เสี่ยปืนโหดหวงแคดดี้ตีสนิทโปรกอล์ฟบุกยิงสาหัส ทิ้งคำพูดก่อนหนี "จะไปตาย"
จากกรณีวานนี้ 21 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้ปืนอาวุธยิง ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงและชายจำนวน 2 ราย ที่สนามกอล์ฟเขื่อนแม่กลอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 และมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ที่เกิดเหตุภายในสนามกอล์ฟหลุมที่ 7 พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนางสาวสร้อยสุดา คำองค์ อายุ 35 ปี ถูกยิงด้วยอายุปืนขนาด 9 มม. บาดเจ็บสาหัส ห่างออกไปบริเวณหลุม 9 พบผู้บาดเจ็บคือนายเกรียงศักดิ์ ชัยวนารมย์ (โปรเกียง) ผู้จัดการสนามกอล์ฟจุดเกิดเหตุ อายุ 67 ปี ถูกยิงด้วยอายุปืนขนาด 9 มม. เข้าที่เข้าที่คาง กระสุนฝั่งในที่แขนซ้าย และมีบาดแผลที่แขนขวาขนาดใหญ่ รวม 3 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายณัฎฐวัชร ดอนมอญ อายุ 54 ปี ผู้ก่อเหตุได้ขับรถมาจอดที่บริเวณด้านหลังของสนาม กอล์ฟพร้อมกับสตาร์ทเครื่องรถไว้ ก่อนจะเดินมาส่องดูว่านางสาวอ้อมอยู่ในสนาม Golf หรือไม่ หลังจากดูแล้วว่านางสาวอ้อมได้มาตีกอล์ฟที่นี่ จึงได้เดินมาซื้อตั๋วในราคา 200 บาท ก่อนจะเช่ารถกอล์ฟและนำกระเป๋าไม้ตีกอล์ฟขึ้นรถไปด้วย จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับไปหานางสาวอ้อมที่บริเวณหลุมแปด ก่อนจะชักอาวุธปืนยิงใส่นางสาวอ้อมก่อนหนึ่งนัดจากนั้นได้เดินลงจากรถแล้วไปยิงซ้ำอีกจำนวน 2 นัด ก่อนจะขับรถย้อนกลับมาบริเวณหลุมที่ 9 เพื่อมาหา นายเกรียงศักดิ์ ผู้จัดการสนามกอล์ฟเมื่อผู้จัดการสนามกอล์ฟ เห็นว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนจึงได้วิ่งหนีวนอยู่บริเวณรอบหลุมก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับรถกอล์ฟไล่ยิงใส่จำนวน 4 นัดจนล้มลงไปกองกับพื้น หลังจากก่อเหตุเสร็จได้ขับรถกอล์ฟมาจอดไว้ที่บริเวณหลังร้าน พร้อมกับพูดว่าไม่ต้องมาตามเดี๋ยวจะไปยิงตัวตาย ก่อนจะขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีไป
ส่วนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทราบว่านางสาวอ้อมมีอาชีพเป็นแคดดี้อยู่ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ก่อเหตุเป็นลูกค้าประจำ เวลาไปตีกอล์ฟที่จังหวัดราชบุรีมักจะจ้างนางสาวอ้อมให้เป็นแคดดี้ประจำตัวอยู่เสมอ ซึ่งปกตินางสาวอ้อมมักจะมาตีกอล์ฟที่สนามเขื่อนแม่กลองที่นี่เป็นประจำอยู่เสมอ และเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ชอบไปตีกอล์ฟกับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่ในสนามกอล์ฟแห่งนี้ ส่วนนายเกรียงศักดิ์ผู้จัดการสนามก็เป็นคนอัธยาศัยดี เวลาเจอกันก็จะทักทายกันเป็นเรื่องปกติคาดว่าอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความหึงหวงจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
