"อดิศร" โยนทีมเจรจาคุย"ก้าวไกล" เรื่องประธานสภา ลั่นผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของพรรค ต้องคำนึงความรู้สึกสมาชิกเกือบ 100% ขอเจรจาโดยเร็วเพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้กลับมาสภาอีกครั้ง ในรอบ 17 ปี พร้อมกล่าวถึงกรณีที่พูดพาดพิงพรรคก้าวไกล ในที่ประชุมสัมนา ส.ส. พรรคเพื่อไทยวานนี้ ในเรื่องประธานสภา ว่า วานนี้เป็นการประชุมภายในของพรรค และทุกครั้งก็แลกเปลี่ยนประเด็นกันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นการถกเถียงแบบประชาธิปไตย ถกเถียงกันแบบเอาเป็นเอาตาย โดยในส่วนของเป็นประเด็น ประธานสภา ส.ส. 140 คน ได้ข้อมูลไม่ตรงกัน ก่อนหน้านี้บอกว่า พรรคก้าวไกล 14+1 ได้นายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคเพื่อไทย 14+1 ได้ประธานสภา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเราก็มีความสุข แต่ถัดมากลับไปยกประธานสภาให้ก้าวไกล โดยไม่สอบถามที่ประชุมของพรรคเลย จึงมีการถกเถียงกันรุนแรงไปหน่อย ถ้าพาดพิงถึงพรรคการเมืองอื่นต้องกราบขอโทษด้วย จากนี้คนที่มาหน้าที่เจรจาต้องไปพูดกับพรรคก้าวไกล โดยคำนึงคำนึงถึงความรู้สึกของสมาชิก เกือบ 100% ที่มีความเห็นในแบบเดียวกันกับตนเอง เพราะไม่อยากให้ตำแหน่งประธานสภาเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล โดยภาวนาขอให้เจรจาจบลงโดยเร็ว อย่าลืมว่าคะแนนเสียงนั้นห่างกันไม่มาก

ส่วนจะมีการเสนอรายชื่อบุคคลอื่นเพื่อแข่งกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายอดิศร ระบุว่า เมื่อมีปัญหาถกเถียงกันแล้วไม่สามารถหาข้อยุติได้ ตามประเพณีก็ต้องใช้ที่ประชุมเป็นที่ตัดสิน เพราะที่นี่ไม่ใช่สภาของพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่ง แต่ถ้ามติของที่ประชุมพรรคเพื่อไทยให้เลือกพรรคก้าวไกลเป็นประธานสภา ตนเองจะแสดงบทบาทในที่ประชุมอีกครั้ง ไม่อยากให้พูดว่า “ถ้า” ตอนนี้ เพราะจะทำให้ยุ่งยาก “ต้องขออภัยพรรคก้าวไกลด้วย เพราะเราสูงไล่เลี่ยกัน แต่ละคนก็มี FC ประชาธิปไตยเป็นของตัวเอง ก็อยากให้ FC อยู่ในสถานที่ตั้งที่มั่นคง อยากให้ทุกคนใจเย็น ฉันทามติที่มอบให้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ถือว่าอยากให้เป็นเหมือนปาท่องโก๋ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ต้องมีนายกรัฐมนตรี ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ให้ได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าที่ประชุมพรรคมีมติเป็นอย่างไร ตนเองก็พร้อมทำตาม แต่จะต้องเป็นมติที่ผ่านการถกเถียงในพรรคอย่างสมเหตุผล ผู้บริหารพรรคหรือตัวแทนพรรค ไม่ใช่เจ้าของพรรค ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ส่วนความกังวลเรื่องสมาชิกพรรษาน้อยจะมาทำหน้าที่ประธานไม่ได้นั้น นายอดิศร บอกว่า เป็นเพียงภาษิตอีสานบ้านตนเองเท่านั้น ที่เปรียบเทียบให้สติ ว่า จะเอาสามเณรบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาสไม่ได้ แต่ความจริง ส.ส. ทุกคนสามารถเป็นประธานสภาได้ เพราะประชาชนเลือกมาแล้วถือเป็นคำพิพากษาที่ยิ่งใหญ่