3 ลูกชายหวงแม่ ดักกระทืบหนุ่มสนิทดับ ช่อง 8 เจอตัวลั่นไม่ขอโทษชี้คนตายก็ผิด

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ชาย 3 คนรุมกระทืบชายคนหนึ่งข้างถนนจนหมดสติทราบชื่อภายหลังคือนายอัศวิน อายุ 40 ปี

ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนทราบชื่อภายหลังคือ นายณัฐพล (เม่น) อายุ 30 ปี, นายวันชัย (เคิร์ก) อายุ 26 ปี และนายศิลา (ศิลา) อายุ 14 ปี ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นลูกชายของนางสม อายุ 50 ปี

ย้อนกลับไปในวันที่เกิดเหตุ ก่อนหน้าที่จะมีเหตุรุมทำร้ายร่างกาย นายเม่นพี่ชายคนโตและนายศิลาน้องชายคนรอง ได้มีการเดินมาดูลาดเลาและเห็นรถจักรยานยนต์ของนายป้อที่จอดอยู่ ทั้ง 2 คนจึงปล่อยลมยางเพื่อหวังไม่ให้นายป้อขับรถไปต่อกับแม่ของพวกเขาได้อีก

หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มผู้ก่อเหตุจึงเห็นได้นายป้อเดินมากับแม่ของพวกเขา จึงได้กรูเข้าไปรุมกระทืบไปที่บริเวณหัวและหน้าอกจนนายป้อหมดสติและนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากเกิดเหตุแพทย์วินิฉัยนายป้อ บาดเจ็บบริเวณอก กระดูกซี่โครงทับปอด สมองบวมมีเลือดคลั่งในสมอง เข้ารักษาในห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลอยุธยาจนต่อมาในวันที่ 18 มิถุนายน 2566 ได้เสียชีวิตเนื่องจากปอดรั่วและติดเชื้อ

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ ไปที่วัดโตนดเตี้ย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ไปพบกับพี่สาวของผู้เสียชีวิต นางสาวอัญชลี อายุ 43 ปีเล่าว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวเธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของน้องชายและแม่ของผู้ก่อเหตุคบหาดูใจกันมานานแค่ไหน แต่สำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้ส่วนตัวเธออยากให้มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มคนร้าย เธอยังเปิดเผยอีกว่าแล้วไหนพ่อน้องชายเป็นคนดีไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะกับใคร

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปที่ตำบลบ้านช้าง อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ไปพบบ้านของนายเม่น 1 ในผู้ก่อเหตุ โดยนายเม่นเปิดเผยว่า เขารู้สึกโกรธที่ผู้ตายคบหากับแม่ของเขาในเชิงชู้สาว ส่วนในวันที่เกิดเหตุได้บังเอิญเดินไปพบกับทั้งคู่เข้า เขาและน้องชายอีก 2 คนคือ นายเคิร์กและนายศิลา จึงได้เข้าไปรุมทำร้ายร่างกาย แต่ไม่ได้หวังถึงขั้นจะเอาชีวิต

หลังจากก่อเหตุเสร็จแล้วส่วนตัวนายเม่นยืนยันไม่ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคิดว่าผู้ตายก็มีส่วนผิดที่คบหากับแม่ของเขาในเชิงชู้สาว หลังจากนี้ในเรื่องของคดีความยอมรับผลที่ตามมา สภาพจิตใจของแม่ตอนนี้ย่ำแย่ ไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อและน้องชายอีก 2 คนที่ร่วมก่อเหตุหลังจากทราบข่าวว่าผู้ตายเสียชีวิตก็เสียใจมาก