ครูใจเด็ดลากไส้อาหารเด็กห่วย ยอมลาออก แม่ครัวฉะทำเสื่อมเจอคลิปลับปรี่ขวาง

จากกรณีที่มีเพจดัง "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยระบุข้อความว่า อาหารมีปริมาณน้อย เมนูซ้ำ รสจืด และ ผอ.บอกว่า “ไม่อิ่มไม่ให้เติม จัดให้ตามโภชนาการ ถ้าไม่อิ่มให้ไปซื้อขนมที่แม่ครัวกิน” ซึ่งที่โรงเรียนนี้มีนักเรียน 303 คน ได้เงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันหัวละ 22 บาท รวม 6666 บาท ต่อวัน หนึ่งปีการศึกษามี 200 วัน คิดเป็นเงิน 1332200 บาทต่อปี พร้อมกันนี้ก็มีรูปประกอบเป็นรูปถาดหลุมใส่อาหารที่มีอาหารอยู่ภายในแต่ละหลุม ลักษณะคล้ายกับขนมจีนหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว แกงจืดลูกชิ้นหมูสับ และโดนัทชิ้นเล็กๆ อีก 2 ชิ้น โดยเมื่อเรื่องราวเหล่านี้เผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ซึ่งก็มีทั้งผู้คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงบวก และเชิงลบ เป็นจำนวนมากนั้น


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนที่ถูกระบุชื่อในสื่อโซเชียลดังกล่าว โดยได้พบกับนางสาวสุกัญญา จาดี ผู้อำนวยการโรงเรียนและสอบถามข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางผู้อำนวยการฯ ก็ได้บอกว่า กระแสดราม่าในเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริง โดยทางโรงเรียนได้จัดอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียนทุกคนเป็นไปตามมาตรฐานและหลักโภชนาการที่ระบุไว้ในโปรแกรม Thai School Lunch ซึ่งเป็นระบบแนะนำสำหรับอาหารกลางวันแบบอัตโนมัติที่ใช้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ภายหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ ก็มีทาง สำนักงาน ปปช.ได้ลงพื้นที่มาตรวจเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ซึ่งก็พบว่าการดำเนินการด้านอาหารกลางวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแล้ว และไม่เป็นอย่างที่เผยแพร่ในโลกโซเชียล ส่วนทางด้านของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานั้น ตนเองก็ได้ทำหนังสือชี้แจงในเบื้องต้นไปแล้ว พร้อมกันนี้จะนำคณะครูผู้ดูแลโครงการอาหารกลางวัน และแม่ครัว เข้าพบกับทางผู้บริหารระดับสูง เพื่อนำหลักฐานชี้แจงและยืนยันความโปร่งใสในเรื่องนี้อีกครั้ง

ผอ.โรงเรียนฯ ยังบอกอีกว่า สำหรับโครงการอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดให้แก่เด็กนักเรียนนั้น ยืนยันว่า ได้มาตรฐานถูกหลักโภชนาการและไม่ได้มีปริมาณน้อยอย่างที่เข้าใจ ใครไม่อิ่มเติมได้ อีกทั้งไม่เคยพูดว่า ถ้าใครไม่อิ่มให้ไปซื้อขนมที่แม่ครัว แต่อย่างใดทั้งสิ้น ส่วนภาพที่ปรากฎนั้น ยอมรับว่าเป็นภาพอาหารของโรงเรียนจริงแต่เป็นภาพเก่า และเป็นอาหารของเด็กชั้นอนุบาลที่จะได้ปริมาณที่ไม่มากเหมือนพี่ชั้นที่สูงๆขึ้นไป ซึ่งปริมาณอาหารนั้นในระบบ Thai School Lunch ก็ได้กำหนดไว้แล้วว่าแต่ละช่วงนั้นจะได้ปริมาณแค่ไหนที่เป็นไปตามหลักโภชนการและเหมาะสมกับสภาพการเจริญเติบโตของร่างกาย ส่วนหากเด็กคนไหนไม่อิ่ม สามารถเติมได้ไม่อั้น เรื่องไม่ให้เติม ให้ไปซื้อขนมกิน ไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะตนเองย้ำกับครูประจำชั้นว่า ต้องให้เด็กรับประทานให้อิ่ม ไม่อิ่มตักเพิ่มได้ และต้องทานให้หมด ดังนั้น เด็กอนุบาลที่ตักให้จำนวนน้อย ถ้าไม่อิ่มก็มาเพิ่มได้ อีกทั้งในแต่ละวัน ทางครูที่รับผิดชอบอาหารกลางวันก็จะมีการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นข้อมูลประจำทุกวัน ซึ่งไม่ใช่แต่เฉพาะเพียงแค่วันที่มีการตรวจเท่านั้น อาหารกลางวันจะมีคุณภาพเหมือนกันทุกวันแน่นอน สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนมองว่าอาจจะมาจากการที่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งในโรงเรียนถูกตรวจสอบถึงความไม่โปร่งใสในการทำงาน จนสร้างความไม่พอใจให้แก่บุคคลนั้น ถึงได้มีการสร้างเรื่องทำให้ตนและผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนเสื่อมเสียอย่างที่เห็นโพสต์ในโซเชียล


