รู้แล้วใครฆ่าเผาเสี่ยร้านอาหาร เจอพิรุธรถขาวรอดัก ลางก่อนตายพูดชัด "จะถูกอุ้ม"
จากกรณีวันที่ 24 มิถุนายน เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ธนาเศรษฐ์ อภิวัชร์ชยังกูล พนักงานสอบสวน สภ.ดอนหว่าน จ.มหาสารคาม ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณทุ่งนา บ้านหนองอีดำ ต.หนองโน อ.เมือง จ.มหาสารคาม พบศพดำเป็นตอตะโก 1 ศพ สภาพศพนอนคว่ำหน้า ข้างรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาเหลือแต่โครงรถ เหมือนอยู่ในท่านั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ไว้แล้วพอโดนไฟเผาก็ล้มลงมาด้านข้างรถ โดยขาทั้งสองข้างได้หักขาดไป จึงทำการตรวจสอบ และส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
ต่อมานางสาวศันสนีพร อายุ 40 ปี พี่สาวคนเสียชีวิต ยืนยันว่า เป็นศพของน้องชาย นายวรุฒ วิทักษบุตร อายุ 34 ปี หายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ช่วง 10.00 น. ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาเป็นของน้องชายเช่นกัน โดยหลังน้องชายหายตัวไปได้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองมหาสารคาม
โดยตำรวจได้เชิญญาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ เบื้องต้นทราบว่า ก่อนที่นายวรุฒจะหายออกจากบ้านช่วงวันที่ 21 มิ.ย. ภรรยาบอกว่าตอนที่เกิดเรื่องสามีลืมโทรศัพท์ไว้ ก็นึกว่าตัวของวรุฒอยู่บ้านเขา แต่ความจริงแล้วทั้งเมียกับคุณวรุฒไปอาศัยบ้านเพื่อนอยู่ ซึ่งชื่อท็อป
และเมื่อวานตำรวจได้เรียกนายท็อปมาสอบปากคำ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวรุฒโทรศัพท์เหมือนคุยกับใครสักคน ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็ขับรถออกไปเลย
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบอีกข้อมูลว่า มีบรรดากลุ่มเพื่อนๆมาทวงเงินเรื่องเกี่ยวกับเว็บพนัน 700,000 บาท โดยแก๊งที่มาทวงเงินมี 3 คน คือ นายต่อ , น.ส.อ้อย และนายโอ๊ต โดยพบว่าทั้งหมดมาทวงเงินในวันที่ 22 มิ.ย.ที่บ้าน แต่ไม่พบตัว
เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด วันเกิดเหตุ 21 มิถุนายนที่เพื่อนหายตัวไปช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. นายวรุฒเข้าห้องน้ำในบ้านพักมากกว่าปกติ 20-30 นาที ตนก็คาดว่าอาจคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำแต่ไม่ทราบว่าคุยกับใคร กระทั่งประมาณ 09.30-10.00 น. นายวรุฒขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก
จากนั้นกล้องอีกมุม จับภาพนาทีที่นายวรุฒขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งห่างจากจุดพบศพ 17 กิโลเมตร และพบว่ามีรถเก๋ง ที่คาดว่าเป็นกลุ่มทวงหนี้ 3 คน
ส่วนภาพอีกมุม วันที่ 22 มิ.ย. พบรถเก๋งคันหนึ่ง ขับมาที่บ้านของนายท็อป แต่พบว่ามีลักษณะลังเล ก่อนขับออกไป
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่บ้านพักของนายท็อป (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายวรุฒ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งก่อนนายวรุฒจะเสียชีวิตได้พักอาศัยอยู่ด้วย นายท็อป เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนตกใจมากที่เพื่อนเสียชีวิต ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง และตอนที่วรุฒออกไปจากบ้านก็ไม่ได้มีพิรุธอะไร
จากนั้นช่วง 11.39 น.ของวันเดียวกัน ภรรยาของคนตายทักแชตมาหาตนแล้วถามว่า เห็นพี่คาวีไหม (คาวีชื่อเล่นวรุฒ) แกไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกไปด้วย ที่บ้านก็ไม่ได้กลับ
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนายแบ้ อายุ 34 ปี เพื่อนสนิทของนายวรุฒอีกคน เล่าว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเพื่อนตนจะฆ่าตัวตาย เพราะเพื่อนตนไม่ใช่คนมีอาการซึมเศร้า เผยก่อนหน้านี้พอทราบว่าเพื่อนตนแอบทำธุรกิจอะไร โดยก่อนหน้านี้นายวรุฒเป็นแอดมินเพจพนันออนไลน์อยู่หลายปี ได้เงินเดือนต่อเดือนหลักหมื่น ต่อมาได้ผันตัวเองออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วเลิกทำงานแอดมินเพจพนันออนไลน์ ทำให้นายวรุฒใช้ชีวิตอย่างฟู่ฟ่าตามที่เจ้าตัวชอบโพสต์ในเฟซบุ๊ก ลักษณะไปเที่ยวหรือกินของหรู
แล้วอยู่ๆเจ้าตัวก็หันมาเล่นพนันออนไลน์เอง คาดว่าเป็นเพจพนันออนไลน์ที่เคยทำงานเป็นแอดมิน ก่อนติดหนี้พนันออนไลน์ ซึ่งในส่วนที่นายโอ๊ตและนายวรุฒรู้จักกัน เพราะทั้งคู่ทำงานเป็นแอดมินเพจพนันออนไลน์เดียวกัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมนายโอ๊ตถึงต้องมาทวงหนี้ 700,000 บาท ถึงบ้านพักที่เพื่อนตนอาศัยอยู่ ตนไม่เชื่อว่านายโอ๊ตจะลงมือฆ่า อาจเป็นกลุ่มคนที่เป็นรายใหญ่กว่านายโอ๊ตที่ลงมือ
ทั้งนี้วันที่ 22 มิถุนายน ที่นายโอ๊ตพร้อมน.ส.อ้อย และนายต่อเพื่อนของนายโอ๊ต รวม 3 คน มาทวงหนี้โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่มีการพูดจาข่มขู่ว่า หากไม่คืนเงินจะอุ้มทั้งวรุฒและคนเกี่ยวข้อง ส่วนตัวเชื่อเพื่อนตนถูกลวงไปฆ่า ปมเหตุเพราะติดหนี้พนันออนไลน์
ก่อนเกิดเรื่องช่วงเมษายนปีนี้ วรุฒเคยพูดเปรยๆกับตนว่า “กลัวถูกอุ้ม” ตนก็ถามกลับ “ทำไม ไปทำอะไรไว้”แต่วรุฒไม่ตอบ ซึ่งตนก็ไม่ทราบจำนวนที่วรุฒไปติดหนี้เท่าไหร่ เพราะไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ตนฟัง
ขณะที่ญาติของนายโอ๊ต 1ใน 3 ผู้ต้องสงสัย เล่าว่า นายโอ๊ตก็เป็นเพื่อนของนายวรุฒ ซึ่งทั้งคู่เคยนั่งดื่มเบียร์ด้วยกัน แต่ทั้งนางสาวอ้อยและนายโอ๊ตไม่ได้พักอยู่ที่บ้านพักหลังนี้ แต่พักอาศัยในตัวเมืองมหาสารคาม ซึ่งตนไม่รู้ว่าพักที่ไหน
ส่วนเมื่อวานนี้ ตนไม่ทราบเลยว่าเขาถูกเรียกไปสอบปากคำเรื่องอะไรบ้าง เพราะตอนกลางวันตนไปทำนาไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ส่วนตัวไม่เชื่อว่าน้องเขยเเละน้องสาวจะมีส่วนในการก่อเหตุ เพราะพวกเขาไม่มีนิสัยแบบนั้น
ในส่วนความคืบหน้าคดี ตำรวจสภ.ดอนหว่าน เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้น่าจะมีข่าวดีเกี่ยวกับคดีนี้