เกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม ทำปลาตายเกลื่อนหาดทุ่งวัวแล่น ชาวบ้านแห่เก็บซากปลา ประมงอำเภอเตือนชาวบ้านอย่านำไปรับประทาน
วันที่ 22 มิ.ย.66 นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี นายบุญญวัฒน์ ทองหอม ประมงอำเภอปะทิว เจ้าหน้าที่ ศรชล.ชุมพร ได้ลงตรวจสอบที่บริเวณริมหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งเที่ยวขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของจังหวัด ได้มีชาวบ้านนับร้อยคน นำภาชนะลงไปเก็บปลาที่ลอยมาตายอยู่บนชายหาดจำนวมากนับหมื่นกิโลกรัม ตลอดชายหาดร่วม 10 กิโลเมตร มองดูขาวโพลนไปด้วยปลาหลากหลายชนิด ทั้งปลาตัวเล็ก ปลาตัวใหญ่ ปูม้า รวมทั้งกุ้งแชบ๊วย หรือกุ้งทะเล โดยชาวบ้านบางคนบอกว่ามาเก็บไปกินและแล่เนื้อขาย เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นทุกปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปลาตายน้ำแดง และมาเก็บไปกินไปขายทุกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องปกติและไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
ด้านนางวันเพ็ญ อายุ 60 ปี เดินทางมากับครอบครัวจากพื้นที่หมู่ 4 ตำบลถ้ำสิงห์ อ.เมืองชุมพร บอกว่าตนรู้ข่าวตั้งแต่เมื่อคืนว่ามีปลาตายน้ำแดง ซึ่งปลาจะตายในช่วงนี้ทุกปี ตนไม่เก็บไปกินแต่ตนมาเก็บเอาปลาทั้งหมดไปทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ไว้ใช้ในการเกษตรในสวนทุเรียนและพืชผักอื่นๆ โดยผสมตามสูตรของตน ใช้รดพืชผัก ต้นไม้ได้ดีมาก และยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วย
ด้าน นายบุญญวัฒน์ ทองหอม ประมงอำเภอปะทิว กล่าวว่าได้รับแจ้งจากชาวประมงว่า ปรากฏการณ์นี้ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าปลาตายน้ำแดง หรือน้ำทะเลเปลี่ยนสีนั้นเอง ทำให้เกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม จำนวนมาก จนออกซิเจนในน้ำมีน้อย อีกทั้งเมื่อเกิดแพลงตอนบูมมากๆมีความหนาแน่น ก็จะเข้าไปขัดขวางการหายใจของปลาที่บริเวณเหงือกด้วย ทำให้ปลาขาดออกซิเจนแล้วพยายามดิ้นเข้าชายฝั่งและก็ตาย
นายบุญญวัฒน์กล่าวว่า ตนขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่มาเก็บปลาอย่าเพิ่งนำไปบริโภค เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นแพลงตอนบูมชนิดใด จะเป็นอันตรายกับผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งได้ประสานให้ศูนย์วิจัยประมงชาวฝั่ง ใด้มาเก็บน้ำและปลาตัวอย่างไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งต้องรอผลตรวจว่าเป็นแพลงตอนชนิดไหน เพราะบางชนิดกินได้ บางชนิดกินไม่ได้ แต่ถ้านำไปทำปุ๋ยหมักไม่มีปัญหา