และเมื่อช่วงเวลา 18.50น. วันนี้ (22มิ.ย.66) ที่ผ่านมา ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายณัฏฐวัชร หรือวัชร ผู้ต้องหาในคดี “ฆ่าผู้อื่น” ปรากฏว่าได้มีตำรวจ ชุด สภ.ท่าม่วง น้ำโดย พ.ต.อ.ศราวุฒิ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง พน้อมชุดสืบ และสภ.พื้นที่ มีการวางกำลัง เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของนายณัฏฐวัชรผู้ต้องหา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอาจมีการเดินทางกลับมาที่บ้านหรือก่อเหตุทำร้ายตัวเอง ตามที่มีการประกาศเอาไว้หลังก่อเหตุที่สนามกอล์ฟ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังอยู่บริเวณรอบนอก เพราะเนื่องจากพื้นที่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ประกอบกับเป็นพื้นที่สวนซึ่งยากต่อปฏิบัติการหากถูกซุ่มยิง
และพอถึงช่วงค่ำ เมื่อเวลาประมาณ 19:20 น. ที่ผ่านมา สังเกตว่าบ้านหลังดังกล่าวมีระบบไฟออโต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระบบโซล่าเซลล์ มีการเปิดไฟอัตโนมัติรอบบ้าน ลักษณะเหมือนมีคนอยู่ แต่ภายในบ้านปิดเงียบ , และเมื่อสังเกตบริเวณโรงจอดรถ ปรากฏว่ามีรถยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น ตัวเก่า ป้ายทะเบียน ชม 6116 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งเอาไว้อยู่ในโรงรถหน้าบ้าน แต่เบื้องต้นทราบว่ามีรถบางคันหายไป จึงมีการคาดการณ์ว่า ตัวของผู้ต้องหาได้ย้อนกลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนรถก่อนหลบหนีไปยังเส้นทางมุ่งหน้าปราจีนบุรี
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวเดือน (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า บ้านหลังดังกล่าว ประกอบอาชีพเป็นเสี่ยสวนมะพร้าวขนาดใหญ่ เดิมทีเคยมีครอบครัว แต่ปัจจุบันทราบว่าอยู่ตัวคนเดียว และไม่เคยเห็นรถของนางสางสร้อยสุดาหรืออ้อม คนเจ็บ รถฮอนด้าสีดำขับผ่านเข้าออกแต่อย่างใด และไม่รู้ว่ามีการคบหาหรือรู้จักกับสาวแคดดี้จริงหรือไม่ เพราะเจ้าตัวใช้ชีวิตแบบสันโดษไม่ยุ่งข้องเกี่ยวกับใคร เข้าออกบ้านก็ใช้รถ2คน ไม่เคยพูดคุยกับเพื่อนบ้าน
โดยทุกคนเพิ่งจะมารู้หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว และมีใบหน้าปรากฏอยู่ในข่าว จึงรู้ว่าไปก่อเหตุทำอะไรมา แต่ยอมรับว่าตกใจเช่นเดียวกัน ที่ไปก่อเหตุยิงคนอื่น แต่หลังจากที่ทราบข่าวก็ไม่พบความเคลื่อนไหว และไม่รู้ว่ามีการย้อนกลับมาเปลี่ยนรถตอนไหนเหมือนกัน
ส่วนกรณีที่เจ้าตัวมีการประกาศเอาไว้ที่เขื่อน บริเวณสนามกอล์ฟหลังจากก่อเหตุ ที่ระบุว่า “ ไม่ต้องตามเดี๋ยวกูก็ไปยิงตัวตาย” ส่วนตัวทราบข้อมูลว่ามีการย้อนกลับมาที่บ้านเปลี่ยนรถ แต่ยืนยันว่านับตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนกระทั่งถึงช่วงค่ำวันนี้ที่ตำรวจเข้ามา ไม่มีเสียงปืนดังขึ้นภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงเชื่อว่าอาจไม่ได้อยู่ในบ้าน หลบหนีไปในเส้นทางอื่นแล้วหรือไม่