ส่วนนางสาวสุวพร เดชเกตุ แม่ครัวของโรงเรียนก็บอกว่า เรื่องนี้กระทบมาถึงตนเองด้วย ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ของโรงเรียน หรือ ผอ. เท่านั้น เพราะตนเองรับผิดชอบด้านการทำอาหารกลางวันโดยตรง จึงขอยืนยันความจริงว่า อาหารกลางวันของโรงเรียนวัดเทพนรรัตน์ไม่ได้ขาดมาตรฐานอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องปริมาณ คุณภาพ เมนูก็ไม่ซ้ำ อีกทั้งเรื่องสุขอนามัยก็ใส่ใจ ถาดหลุมมีฝาปิดมิดชิด ซึ่งเงินอุดหนุนที่ทางโรงเรียนได้รับ สามารถจัดสรรซื้อวัตถุดิบได้อย่างเพียงพอ และตนเองจะเป็นผู้จ่ายตลาด นำมาประกอบอาหารเอง พร้อมกับมีลูกมืออีก 3 คน ดังนั้นจึงขอย้ำว่า ปริมาณอาหารไม่ได้น้อยจนเด็กกินไม่อิ่ม และภาพที่ปรากฎนั้น นอกจากจะเป็นภาพเก่าแล้ว ยังเชื่อว่าเป็นภาพที่จัดฉากจงใจสร้างเรื่องขึ้นมาอีกด้วย

ด้านศิยาพร ยาดาว ครูประจำชั้นป.2 เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าอยู่โรงเรียนนี้มา 3 ปี เป็นคนส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปริมาณของอาหารกลางวันที่น้อยและไม่มีคุณภาพรวมทั้งอาหารบางมื้อไม่มีเนื้อสัตว์ทำให้เด็กเด็กไปทานอาหาร ในบางวันถ้ามีเมนูอาหารที่เด็กชอบจะขอไปเติมกับพ่อครัวแม่ครัวก็จะไม่ให้พ่อครัวแม่ครัวไล่ให้ไปซื้อกับแม่ค้าภายในโรงเรียนเพิ่มเอง เธอยังเล่าอีกว่าตลอดระยะเวลาที่เธอสอนอยู่โรงเรียนนี้มีข้าราชการครูย้ายออก 5 คนและครูอัตราจ้างกว่า 30 คนทยอยลาออก ตัวเธอเองสิ้นเดือนนี้ (30 มิ.ย.66) ก็จะย้ายออกจากโรงเรียนนี้เช่นเดียวกันเพราะทนกับการบริหารจัดการภายในโรงเรียนไม่ไหว ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกว่าการสอบเกี่ยวกับเรื่องอาหารกลางวันแล้วแต่ได้มีการนำเอาแม่ครัวเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการอาหารด้วยซึ่งเธอบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างยิ่ง ในฐานะคนเป็นครูที่เธอดูแลนักเรียนอยู่บางครั้งนักเรียนกินข้าวไม่อิ่มอาหารไม่อร่อยก็จะมาแจ้งที่เธอฉันเป็นครูประจำชั้นโดยเมื่อวาน (20 มิ.ย.66) ที่ผ่านมาคณะกรรมการจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาครได้มีการลงมาตรวจสอบเกี่ยวกับอาหารกลางวันแล้ว หลังจากที่ลงมาตรวจสอบปริมาณอาหารก็เพิ่มขึ้นทันทีอาหารที่ไม่เคยอร่อยก็กลับกลายเป็นมีรสชาติส่วนเนื้อสัตว์ที่อยู่ในข้าวผัดแกงทอดก็มีการเพิ่มปริมาณขึ้นมาหลังจากมีเรื่องร้องเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับเงินค่าอุดหนุนอาหารกลางวันในแต่ละโรงเรียนนั้น จะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียน โรงเรียนที่มีนักเรียน 0 - 40 คน จะได้ 36 บาท/คน/วัน นักเรียน 41 - 100 คน จะได้ 27บาท/คน/วัน นักเรียน 101-120 คน จะได้ 24 บาท/คน/วัน และ นักเรียนตั้งแต่ 121 คนขึ้นไป จะได้ 22 บาท/คน/วัน

