โหรวันชัย ทำนายการเมืองเปิดสูตรลับ ไพศาล จับขั้ว รบ. - เศรษฐา ฟาด "ไม่เชื่อ ส.เสื่อม"

23 มิ.ย. 66 จากรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงกรณีการเลือกประธานสภา ว่า"ฝ่าย 312 ชนะเลือกตั้งขาดลอย... แต่แพ้คะแนนโหวต
อีกฝ่าย 188 แพ้เลือกตั้งราบคาบ... แต่ชนะคะแนนโหวตต่างฝ่ายต่างแพ้ ต่างฝ่ายต่างชนะ จะมีใครยอมใครมั้ยเนี่ย...ตอนนี้มีคนกำลังจะทำให้ฝ่ายที่ดูว่าแพ้กลับมาชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด... ผมรู้นะ... แต่อุบไว้ก่อน... ขอนั่งสมาธินิ่งๆอยู่วัดไก่เตี้ย..."


ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก “Paisal Puechmongkol ระบุว่ากองบัญชาการรางน้ำ กับชะตากรรมของประเทศไทยถ้าไม่รู้จักกองบัญชาการรางน้ำ ก็ไม่มีทางเข้าใขการเมืองไทยได้เลย! ลุงป้อมไปอังกฤษเที่ยวนี้ เรื่องใหญ่ใจความเรื่องหนึ่งคือเรื่องกองบัญชาการรางน้ำ!!!อภิอัครมหาทุนนี้ ไม่ใช่นอมินี่ของคนแดนไกล แต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกองบัญชาการรางน้ำมาร่วม40 ปีแล้วมีผลให้พรรคภูมิใจไทย ได้ดูแลใช้สอยงบประมาณมากที่สุดในรัฐบาลปัจจุบัน!!!โครงสร้างการเมืองหลังเลือกตั้ง แม้พรรคก้าวไกลจะมีคะแนนมากที่สุด แต่ขาดพรรคเพื่อไทยไม่ได้ และเมื่อใดที่พรรคก้าวไกล หลุดออกจากวงอำนาจ เมื่อนั้นพรรคภูมิใจไทย ก็จะกลายเป็นพรรคที่ พรรคเพื่อไทยจะขาดไม่ได้ เช่นเดียวกัน ในส่วนของก้าวไกลย่อมรู้ดีว่า ถ้าภูมิใจไทยอยู่ในอำนาจรัฐ ก็ไม่มีวันที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศและประชาชน เพราะรวมศูนย์อยู่ที่ราคา พลังงาน ไม่ว่าน้ำมัน-ไฟฟ้า ปัญหาในสาธารณสุข และคมนาคมได้โดยเด็ดขาด ดังนั้น มีก้าวไกลก็ต้องไม่มีภูมิใจไทย และมีภูมิใจไทยก็ต้องไม่มีก้าวไกลเข้าใจเช่นนี้ ก็จะเข้าใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับไอทีวีได้ กระจ่างแจ้งอีกไม่กี่วัน ก็จะมีความชัดเจนว่า รัฐบาลใหม่จะมีภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลหรือไม่ อนาคตของประเทศชาติและประชาชนที่สยดสยองหรือไม่ จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจสำคัญ ใน 3 วันนี้

ระบุว่าสูตรตั้งรัฐบาลของสำนักกระบี่เดียวดายที่ได้เสนอไว้ มี 3 เหมือนเดิม

1.ก้าวไกล+เพื่อไทย+พันธมิตรรวม 8 พรรค


2.ก้าวไกล+เพื่อไทย+พันธมิตรเดิม+พปชร.+สว.

3.เพื่อไทย +ภูมิใจไทย +พลังประชารัฐ+ประชาธิปัตย์ +สว.

เป็น 3 สูตรที่วิเคราะห์มาตั้งแต่ทราบผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการแล้ว


ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.ตน ได้นัดสมาชิกพรรคภูมิใจไทยที่ได้รับเลือกตั้งไปรับหนังสือที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จากนั้นวันที่ 25 มิ.ย. จะมีการประชุมเพื่อปฐมนิเทศส.ส.ใหม่ที่พรรคภูมิใจไทย ก่อนที่และจะไปรายงานตัวต่อสภา ในวันที่ 26 มิ.ย. เมื่อถามว่าในการปฐมนิเทศจะมีการพูดถึงเรื่องทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้เป็นวาระ เป็นการนัดพบกันก่อน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ส.ส. ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้มาพบกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อถามต่อว่า ในเรื่องการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของซีกรัฐบาลเดิมอาจจะเสนอชื่อขึ้นมาแข่งเป็นประธานสภาฯด้วย นายอนุทิน กล่าวว่ามีด้วยหรือ ตนไม่ได้รับการประสานอะไรทั้งสิ้น และในส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังเหมือนเดิมให้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย

