"ส.ว.เสรี" ซัด "ก้าวไกล" ปั่นราคา เผย "ส.ว."ถอยหนุน "พิธา" นั่งนายกฯ หลายคนแล้ว เชื่อเสียงไม่ผ่านแน่ ด้าน "วันชัย" โพสต์ "ฝั่ง 312" จะแพ้ศึก หลังอีกฝั่ง รวบตึง ส.ว. 200 เสียงหนุนโหวตนายกฯ
วันที่ 23 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของ ส.ว. ต่อประเด็นทางการเมือง หลังจากที่ ส.ส.ผ่านการรับรองจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง และเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มีการเปิดประชุมนัดแรก 3 กรกฏาคมนี้
โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมทางการเมือง วุฒิสภา กล่าวว่า นายพิธา ไม่น่าจะผ่านการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นี่คือความเห็นส่วนตัว เหตุผลสำคัญคือ การยืนยันที่จะแก้มาตรา 112 และยังมีการแนวคิดปฏิรูปสถาบัน แก้รัฐธรรมนูญมากหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งมันวนเวียนอยู่แต่เรื่องสถาบัน อีกประการก็คือเป็นเรื่องของคุณสมบัติ เพราะตอนนี้นายพิธา กำลังถูกตรวจสอบเรื่องของการถือหุ้นสื่อ
ส่วนที่พรรคก้าวไกลบอกว่า การเจรจากับ สว.มีทิศทางที่ดี มีหลายคนจะโหวตสนับสนุนนายพิธา นายเสรี กล่าวว่า พูดเองเออเอง ไม่น่าเป็นไปได้ จำนวนตัวเลขที่จะใช้คือ 67 คน ต้องย้อนถามว่า ตอนนี้ 5 คนจะถึงหรือไม่ ที่เขาพูดเหมือน เป็นการปั่นราคาทางการเมืองหรือปั่นหุ้นทางการเมือง เพราะจากที่ตนรับทราบ ส.ว.ที่เคยประกาศสนับสนุนนายกฯของเสียงข้างมาก ประมาณ 20 คนนั้น ส่วนใหญ่ไม่เคยเอ่ยชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯของพรรคก้าวไกล
"ถ้าพูดตรงๆก็คือไม่ควรผ่านด้วย มีแนวคิดอะไรที่มันสร้างปัญหาให้ประเทศ ไม่มี มันไม่มีทิศทางอะไรที่มันดีสำหรับเขา เพราะตัวเขาเองก็ทำร้ายตัวเขาเองทั้งหมด มันไม่ใช่เรื่องว่าใครไม่ชอบเขา มันเป็นเรื่องแนวคิดนโยบายการนำเสนอ พฤติกรรมการแสดงออก เขาทำร้ายตัวเขาเองตลอด อารมณ์ก็แปรปรวนเดี๋ยวพูดดีเดี๋ยวพูดร้าย เดี๋ยวพูดดูถูกดูหมิ่น สว." เสรี สุวรรณภานนท์ กล่าว
เมื่อถามว่า สว.ไม่กังวลเรื่องของการถูกด้อมส้มมากดดันใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า อยู่มา 4 ปี เคยเห็น สว.กลัวอะไรหรือไม่ เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวการถูกกดดัน เขาได้รับเลือกตั้งมา ก็เป็นเพียงแค่ตัวแทนกลุ่มคน มันไม่ใช่คนครึ่งค่อนประเทศที่เห็นตามเขา ข้อสำคัญก็คือคะแนนเสียงที่บอกว่าได้มา มันจบไปแล้ว มันเป็นขั้นตอนของการได้รับเลือกตั้ง แต่ตอนนี้มันเป็นขั้นตอนเรื่องของคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ในการที่จะดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ มันก็ขึ้นอยู่กับกฎหมาย มันไม่ใช่เรื่องของ สว. แต่มันเป็นเรื่องของคุณมีคุณสมบัติตามกฎหมายในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเราไปโหวตให้ โดยที่เขาขาดคุณสมบัติ เพราะกลัวด้อมส้ม นั้นสิมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นายเสรี ยังเปิดเผยด้วย ว่า ในกมธ.การพัฒนาการเมือง ยังมีประเด็นที่ตรวจสอบเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายพิธา ซึ่งตนยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะขณะนี้ยังเป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานเพื่อขอข้อมูล โดยเป็นประเด็นเกี่ยวกับหนี้สินและทรัพย์สินที่สอดคล้องกับปมคุณสมบัติ
ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า ฝ่าย 312 ชนะเลือกตั้งขาดลอย แต่แพ้คะแนนโหวต อีกฝ่าย 188 แพ้เลือกตั้งราบคาบ แต่ชนะคะแนนโหวต ต่างฝ่ายต่างแพ้ ต่างฝ่ายต่างชนะ จะมีใครยอมใครมั้ยเนี่ย...
ตอนนี้มีคนกำลังจะทำให้ฝ่ายที่ดูว่าแพ้กลับมาชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด... ผมรู้นะ... แต่อุบไว้ก่อน... ขอนั่งสมาธินิ่งๆอยู่วัดไก่เตี้ย..."
นายวันชัย ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ซีกหนึ่งได้ 312 เสียง ชนะการเลือกตั้ง แต่แพ้คะแนนโหวต ที่ต้องการ 376 เสียง ส่วนอีกฝ่ายแพ้เลือกตั้งราบคาบ แต่ชนะคะแนนโหวต แปลว่า อีกฝ่ายได้ 188 - 190 เสียง ยอมบวกกับ 200 จากฝั่งวุฒิสภา ตนนั่งคิดเอาเอง ที่ว่าฝ่ายหนึ่งชนะศึก แต่แพ้สงคราม