"ชัยชนะ" ชี้ปมแบ่งแยกดินแดนเริ่มลุกลามทั่วประเทศ เผยอาจารย์บางส่วนใช้เสรีภาพทางวิชาการมาบังหน้า เพื่อให้เยาวชนออกมาเรียกร้องความสนใจต่อสังคม แนะใช้มาตรการทางกฎหมายและกวดขันใช้จริยธรรมอย่างจริงจัง หวั่นเป็นหนทางที่มหาอำนาจมาแทรกแซงกิจการภายในของไทยในการตัดสินใจในเวทีระหว่างประเทศ

วันที่ 25 มิ.ย.2566 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีการเสนอแบ่งแยกดินแดน โดยอ้างว่า เป็นการกำหนดอนาคตของคนในพื้นที่ว่า ถือว่าไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ และไม่ได้มีแนวคิดที่จะแบ่งแยกเพียงแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่เป็นข่าวเท่านั้น แต่ถือว่ามีการปลูกฝังโดยอ้างเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ ดังเช่น การอ้างประวัติศาสตร์ที่ขมขื่นในอดีต ในพื้นที่ทางภาคเหนือและอีสาน เพื่อให้นักศึกษารู้สึกคล้อยตามและเป็นเหยื่อของผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการดังกล่าว ซึ่งต้องการใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญในการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อยันอำนาจกับจีนและรัสเซีย โดยการกระทำดังกล่าวจะสำเร็จได้ จะต้องมีดำเนินการแบ่งแยกความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งด้วยรุ่นอายุ การแบ่งแยกพื้นที่ รวมทั้ง การแบ่งแยกความรู้สึกรักและความสามัคคีของชนในชาติ ซึ่งขณะนี้ ถือได้ว่า มาถึงขั้นที่เริ่มท้าทายความรู้สึกของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ตนก็ต้องขอให้ประชาชนคนไทยช่วยกันติดตามกระบวนการเหล่านี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญฯ ก็ได้ระบุถึงหน้าที่ของปวงชนชาวไทยไว้ว่า จะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้ง ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยืนยันในจุดยืนตามรัฐธรรมนูญที่ว่า ประเทศไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ และการกระจายอำนาจจะต้องคำนึงถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น โดยสนับสนุนให้มีการกระจายอำนาจในรูปแบบของเมืองมหานคร ในจังหวัดที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง พร้อมกับดำเนินการสร้างสันติสุขและความปรองดองในทุกพื้นที่ของประเทศ

"ผมเห็นว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องการแบ่งแยกดินแดนนั้น จะต้องทำทั้งกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ มีการดำเนินการแจ้งความเอาผิดทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องกับการจัดเสวนาเรื่อง "การกำหนดอนาคตตนเอง ในสันติภาพปาตานี" โดยมีจัดให้มีการจำลองการลงประชามติในการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งถือเป็นการเข้าข่ายร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อันเข้าลักษณะที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยควรจะเร่งดำเนินการก่อนจะลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ ส่วนอีกกระบวนการหนึ่งที่ผมอยากจะเสนอก็คือ ผมอยากให้มีการกวดขันหรือบังคับใช้ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา บุคลากรและผู้ปฏิบัติงานอื่นในสถาบันอุดมศึกษา อย่างจริงจัง เพราะบรรดาคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางส่วนขณะนี้ มีการใช้คำว่าเสรีภาพทางวิชาการมาบังหน้า เพื่อสอดใส่อคติส่วนตัวและชี้นำเยาวชนให้หลงเชื่อในข้อมูลผิดๆ รวมทั้ง มีความเชื่อมโยงกับองค์กร NGO ต่างประเทศ ซึ่งจากที่เห็นเมื่อวานนี้มีความเคลื่อนไหวแบ่งแยกภาคเหนือ โดยส่วนมากเป็นเยาวชนที่ทำกิจกรรมดังกล่าว ถือว่าเป็นวิธีการเดิมๆ ของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ที่ต้องการใช้ความพลังของเยาวชนไปในทางที่ผิด เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อสังคมด้วย ดังนั้น ผมเชื่อว่า คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องการให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะหากเป็นการสนองเป้าหมายทางการเมืองที่จะทำให้มหาอำนาจแทรกแซงกิจการภายในของไทยในการตัดสินใจในเวทีระหว่างประเทศ" นายชัยชนะ กล่าว.