ตำรวจเดินหน้าช่วยเหลือครอบครัวสารวัตร "วิริยะ" เตรียมไล่เบี้ยตำรวจคู่ค้ำประกัน ล่าสุดปิดยอดรับบริจาค 2.7 ล้าน
วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ที่ห้องประชุม นันทโชติ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์ สว.ฝอ.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และภรรยา ได้ร่วมกันประชุมในเรื่องที่จะช่วยเหลือครอบครัว พ.ต.ท.วิริยะ เพื่อหาทุนการศึกษาบุตรหลังเป็นหนี้จากการค้ำประกันเพื่อนตำรวจด้วยกัน
พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า นวันนี้ มีการพูดคุยใน 2 ประเด็น โดยในส่วนการเยียวยาช่วยเหลือ ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มีการโทรเข้ามาสอบถามถึงเรื่องราวทั้งหมด ท่านให้ความสนใจและให้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา รวมถึงทางสมาคมแม่บ้านตำรวจ สมาคมตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ ส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็จะมีเงินช่วยเหลือครอบครัวส่วนหนึ่ง
และในอนาคตจะมีการช่วยวางแผนในการใช้จ่ายเงินที่ได้รับบริจาคมา โดยมีคณะทำงานเข้ามาคอยดูแล และจะประสานงานกับทางสหกรณ์ออมทรัพย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ทาง พ.ต.ท.วิริยะ เป็นสมาชิก จะเข้าไปดูแลในส่วนการประโครงสร้างหนี้ เพื่อที่จะสามารถใช้ดำรงชีวิตประจำวันได้ รวมถึงลูกสาวที่เรียนหนังสือ ทางมหาวิทยาลัยได้มีการประสานที่จะช่วยเหลือในส่วนการศึกษาและค่าเล่าเรียน
ส่วนการเป็นหนี้การค้ำประกันกับตำรวจทั้ง 2 ราย มีทั้งที่ออกจากราชการไปแล้ว รวมถึงข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะมีการฟ้องไล่เบี้ยค้ำประกันตามกฎหมายแพ่งตามกระบวนการ
ด้าน พ.ต.ท.วิริยะ เปิดเผยว่า รายละเอียดที่ไปค้ำประกัน คือ วนกัน 3 คน จับคู่ค้ำ ของสหกรณ์ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ค้ำประกันให้ ร.ต.ท.นพเกล้า ค้ำกันไปกันมาตั้งแต่ตนเองเป็นร้อยตรี จนเป็นร้อยเอก และวันหนึ่งเขาก็ให้ไปค้ำประกันเงินกู้จำนวน 2 ล้านบาท 2 เดือนต่อมาเขาออกจากราชการเพราะขาดราชการเกิน 15 วัน สหกรณ์เรียกไปคุยให้กู้มาใช้หนี้ และก็ต้องผ่อนจนมาถึงทุกวันนี้ ส่วนการใช้สิทธิไปไล่เบี้ยยอมรับตรงๆ ว่า ไม่มีปัญญา เพราะไม่มีเงินไปจ้างทนาย
ส่วนคนที่ 2 ร.ต.ต.ธนยศ ซึ่งค้ำประกันด้วยกันด้วยความสมัครใจ ในช่วงกันยายนปีที่แล้ว ปลายเดือนเขาเสียชีวิต ผมซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันไม่รู้เรื่อง และสหกรณ์ผู้เป็นเจ้าหนี้ก็ไม่รู้เรื่อง จนปลายเดือนพฤศจิกายน สหกรณ์มีหนังสือมาทวงหนี้จำนวน 25,000 บาท ว่า ร.ต.ต.ธนยศ ไม่ส่งยอดหนี้จำนวนดังกล่าว ทำให้ตนแปลกใจ โทรกลับไป สน.โคกคราม ว่าทำไมไม่ส่ง ปรากฏว่าเขาเสียชีวิตตั้งแต่กันยายนแล้ว ตนเองโทรเช็กฌาปนกิจ ยอดเงินเข้า 570,000 บาท แต่ทายาทถอนไปหมดแล้ว
นางพัชริยา ภรรยา เปิดเผยยอดบริจาคตอนนี้ ประมาณ 2.7 ล้านบาท น้องได้ขอปิดรับบริจาค โดยตอนแรกไม่ทราบว่ามาปิดบัญชีได้เพราะมียอดเข้ามาเรื่อยๆ ขอขอบคุณทั้งผู้บังคับบัญชาทุกท่าน สื่อมวลชน ท่านอุปการะทุกท่านที่เมตตา และบัญชีจะมีหน่วยงานเข้ามาช่วยดูแล แต่ขอทำเป็น 2 บัญชี เพราะมีลูก 2 คน จะให้ทุนที่ได้รับเป็นทุนสำหรับลูกทั้ง 2 คน น้องช่อฟ้า และน้องตะวัน