร้องเรียนกับสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ว่าตนติดใจสาเหตุการตายของลูกสาวว่าผิดปกติ เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวของตนเคยโทรศัพท์มาร่ำไห้กับตนหลายครั้งว่ากำลังมีปัญหากับผู้บริหารคนหนึ่งของโรงเรียนในเรื่องส่วนตัว

ล่าสุด วันที่ 18 มิ.ย. 2566 ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพูดคุยกับนายโสภณ และนางปลื้มจิตร์ น้าและแม่ของครูกุ๊กไก่ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่กับน้าอยู่ที่โรงพยาบาล กระทั่งช่วง 08.58 น. ครูกุ๊กไก่ได้ส่งข้อความทางไลน์เข้ามาเป็นภาษาใต้ว่า "ถ้าวันไหนนุ้ยหมดลมหายใจ ช่วยพานุ้ยกลับไปบ้านกันนะที่พ่อสร้าง" จากนั้น ด้วยความที่แม่ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากครูกุ๊กไก่ เคยพูดแบบนี้บ่อย ก็เลยตอบไปว่า กระเป๋าอยู่หน้ารถ แต่ครูกุ๊กไก่ ก็ยังตอบกลับมาว่า ค่ะ แล้วก็บอกอีกว่า "แม่ไม่ต้องเครียดนะ นุ้ยไม่ยุ่งกับใครอีกแล้ว อยู่คนเดียว" แล้วก็ส่งรูปหน้าต่างกับสายไฟมาให้ บอกว่า "เอาตรงไหนดีนะแม่" จากนั้นครูกุ๊กไก่ก็ไม่รับสายแม่อีกเลย

จนกระทั่งเมื่อแม่ติดต่อกับครูกุ๊กไก่ไม่ได้ ก็เลยรีบขับรถไปยังจุดเกิดเหตุ แต่พอไปถึงเข้าบ้านไม่ได้ แม่ก็เลนโทรไปตาม ผอ.ให้รีบมาเปิดประตูให้ ยืนยันก่อนเกิดเหตุ ผอ.อยู่ที่โรงเรียน และทุกคนก็พยายามช่วยครูกุ๊กไก่สุดความสามารถแล้ว ส่วนประเด็นที่พ่อของครูกุ๊กไก่สงสัย และอยากจะนำศพไปผ่าชันสูตรอีกครั้ง เรื่องนี้คนเป็นพ่อก็มีสิทธิ์ แต่ทางครอบครัวทางแม่ยืนยันว่าจะไม่ส่งศพของครูกุ๊กไก่ ไปชันสูตรและจะทำพิธีฌาปนกิจตามเวลาที่กำหนดเอาไว้คือวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน เนื่องจากที่เกิดเหตุมีหลักฐานชัดเจน พร้อมพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นด้วยกันว่า ครูกุ๊กไก่ฆ่าตัวตายเองโดยไม่ได้เป็นเหตุฆาตกรรม ส่วนเรื่องที่ครูกุ๊กไก่จะขอลาออก ยอมรับว่าคุยกับแม่ตลอด แต่แม่เป็นคนขอให้ครูกุ๊กไก่เรียนให้จบเสียก่อน ยืนยันทางครอบครัวฝ่ายแม่ไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้ไปพบกับนางสุพรทิพย์ จินนุพงศ์ อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บอกว่า เช้าวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าเห็นครูกุ๊กไก่อยู่ในบ้าน ส่วน ผอ.ไปโรงเรียน กระทั่งประมาณ 10 โมงกว่าๆ แม่ของคุณครูกุ๊กไก่ได้เข้ามาเคาะประตูเรียก และแจ้งว่าให้ไปช่วยเหลือครูกุ๊กไก่ เพราะไม่มีใครเปิดประตูบ้านได้

จากนั้นเมื่อเดินไปถึงหน้าบ้าน แม่ของครูกุ๊กไก่ได้โทรศัพท์ไปตาม ผอ.ให้เข้ามาเปิดประตู แต่เปิดได้แค่ประตูหน้าบ้าน เพราะภายในห้องที่เกิดเหตุครูกุ๊กไก่ ล็อกประตูไว้ที่ด้านใน เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ตนเองจึงไปเอาขวานมาเคาะประตูจนเป็นรู กระทั่งน้องของครูกุ๊กไก่ มองไปเห็นขาของครูกุ๊กไก่ ค่อยๆ หย่อนลงมาติดพื้น ทุกคนจึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเอาชะแลงมางัดประตู แต่ก็ช่วยครูกุ๊กไก่ไม่ทัน

ยืนยันทุกคนพยายามช่วยครูกุ๊กไก่ ซึ่งที่พ่อร้องกับสื่อพร้อมกับตั้งคำถามว่า ผอ.จงใจไม่เข้าไปช่วยทั้งๆ ที่อยู่หน้าห้อง ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตนเองอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการฆาตกรรม เนื่องจากในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตนเองรวมถึงแม่ของครูกุ๊กไก่ และ ผอ.ได้ยินเสียงหายใจเฮือกสุดท้ายของครูกุ๊กไก่ดังออกมาจากในห้อง

ส่วนตัวขอยืนยันว่า ในระหว่างที่ครูกุ๊กไก่ เข้ามาใช้ชีวิตอยู่กับ ผอ.ประมาณ 2 ปี ไม่เคยเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันรุนแรง ที่ผ่านมา ยอมรับว่าเคยปลอบใจครูกุ๊กไก่ เวลาเห็นลงเฟซบุ๊กน้อยใจอยู่หลายครั้ง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

บอกลาแม่ก่อนตาย