"นายกฯ" ยินดี แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางไทยเติบโตต่อเนื่อง คาดปี 2573 มีมูลค่า 3.23 แสนล้านบาท พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางสู่ตลาด Bio Based Beauty ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (23 มิถุนายน 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานวิเคราะห์แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางไทย และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตได้ดีภายหลังสถานการณ์โควิด - 19 ยอดปี 2565 ส่งออกเครื่องสำอางมีมูลค่ากว่า 8.27 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% YOY
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS วิเคราะห์แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางของไทย มีแนวโน้มเติบโตหลังเปิดประเทศ โดยมีอัตราการเติบโตปี 2565 – 2573 เฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี และในปี 2573 คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 3.23 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่า จากปี 2565 โดยเครื่องสำอางที่ผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 72 เป็นการจำหน่ายในประเทศ และอีกร้อยละ 28 เป็นการส่งออกตลาดที่สำคัญ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และจีน ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรก (มกราคม – เมษายน) ของปี 2566 ไทยส่งออกเครื่องสำอางกว่า 2.82 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และคาดการณ์ภาพรวมในปี 2566 – 2567 ตลาดส่งออกเครื่องสำอางของไทยมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 12.4 และ 14.8 ตามลำดับ สะท้อนว่าเครื่องสำอางของไทยเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการวิเคราะห์ทางการตลาด ซึ่งแนวโน้มผู้บริโภคในยุคหลังโควิด-19 หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเครื่องสำอางต้องปรับตัวมากขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือ Bio Based Beauty ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อม เนื่องจากเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรสำคัญเป็นลำดับต้นของโลก และรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน เนื่องจากเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดยศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินว่า ในปี 2573 ตลาด Bio Based Beauty ในไทยจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 2.17 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 13 ต่อปี จากปี 2565 และจะสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิของผู้ประกอบการผลิตเครื่องสำอางได้ถึงร้อยละ 15 จากการผลิตเครื่องสำอางทั่วไปซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เห็นแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งเป็นความสำเร็จจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาล สนับสนุนการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายการส่งออกและลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบ ผ่านการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าผ่านความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเทศ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันผลักดันโอกาสจากนโยบายของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพและความพร้อมของไทย จะส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ” นายอนุชาฯ กล่าว