"ปธ.สภา กทม."รุดเยี่ยมนร.บาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิด ส่วนใหญ่ยังช็อกและเสียขวัญ
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภา กทม. พร้อมคณะ เดินทางมาที่โรงพยาบาลวชิระ เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ นักเรียน 6 รายที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุถังดับเพลิงระเบิดภายในโรงเรียนราชวินิตมัธยม พร้อมเปิดเผยว่าผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ ยังมีปัญหาด้านการได้ยิน จากแรงดันของถังดับเพลิงที่มีระเบิดเสียงดังมาก และมีบาดแผลจากการถูกสะเก็ดถังดับเพลิง ทั้งนี้มีแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนสภาพจิตใจ ทั้งหมดยังอยู่ในภาวะเสียขวัญและช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาบอกว่าภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา และนักเรียนที่เสียชีวิตก็เป็นเพื่อนร่วมห้องที่เรียนมาด้วยกัน
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา มีเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นเยอะมาก ทาง สภา กทม. ชุดนี้ ได้พยายามเรียกร้องให้ กทม.จัดซื้ออุปกรณ์ดับเพลิงใหม่มาตลอด ซึ่งรวมถึงถังดับเพลิงด้วย จึงไม่แน่ใจว่าปัจจุบันมีการนำถังดับเพลิงเก่ามาเวียนใช้ใหม่หรือไม่ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับเหตุการณ์ทีีเกิดขึ้น ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง
ขณะที่ นายวิพุธ ศรีวะอุไร สก.บางรัก พรรคเพื่อไทย ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บด้วย บอกว่า ถังดับเพลิงที่เกิดเหตุ เป็นถังดับเพลิง CO2 จึงไม่สามารถใช้เกจ์วัดได้ ยกตัวอย่าวการอัดก๊าซ Co2เข้าไปในถัง อย่างถังตัวนี้รับแรงดันได้ 1,800 psi โดยปกติจะอัดก๊าซเข้าไปครึ่งนึงราวๆ 900psi พออัดเข้าไปได้ในอุณหภูมิระดับหนึ่ง เช่น21องศา แรงดันจะอยู่ที่ประมาณ850psi ถ้ามากไปกว่านั้นเกจ์จะไม่ขึ้นแล้ว เพราะก๊าซที่อัดเข้าไปจะควบแน่นเป็นของเหลว วิธีการวัดจึงไม่สามารถใช้เกจ์ไปติดตั้งได้ ติดไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องใช้การชั่งน้ำหนักวัดปริมาณสารเคมีที่อยู่ในถัง นี่เป็นสาเหตุที่ถังแบบ CO2ไม่มีเกจ์วัด
อีกจุดที่น่ากังวลก็คือการเติม เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบว่า ถังที่เกิดเหตุเป็นถังใหม่ และตอนไปเติมก๊าซ เติมมาแค่ไหน ทางร้านมีหลักฐานยืนยันไว้หรือไม่ ตรงนี้ยังต้องไปตรวสอบสาเหตุเพิ่ม ส่วนถังที่อยู่กลางแดด ก็มีส่วนทำให้แรงดันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งตรงนี้ในชั้นของคณะกรรมการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย ผมจะรวบรวมพยานหลักฐานยื่มมติต่อสภา ขอให้ กทม.ตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้น ที่ต้องเร่งหาสาเหตุ และถอดบทเรียน เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก