เจ้าอาวาสวัดบางคลาน แจ้งตำรวจเอาผิดแกนนำ-พระนอกสังกัดเพิ่มอีก 17 คน ชี้เป้า ชายชุดดำบุกปิดวัด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มิ.ย.2566 พระครู พิสุทธวรากร เจ้าอาวาดวัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ นายพร อายุ 71 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นไวยาวัจกรวัดบางคลาน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สิโรจน์ เพชรโต พนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ พระ นอกสังกัดวัดบางคลาน 3 รูป และแกนนำชาวบ้านที่เป็นคนชี้เป้า 14 คน รวม 17 คน ให้ชายชุดดำ บุกเข้าไปทำร้ายชาวบ้านและไวยาวัจกร จนได้รับบาดเจ็บ หลายคน ที่ตำรวจยังจับไม่หมด
หลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจจับชายชุดดำก่อนหน้านั้นได้ 23 คน รวมทั้ง นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. และ นายดุศิต คำศิลา ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 8 ต.บึงนาราง อ.โพทะเล
นายพร กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจาก พระครูพิสุทธิวรากร มอบอำนาจให้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 17 คนกับกลุ่มบุคคลและพระสงฆ์นอกสังกัด ที่เกี่ยวข้องและให้การสนับสนุนชายชุดดำ ทำการบุกปิดวัดบางคลานเมื่อวันเกิดเหตุวันที่ 6 เม.ย.2566 ตามหลักฐานภาพถ่ายกล้องวงจรปิดที่สามารถกู้มาได้
นายพร กล่าวต่อว่า แบ่งเป็นฆราวาส 14 คน และเป็นพระภิกษุสงฆ์นอกสังกัดอีก 3 รูป ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าว ร่วมกันบุกรุกเข้าครอบครองวัดทั้งกลางวัน และกลางคืน ร่วมกันชี้ให้พรรคพวกร่วมทำร้ายร่างกายคนงาน กรรมการ และรักษาการแทนไวยาวัจกร (เจ้าพนักงาน) ของวัด ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว พระสงฆ์ คนงาน กรรมการ และไวยาวัจกร (เจ้าพนักงาน)
ร่วมกันหรือสนับสนุนให้พรรคพวกทำลายทรัพย์สินของวัด ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่สั่งโดยชอบตามกฎหมาย กระทำความผิดตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 และกฎ, ประกาศ, มติของมหาเถรสมาคมที่เกี่ยวข้อง โดยกลุ่มคนทั้ง 17 คน
นายพร กล่าวอีกว่า กลุ่มคนทั้ง 17 คนที่แจ้งจับเพิ่มเติมนั้น ได้แบ่งหน้าที่กันเข้าบุกรุกวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) โดยมีการรวมตัวกันบริเวณกุฏิไม้อดีตเจ้าอาวาส กลุ่มที่ 1 เข้าไปสมทบกับชายชุดดำบุกเข้าทำร้ายร่างกายคนงาน กรรมการวัด และรักษาการไวยาวัจกรวัด บริเวณหน้าศาลาการและยึดศาลาการเปรียญ (ตามภาพวงจรปิด)
กลุ่มที่ 2 บุกเข้าไปในมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เข้าทำร้าย กระชากตัวและอุ้มคนงาน ลูกจ้างของมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ออกจากห้องทำงาน และร่วมกันรุมทำร้ายร่างกายทำการปิดประตูมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ซึ่งขณะนั้นมีสาธุชนหรือผู้คนมากราบไหว้มนัสการหลวงพ่อเงิน
นายพร กล่าวด้วยว่า อีกทั้ง ข่มขู่และขับไล่คนงานที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ให้ลงออกไปจากวิหารใหญ่หลวงพ่อเงิน และวิหารหุ่นขี้ผึ้งหลวง รวมทั้งไล่ให้ประชาชนที่มากราบไหว้หลวงพ่อเงินลงจากวิหารทั้งหมด ทำให้ประชาชนที่มากราบไหว้เกิดความกลัวลงจากวิหาร ส่วนกลุ่มที่ 3 ไล่ต้อนชาวบ้าน ที่และ ต้อนพระในส่วนของเจ้าอาวาสไปรวมกันที่บริเวณหน้ากุฏิสามฤดูกับคนงานของวุดทุกคน ร่วมกันทำหน้าที่นำกรรไกรตัดเหล็กตระเวนตัดโซ่ที่ประตูเข้าออกของวัดทุกด้าน
นายพร กล่าวต่อว่า สำหรับวัดบางคลานขณะนี้เจ้าอาวาสปัจจุบันที่ได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมาย และไวยาวัจกร ยังไม่สามารถเข้าไปบริหารพัฒนาวัดได้ตามสิทธิของกฎหมายเนื่องจากหวั่นเกรงความปลอดภัย อีกทั้งยังมีกลุ่มบุคคลทั้งชายหญิง ฝ่ายของอดีตเจ้าอาวาสเก่ามายังมีการสับเปลี่ยนมายึดครองวัดอยู่ถึงแม้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวศาลมีคำสั่งห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวภายในวัดบางคลานแล้วก็ตาม
ด้าน ร.ต.อ.สิโรจน์ เพชรดี พนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล กล่าวว่า ได้รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษของวัดบางคลานเพิ่มเติมไว้แล้ว ทั้งนี้ จะได้นำหลักฐานที่ได้รับจากไวยาวัจกรที่มอบให้ทั้งภาพถ่าย คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดเพื่อประมวลว่าใครมีความผิดอย่างไรในการแจ้งข้อหาดำเนินดำเนินคดีต่อไป