คู่รักนิรันดร์! แต่งงาน 43 วันบ่าวสาวดับคู่ เรื่องแปลกพระทักฤกษ์สุดท้ายก่อนวันตาย
จากกรณี น.ส.อารีย์รัตน์ หรือ ครูมะขาม อายุ 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และนายอภิเษก อายุ 38 ปี พนักงานแผนกบำรุงไฟฟ้าประจำโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.ด่านช้าง ทั้งสองได้คบหารักกับมานานกว่า 8 ปี แต่หลังแต่งงานเพียงแค่ 43 วันเท่านั้น ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านั้น ครูมะขาม พร้อมญาติๆ ได้ไปให้หลวงพ่อท่านหนึ่งใน อ.ด่านช้าง ที่ครอบครัวเคารพนับถือดูฤกษ์จัดงานแต่งให้หลายครั้ง แต่ทุกครั้งหลวงพ่อท่านดูดวงของทั้งคู่แล้ว บอกยังไม่มีฤกษ์ที่จะจัดงานแต่งงาน
กระทั่งครั้งล่าสุด ต้นปีที่ผ่านมา ได้ไปให้หลวงพ่อท่านดูฤกษ์แต่งงานให้อีก หลวงพ่อท่านบอกว่ายังไม่มีฤกษ์ แต่ถ้าจะแต่งกันจริงๆ ให้จัดงานแต่งวันที่ 29 เมษายน 2566 แต่หลวงพ่อท่านพูดทิ้งท้ายว่า หากในปีนี้ไม่แต่งตามฤกษ์ที่ให้ไว้ ทั้งคู่ก็อาจจะไม่ได้แต่งงานกัน
ญาติทั้งสองฝ่ายจึงได้กำหนดจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักทั้งสองตามกำหนด วันที่ 29 เมษายน 2566 ที่บ้านฝ่ายเจ้าสาว ต.วังคัน อ.ด่านช้าง ซึ่งได้จัดพิธีแต่งงานตามประเพณี มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระ พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ มีขบวนขันหมากฝ่ายเจ้าบาว แห่มาสู่ขอเจ้าสาวตามประเพณี และจัดงานเลี้ยงฉลองตามปกติเหมือนงานแต่งทั่วไป จากนั้นทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขกันตามปกติสามีภรรยา
กระทั่งวันที่ 11 มิ.ย.2566 ทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์ ไปท่องเที่ยวพักผ่อน ที่ จ.กาญจนบุรี ได้ขี่รถจักรยายนต์ไปตามถนน 323 อ.ทองผาภูมิ มุ่งหน้า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ทามกลางสายฝนทำให้ถนนลื่น รถจักรยานยนต์ได้เสียหลักข้ามเลนไปชนกับรถยนต์กระบะ ส่งผลให้ น.ส.อารีย์รัตน์ หรือ ครูมะขาม และนายอภิเษก สองสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันได้เดือนเศษเท่านั้นเสียชีวิตทั้งคู่
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ญาติๆ ทั้งสองฝ่ายที่ทราบข่าวโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองคนรักกันมาก และเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานอยู่กินกันได้เพียง 43 วันเท่านั้น ต้องมาเกิดเหตุสลด ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังวัดหนองยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อพบกับพระครูสุตาภิวัฒน์ (หลวงพ่อมหาเหวียง) เจ้าอาวาสวัดหนองยาว ทีมข่าวจึงได้กราบนมัสการและกราบสอบถามหลวงพ่อ ถึงเรื่องการทำนายทายทักที่หลวงพ่อได้ดูฤกษ์ให้ แต่ทิ้งท้ายปริศนาว่าถ้าทั้งสองคนไม่ได้แต่งกันในรอบนี้ก็จะไม่ได้แต่งแล้วนะ หลวงพ่อมหาเหวียง จึงได้ชี้แจงกับทีมข่าวว่า เรื่องการดูฤกษ์นั้น คู่แต่งงานคู่นี้มาดูกับหลวงพ่อหลายรอบแล้ว แต่บางทีก็ไม่มีฤกษ์ บางทีก็ไม่สะดวกกับฤกษ์ที่หลวงพ่อให้ไป เช่น ในช่วงโควิดที่ผ่านมาก็เลยเลื่อนมาเรื่อยๆ จนมาได้ฤกษ์วันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด โดยคนแต่งงานกันในวันนี้เป็นจำนวนหลายคู่ ซึ่งทางครูมะขามกับสามีก็ใช้ฤกษ์นี้ในการแต่งงานเหมือนกัน ซึ่งหลวงพ่อก็ได้ให้ฤกษ์นี้ไป
ส่วนเรื่องที่ทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าคู่นี้ไม่ได้แต่งงานกันในรอบนี้ก็จะไม่ได้แต่งกันอีกนั้น หลวงพ่อพูดในเชิงหยอกเพราะเห็นว่าทางครูมะขามก็มีอายุถึง 39 ปีแล้ว ซึ่งถ้าไม่แต่งในรอบนี้อาจจะมีลูกไม่ทันใช้ หลวงพ่อไม่ได้เห็นอะไรล่วงหน้า เพียงแต่พูดไปในเชิงหยอกคู่แต่งงานคู่นี้เพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลวงพ่อก็ขอแสดงความเสียใจกับทางญาติ
ด้านพ่อแม่ของครูมะขาม เล่าทีมข่าวฟังว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง ครูมะขามได้โทรวิดีโอคอลมาหาคุณแม่ และได้บอกว่ามาออกทริปกับคุณตั้มซึ่งเป็นสามี หลังจากนั้นเพียงไม่ถึง 5 นาที ทางเพื่อนที่ไปออกทริปด้วยกันหรือกลุ่มบิ๊กไบก์ได้โทรกลับมาบอกว่า ทั้งสองคนประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่ได้บอกว่าอาการหนักเพียงใด ตนจึงเก็บเสื้อผ้าแล้วขับรถมุ่งหน้าไปที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปดูอาการของลูกสาวและลูกเขย แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุแล้วเพื่อนที่เป็นครูมาบอกกับตนทั้งสองคนว่าให้ทำใจให้ดี และก็ทราบว่าลูกสาวและลูกเขยเสียชีวิต เมื่อทราบเช่นนั้นทำให้เขาอ่อนไปหมดทำอะไรไม่ถูก ขับรถไม่ได้ และทำใจไม่ได้จนถึงทุกวันนี้
ส่วนเรื่องการขอเลิกจากหลวงพ่อมหาเหวียงนั้น ทางบ้านของเรานับถือหลวงพ่อเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ติดใจกับเรื่องที่หลวงพ่อทัก โดยคิดว่าหลวงพ่อเป็นการหยอกเพราะครูมะขามก็มีอายุถึง 39 แล้วเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องการจัดงานศพที่จัดพร้อมกันทั้งสองคนและฌาปนกิจพร้อมกันนั้นเบื้องต้นทางเราทั้งสองคนก็จะนำศพลูกสาวกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดแถวบ้าน แต่เห็นว่าทั้งสองคนนี้เพิ่งแต่งงานกันแล้วรักกันมานานจึงเห็นใจ เลยจัดงานทั้งคู่พร้อมกันและฌาปนกิจพร้อมกันเพราะเขาทั้งสองคนเหมือนเป็นคู่แท้กัน โดยมาเจอกันแล้วถึงเวลาไปก็ไปพร้อมกันเลยส่งเขาขึ้นสวรรค์ไปคู่กัน