เผยนาทีสุดท้าย ผู้ว่าฯ ณรงศักดิ์ หลับอย่างสงบ ฝากคำพูดถึงทีมหมูป่า "คงไม่ได้มางานถ้ำหลวง"
จากกรณีการเสียชีวิตของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง สิริอายุ 58 ปี ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยในวันที่ 22 มิ.ย.ที่โรงพยาบาลศิริราช นางจินจณา ภรรยานายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ผู้ว่าฯหมูป่า" พร้อมครอบครัว เข้ารับศพสามีตนเองหลังเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงเย็นวานนี้ด้วยโรคมะเร็งในวัย 58 ปี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งนางจินจณา และลูกสาว ซึ่งเบื้องต้นได้รับการยืนยันเพียงว่า หลังจากนี้จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน
นางอิ่มพรรณ อยู่ไสว ประชาชนที่มาเฝ้ารอรับศพ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนทราบข่าวการเสียชีวิตของผู้ว่าหมูป่าตั้งแต่เมื่อคืน แล้ววันนี้บังเอิญว่ามีนัดตรวจสุขภาพกับหมอ จึงเดินทางเข้ามาและเห็นว่ามีสื่อมวลชนมาปักหลักทำข่าว เลยคิดว่าในไหนๆ ก็มาแล้วเลยจะรอส่งท่าน ทั้งนี้แม้ว่าจะไม่ได้รู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัว แต่เคยได้พบท่านในงานวันวิสาขบูชาที่ จ.พะเยา แล้วเห็นว่าท่านเป็นคนน่ารักจึงรู้สึกประทับใจ และยังได้พูดคุยกับข้าราชการต่างจังหวัดที่ได้บอกถึงความดีของท่านรวมถึงความเป็นผู้ใหญ่ การปฏิบัติตนอย่างดีต่อลูกน้อง และเอาใจใส่กับประชาชนในจังหวัดนั้นๆ ทั้งปัญหาเรื่องฝุ่นเรื่องการเกษตรกรรม ส่วนตัวก็อยากให้ท่านได้อยู่ต่อไปอีกนานๆ เพราะเราสูญเสียข้าราชการที่ดีมากๆ ไปคนหนึ่ง
ด้านศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล เปิดเผยว่าในระหว่างการรักษาตัว จิตใจของนายณรงค์ศักดิ์ เข้มแข็งมาก เพราะช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต นายณรงค์ศักดิ์ ซึ่งรักษาตัวในโรงพยาบาลศิริราช ยังได้รับอนุญาตจากแพทย์เจ้าของไข้ ให้ออกไปร่วมงานพิธีมงคลสมรสของลูกสาว เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2566 และเมื่อร่วมพิธีเสร็จ ก็กลับเข้าโรงพยาบาลมารักษาตัวต่อ ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลศิริราชมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยมีภรรยาและลูกสาวเฝ้าดูแลอยู่ใกล้ชิดตลอดเวลาง ส่วนตัวได้เคยคุยกับนายณรงค์ศักดิ์ ในช่วงที่มาช่วยเป็นวิทยากรในช่วงเสร็จสิ้นเหตุการณ์ภารกิจปฏิบัติการกู้ภัยในเหตุการณ์ ทีมโค้ชและเด็กทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ติดถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดย ทีมบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช ได้เรียนรู้จากการถอดบทเรียนของนายณรงค์ศักดิ์เกี่ยวกับวิธีการเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้ามาทำงาน เพื่อช่วยกันคิดช่วยกันคิดหาวิธีรักษาที่เกี่ยวข้องงานโรงพยาล
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ต่อมาเมื่อเวลา 16.19 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพและพวงมาลาพระราชทานของพระบรมวงศานุวงศ์มาในงาน ก่อนเริ่มพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.45 น. โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า สิ่งที่ประทับใจในตัวผู้ว่าฯ หมูป่า คือเป็นคนมีความคิดรอบคอบในแต่ละเรื่อง และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการ ใครที่ได้ร่วมงานก็จะมีความรัก และมั่นใจในตัวผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ จะลงพื้นที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา เป็นผู้ที่เข้าถึงประชาชนในการทำงาน ซึ่งจากการที่ได้ใกล้ชิด และทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ นั้น เจ้าตัวเป็นคนเรียบง่าย บางครั้งอาจจะดูเหมือนเป็นคนเครียดเวลาที่พูดคุย แต่แท้จริงแล้วเป็นคนมีความเมตตาสูง ดูแลพี่น้องข้าราชการเป็นอย่างดี โดยระหว่างที่ผู้ว่าฯ ป่วยนั้น ก็ยังใจสู้ แม้ว่าขณะที่มาทำงานที่จังหวัดปทุมธานี ตัวผู้ว่าฯ อาจจะไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับที่ตอนอยู่ จ.เชียงราย แต่ก็ยังคงเข้มแข็ง และทำงานหนักเหมือนเดิม และยังคงห่วงทุกงานในจังหวัดปทุมธานี สำหรับงานสุดท้ายคือ โครงการโคกหนองนา มีการประชุมในวันที่ 28 เม.ย. พร้อมกำชับให้รีบเร่งทำงานให้เร็วที่สุด
สำหรับผลงานโด่งดังจนเป็นที่รู้จักในนาม "ผู้ว่าฯ หมูป่า" โดยการเป็นผู้บัญชาแผนปฏิบัติการกู้ภัยถ้ำหลวง เมื่อปี 2561 ในนามแม่ทัพใหญ่ ผู้นำทัพช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมฟุตบอล "หมูป่าอะคาเดมี" ได้มาพร้อมกับการยอมรับว่าเป็นนักปฏิบัติตัวจริง และย้ายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาในปี พ.ศ. 2561ก่อนจะสร้างผลงานเด่นชัดเรื่องการแก้ปัญหาหมอกควันผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในปี พ.ศ. 2562 ก็สร้างผลงานเด่น เพราะ "คิว" หมอพร้อมของลำปาง มีประชาชนลงชื่อมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในปี พ.ศ. 2564
ทั้งนี้ไทม์ไลน์การป่วยของผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ เริ่มส่งสัญญาณเรื่องสุขภาพตั้งแต่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในปี 2561 แต่ยังไม่ได้ตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียด เพราะมีภารกิจงานเยอะและยังสามารถทำงานได้คนใกล้ชิด กล่าวต่อว่า ต่อมาได้ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ ที่ จ.ลำปาง ในปลายปี 2563 ได้ตรวจร่างกายด้วยการส่องกล้องเพราะค่าเลือดจางกว่าปกติ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเชื้อมะเร็งเริ่มแพร่กระจายไปตามร่างกายแล้ว โดยครอบครัวของผู้ว่าฯ ยังไม่ทราบ แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยนำเรื่องอาการป่วยไปพูดคุยกับใคร เน้นการทำงานอย่างเดียว จนในปี 2564 ผู้ว่าฯ เข้ารับการผ่าตัดลำไส้และตับ 1 ครั้ง ทำให้ครอบครัวเพิ่งทราบและเดินทางมาติดตามดูแลรักษาอาการป่วยเรื่อยมา ก่อนย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯปทุมธานี ยังสามารถทำงานลุยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ กระทั่งวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ได้เข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลศิริราช เพราะผลเลือดไม่ดี แต่ยังสั่งงานผ่านทางไลน์ พร้อมขอแพทย์ออกไปร่วมงานแต่งงานลูกสาววันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา และกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และวันที่ 18 มิ.ย. อาการจึงเริ่มทรุดหนัก ร่างกายมีค่าเป็นกรด แพทย์จึงให้มอร์ฟีนเพื่อลดอาการเจ็บป่วยวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเสียชีวิต ผู้ว่าฯหลับเพียงอย่างเดียว กระทั่งเวลา 17.45 น. เครื่องตรวจวัดชีพจรส่งเสียงดังว่าไม่มีสัญญาณชีพ และในเวลา 17.52 น. ก็มีสัญญาณชีพขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจากไปอย่างสงบ “ก่อนท่านเสียชีวิต 1 สัปดาห์ ได้พูดกับครอบครัวว่าหากเป็นอะไรไป จะไปที่วัดพระศรีมหาธาตุ เพราะกลัวแขกที่จะมาร่วมงานและครอบครัวเดินทางลำบาก ซึ่งตอนนี้ท่านยังคงมีความเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมใน จ.ปทุมธานี และโครงการบ้านมั่นคง”