เมื่อถามย้ำว่าหากมีการเสนอชื่อสองคนจะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งคิดไปก่อน ทั้งนี้ การเมืองทุกอย่างอะไรก็ตามเป็นประโยชน์กับประเทศ และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งเลือกภูมิใจไทยและไม่เลือกภูมิใจไทย นั่นคือทิศทางที่พรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาให้ไปในแนวทางนั้น เราทำอย่างนี้มาโดยตลอดไม่ใช่เรื่องใหม่เมื่อถามอีกว่าคุณสมบัติประธานสภาควรจะเป็นผู้ที่มีอาวุโสหรือเป็นเด็กใหม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เดี๋ยวขอดูแคนดิเดตก่อน ยังไม่ทราบเลยว่าใครเป็นแคนดิเดต การรักษามารยาทในส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้มองใครในพรรคของเรา เพราะมารยาททางการเมืองอย่างที่บอกเมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวพล.อ. ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเป็นนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบเลย ไม่ได้พูดคุยกันเลย ในส่วนของบรรดาหัวหน้าพรรค เพราะยังไม่ถึงเวลาพูดคุย คาดว่า คงจะได้พบกันอีกครั้งในวันเปิดสภาฯ วันที่ 3 ก.ค.นี้เมื่อถามอีกว่าขณะนี้การเมืองจับจ้องไปที่พรรคภูมิใจไทยว่าจะเป็นพรรคตัวแปร นายอนุทิน กล่าวว่า จองทุกทีเลย ไม่ต้องจองหรอก พรรคภูมิใจไทยทำตามมารยาททางการเมืองตลอด และตั้งแต่การเลือกตั้งมาจนถึงวันนี้ก็ทำตามที่ตนพูดมาตลอด ว่าเราเคารพมารยาททางการเมือง และทำตามมารยาทที่ดีทางการเมืองเมื่อถามต่อว่าหากทางการเมืองมีการเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า มันยังไม่มี

 

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องการสื่อสารภายในพรรค และรับฟังคณะทำงานที่วิเคราะห์เรื่องการเลือกตั้งว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดผิดพลาดตรงไหน รวมถึงจะมีการพูดคุยกับที่ประชุมเศรษฐกิจวงเล็ก ส่วนการรีแบรนด์พรรคเพื่อไทยตอนนี้มีความคืบหน้าไปได้ไกล ส่วนการตั้งรัฐบาลที่ยังล่าช้าส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างไร หากล่าช้าคงเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะนโยบายหลักจะถูกพักไป และเป็นปัญหามาตลอด ตนจึงเรียกร้องตลอดให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ซึ่งตนได้พูดคุยกับเพื่อนในแวดวงธุรกิจ สะท้อนว่า ยอดขายลดลง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดขายลดลงไป 30% อีกทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น และรายจ่ายเพิ่มถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยน่าเห็นใจ เพราะรายได้ไม่ขึ้นแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นตลอด พร้อมมองว่า เรื่องค่าแรงสำคัญ เพราะเป็นรายได้พื้นฐานของประชาชน แต่จะขึ้นเท่าไหร่คณะทำงานทั้ง 2 พรรคร่วมจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งในส่วนของคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยจะเตรียมการให้ดี

 

ทั้งนี้ไม่ทราบเรื่องการพูดคุยคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ว่าที่นายกรัฐมนตรีป่วยเป็นโควิด ก็อยากให้หายเร็วๆเพื่อจะได้กลับมาพูดคุยกัน ย้ำว่าหน้าที่ของเราคือการเตรียมความพร้อมเพื่อนำไปพูดคุยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเราต้องจัดการทันที อย่างน้อยเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่วันที่ 1 ต.ค.นี้จะปรับขึ้นค่าแรงเราต้องชัดเจน ส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดขึ้นอยู่กับคณะทำงาน ตนเป็นห่วงประชาชน เพราะเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องรอง แต่ทุกวันนี้มีแต่เรื่องการเมืองเท่านั้น ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งใน ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วเมื่อถามถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟสบุ๊คระบุมีคนพยายามจะทำให้คนที่ดูแพ้กลับมาชนะ นายเศรษฐา กล่าวว่า “สั้นๆนะครับ ผมชอบส.เสือที่สร้างสรรค์ ผมไม่ชอบส.เสือที่เสี้ยม”ส่วนการโพสต์ข้อความต่างๆของสว.จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา ย้ำว่า ส.เสือสร้าง ไม่ใช่ ส.เสือเสี้ยม และจุดยืนของตนชัดเจนว่าอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะเป็นห่วงประชาชน

เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับการที่นายวันชัย ระบุว่า ส.ว.ที่พรรคก้าวไกลพยายามเจรจาเปลี่ยนใจจะไม่เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ระบุว่า ตนยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ แต่อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และอยากให้มีการโหวตให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีส่วนในวันที่โหวตเลือกประธานสภาหาก มีส.ส.พรรคเพื่อไทยสวนมติพรรคจะมีข้อบังคับหรือบทลงโทษอย่างไร นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่ทราบ และเราพูดกันเรื่องประธานสภาเยอะพอแล้ว และตนอยากให้มีการโหวตเลือกประธานสภาและแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีโดยเร็วเพื่อบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้

ส.เสื่อม ไม่ให้ค่า!