คุยไม่จบจบเห่นะ!! "หญิงหน่อย" เตือน"เพื่อไทย-ก้าวไกล" คุยชิงตำแหน่งประธานสภาฯให้จบ อย่าโหวตแข่งกัน ไม่เช่นนั้นฝ่ายประชาธิปไตยจบแน่!! พร้อมแจง ยังไม่ลาออก ส.ส. หลังลูกพรรคเบรกอยู่ช่วยงานก่อน จนกว่าตั้งรัฐบาลสำเร็จ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นำส.ส. พรรค 6 คน เข้ารายงานตัวต่อสภาฯ พร้อม กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าตนเองจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า จุดมุ่งหมายในการสร้างพรรค เพราะตนสร้างพรรคที่เป็นของประชาชน ทำการเมืองแนวใหม่ แม้จะเป็นส.ส.มานานก็ยิ่งเห็นปัญหามามากมาย จึงอยากแก้ไขให้ดีขึ้น และพรรคไทยสร้างไทย เป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคงถาวร เป็นของประชาชนอย่างแท้จริงไม่ใช่พรรคของใครหรือนายทุน เปรียบตนเองเสมือนนั่งร้านเสาเข็มให้กับพรรค เป็นสะพานเชื่อมโยง หาคนใหม่ๆเข้ามาทำงานในพรรค  และ ส.ส.ของพรรคจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาในพรรครู้อยู่แล้วว่าตนจะไม่รับตำแหน่งใดๆ เพียงทำหน้าที่เป็นผู้นำในช่วงก่อตั้งพรรคแรกๆ เราสร้างวัฒนธรรมองค์กรพรรคไทยสร้างไทยต้องเสียสละ ต้องมีความจริงใจกับประชาชน เห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นอันดับแรก ประโยชน์ของพรรคเป็นอันดับ 2 ของตนเองเป็นอันดับ 3 จึง

 

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้ำว่า ตนเองยังมีเจตจำนงเดิมอยู่ และได้ประกาศในที่ประชุม 8 พรรคร่วมไปแล้ว ว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ แต่ได้รับเสียงคัดค้านด้วยเหตุผลทางการเมือง เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง จึงอยากให้มีการพูดคุยเรื่องนี้อีกครั้ง ว่าห้วงเวลาจังหวะเวลาใดจึงจะเหมาะสม ตอนนี้ต้องประคับประคองให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตยให้ได้อย่างแท้จริงก่อน แต่ก็ไม่มีใครขาดเจตนารมณ์ของตน เพียงแต่อยากให้นำประสบการณ์ทางการเมืองของตนมาช่วยงาน ขอให้ไปรายงานตัวก่อนแล้วมาพูดคุยกัน ดังนั้นตอนนี้มีการรับรองไปแล้วตนก็คือส.ส. และต้องมารายงานตัว ย้ำว่าตนเองไม่ยึดติดตำแหน่งใดๆ มาเพื่อเสียสละ

 

เมื่อถามว่า ถ้าลาออกจากตำแหน่งส.ส แล้วจะให้ใครมาแทนนั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เมื่อตนลาออกแล้วจะมีการเลื่อนลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน แต่ตอนนี้มีหลายคนแสดงเจตจำนงอยากทำงานเบื้องหลังกับตนมากกว่า แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ

 

พร้อมกันนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวโผ, ครม.พิธา 1 พี่เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ ว่า แม้จะไม่รู้ว่าแหล่งข่าวคือใคร แต่ขอย้ำว่าพรรคไทยสร้างไทยไม่มีปัญหาอะไรเลย จะพยายามเสียสละเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ จึงไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องกระทรวง และการพูดคุยกับคณะทำงานประสานงานรัฐบาลเรื่องนี้ก็ยังไม่ลงตัว ตอนนี้ต้องเลือกประธานสภาและนายกรัฐมนตรีให้ได้ก่อน พร้อมย้ำอีกครั้งว่า การเลือกประธานสภาสำคัญที่สุด เพราะหากไม่ราบรื่นการจัดตั้งรัฐบาลจะลำบาก

 

ส่วนปัญหาโควต้าตำแหน่งประธานสภา ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง สิ่งที่ตนห่วงที่สุดจากประสบการณ์การทำงานมา 32 ปี ไม่ต้องการให้เกิดเหตุผลออกมารัฐประหาร จึงอยากขอร้องทุกฝ่ายให้เห็นประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะ 2 พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดต้องรู้ว่าตำแหน่งประธานสภาสำคัญ ไม่ใช่แค่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยังมีความสำคัญแต่ยังมีความสำคัญกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ขอฝากความหวังและให้กำลังใจไว้กับพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ให้พูดคุยกัน เสียสละเพื่อส่วนรวม เพราะถ้าไปโหวตแข่งกันเมื่อไหร่ ฝ่ายประชาธิปไตยจบแน่

 

พรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ต้องคุยกันให้จบ แล้วก็เสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่อประชาชน เพื่อชาติจริงๆ และตกลงกันให้จบ ถ้าไป แข่งกันเมื่อไหร่ จบนะคะฝ่ายประชาธิปไตย จบแน่นอน อันนี้คือสิ่งที่ต้องขอ เราเองคงไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้ก็เพียงแต่ฝากความหวังไว้ และให้กำลังใจ พรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ให้กำลังใจให้คุยกันให้จบ เพราะถ้าไม่จบจบเห่นะ"

 

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้ชี้แจงอีกว่า ตนไม่ได้เป็นส.ส.มา 19 ปี เนื่องจากกลไกรัฐประหาร การถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง บ้าน 111  และรัฐธรรมนูญเผด็จการ 

 

ทั้งนี้ยืนยันว่า พรรคไทยสร้างไทย จะผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งพรรคได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าสู่สภาแล้ว ที่จะให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 และไม่ต้องทำประชามติ  เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มีปัญหาแค่ส.ว. 250 คน แต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะเห็นฤทธิ์เดชของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นกับดักใหม่ ซึ่งมีโทษ ถึงอาญาด้วย อาจทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้เกิดวิกฤติทางการเมือง จากนี้ไปจะมีแต่กลับระเบิด จึงต้องคืนประเทศและคืนอำนาจ การเขียนรัฐธรรมนูญให้กับประชาชน จากปลายปากกาประชาชนไม่ใช่กระบอกปืนจากเผด็จการ จากนี้ไปประเทศไทยจะไม่เจอแค่กับระเบิด เรื่องการเลือกประธานสภาหรือเลือกนายก แต่มีรัฐบาลแล้วก็จะเจอกับระเบิดถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