นายพีรภัทร สมเพียงใจ หรือ "น้องไนท์" อายุ 21 ปี หนึ่งในทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่ ที่ประสบเหตุติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ระบุว่าได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของท่านผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ เสียใจมากๆ หลังรู้ข่าวก็ได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ที่ร่วมชะตากรรมติดถ้ำด้วยกัน ต่างก็รู้สึกเศร้าเสียใจกับการตายของผู้ว่า ส่วนตัวเองพยายามยึดท่านเป็นแบบอย่างและจะตั้งใจเรียน
ด้านนางธนพร พรหมเทพ (แม่น้องดอม) ตนเองเสียใจแล้วเสียดาย ถือว่า ผวจ.หมูป่าเป็นคนในครอบครัวอีกคน ที่ท่านได้คืนชีวิตให้กับน้องดอม และเด็กหมูป่า ในครั้งนั้น ซึ่งทุกคนในครอบครัวต่างจำท่านได้ดี ตั้งแต่วันแรกที่เด็ก 13 ชีวิตหมูป่าติดถ้ำ ดูแลเอาใจใส่ครอบครัวผู้ปกครองของเด็กทั้ง 13 คน เป็นอย่างดี เมื่อทราบข่าววันแรกก็รู้สึกเสียใจ ในการจากไปของท่าน ในช่วงที่เด็กๆ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ผวจ.หมูป่า ได้ดูแลเอาใจใส่มาก เนื่องจากเหตุการณ์ขณะนั้น ผู้ปกครองทุกคนขาดสติไปหมด ท่านได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หาที่พัก และอาหารให้ผู้ปกครอง ระหว่างที่อยู่รอคอยการช่วยเหลือเด็ก 13 คน ซึ่งระหว่างที่รอคอยการช่วยเหลือเด็ก ท่านผวจ.จะไม่ทิ้ง ผู้ปกครอง คอยเดินมาคุยทักทายให้กำลังใจ ปลอบขวัญ ท่านกล่าวว่าท่าน จะไม่ทิ้งไปไหน ทั้งยังคงช่วยเหลือเต็มที่ไม่ทิ้งกัน มีช่วงที่พบเด็กท่านก็ได้มาบอกว่าเด็กๆ ทุกคนปลอดภัยแล้วครบทั้ง 13 คน
นายนพรัตน์ กัณฑะวงษ์ หรือ โค้ชนพ เป็นอดีตโค้ชที่เคยเป็นผู้ดูแลทีม 13 หมูป่าที่ผ่านมา ในช่วงเด็กติดถ้ำหลวง และได้มีการเคลื่อนไหวในช่วงเด็กติดถ้ำหลวง คอยเป็นกำลังใจครอบครัวเด็ก 13 หมูป่า และได้ไปเฝ้าที่หน้าถ้ำพร้อมกับครอบครัว 13 หมูป่าในครั้งใน และยังร่วมก่อตั้ง พร้อมเป็นผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ระบุว่าก่อนหน้าที่ท่านจะเสียชีวิต ทราบข่าวว่า ท่านจะเดินทางมาร่วมงานรำลึก 13 หมู่ป่าครบรอบ 5 ปี ที่ถ้ำหลวง ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแจ้งก่อนหน้านี้ว่า ทั้งผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ท่านอาภากร และอีกหลายท่านจะมาร่วม ร่วมงานรำลึก 13 หมู่ป่าครบรอบ 5 ปี แต่ครั้งนี้ท่านไม่ได้มาร่วม จึงแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวท่านผู้ว่าฯ ด้วย
“หมอภาคย์ โลหารชุน” ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ทหารที่เข้าไปปฏิบัติการภายในถ้ำหลวง เพื่อนำทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ หรือ “13 หมูป่า” ขณะที่ติดอยู่ที่ถ้ำหลวงออกมาได้ระบุว่า “อีก 2 วัน จะครบ 5 ปี เหตุการณ์ถ้ำหลวง ด้วยความอาลัย ขอให้ท่านสู่สุคติภูมิครับ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวโอสถธนากร ด้วยครับ”
ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี กล่าวถึงการเสียชีวิตของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือ "ผู้ว่าฯ หมูป่า" ว่า ได้ส่งพวงหรีดไปแสดงความเสียใจแล้ว ท่านเป็นคนดีและทราบว่าท่านป่วยมานานพอสมควรตั้งแต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นมะเร็งลำไส้ ก่อนที่จะถอนหายใจ พร้อมกล่าวต่อว่า ก็เสียดายคนดีๆที่ต้องสูญเสียไป ท่านก็ยังมีอายุแค่ 58 ปี