นอกจากนี้ภาพวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้เมื่อครูสาวเธอกำลังพานักเรียนที่อยู่ในความดูแลลงมารับประทานอาหารกลางวัน ขณะที่เธอกำลังเปิดถาดอาหารเพื่อดูปริมาณของอาหารว่าให้น้อยตามที่นักเรียนเคยบอกเล่าให้เธอฟังหรือไม่ ได้มีหัวหน้าแม่ครัวเข้าไปประชิดตัวและผลักไหล่ของเธอออกมาจากถาดอาหารมีปากเสียงกันอยู่ครู่หนึ่ง มีการพูดจาข่มขู่ เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลเธอจึงเธอเริ่มถ่ายรูปอาหารไว้โดยถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะมีการตรวจสอบปริมาณของอาหารที่อยู่ในถาดของเด็กแต่ละคนมีปริมาณน้อยมากอาหารบางอย่างไม่มีเนื้อสัตว์มีแต่ผักและน้ำแกง ผลไม้ ของหวาน ได้ 1-2 ชิ้นเท่านั้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นเธอจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ซึ่งหลังจากนี้อีกไม่กี่วันเธอได้ทำเรื่องย้ายออกจากโรงเรียนแห่งนี้เนื่องจากทนสภาพการบริหารจัดการภายในโรงเรียนไม่ไหว

ทั้งนี้หนึ่งในผู้ปกครองของนักเรียน คุณยายมณีรัตน์ ฉัตรพิมาย อายุ 58 ปี เล่าว่ามีหลานอายุ 5 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 2 ที่โรงเรียนนี้ เวลากลับมาจากโรงเรียน หลานชอบบ่นให้ฟังว่ากินข้าวไม่อิ่ม ห้องน้ำที่โรงเรียนไม่สะอาด อาหารกลางวันได้น้อย น้ำไม่ค่อยไหลจนต้องกลั้นมาปัสสาวะมาที่บ้าน ส่วนประเด็นอาหารกลางวันที่มีปริมาณน้อยและเมนูซ้ำบางครั้งรสชาติจืดไม่อร่อยมีการพูดคุยกับผู้ปกครองด้วยกันหลายครั้งเคยเห็นรูปอาหารกลางวันที่ผู้ปกครองบางคนบุกเข้าไปถ่ายถึงในโรงเรียนพบว่าได้น้อยจริงรู้สึกสงสารหลานแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงตัวยาเองเป็นคนหาเช้ากินค่ำลูกสาวและลูกเขยได้มาฝากหลานให้ดูแลก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะไม่สามารถที่จะย้ายหลานไปเรียนโรงเรียนอื่นได้คงต้องทนต่อไป

 

แม่ครัวปรี่ใส่ครูใจเด็ด  ยัวะแฉอาหารแย่ !