"เศรษฐา" ชี้ไม่ใช่เวลาเปลี่ยนวันชาติ มองวันเดิมดีอยู่แล้ว ลั่นเอาเวลาไปแก้ปัญหาให้ประชาชนดีกว่า ขณะที่ "ชลน่าน" ย้ำ พท. ยังไม่มีการพูดคุยประเด็นนี้ ขออย่าบิดเบือน
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเจรจาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ส่วนตัวเชื่อ 2 พรรคน่าจะตกลงกันได้ เพราะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ออกมาบอกแล้ว ว่า น่าจะจบกันได้ด้วยดี ตนมั่นใจว่าฝ่ายประชาธิปไตยจับมือกันแน่น และวันที่ 3 นี้ก็ต้องจบแล้ว ตอนนี้ขอให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ก่อน ให้มีการพูดคุยกันอย่างดี เพื่อที่จะเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง อย่าไปเร่งรัดขนาดนั้น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะหลายๆ คนก็ต้องการออกความเห็นซึ่งก็เป็นธรรมดาของสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามถึงการเปลี่ยนวันชาติเป็นวันที่ 24 มิถุนายน ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า จุดยืนเรามั่นคง ว่าวันชาติของเราก็เป็นวันเดิมดีอยู่แล้ว เพราะสังคมไทยมีความเชื่อในระบบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
"วันนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะมาพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนวันชาติทำไม มันไม่ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดีขึ้น เขาเลือกเรามาเขาไม่ได้ให้เรามาทำเรื่องที่มันก่อให้เกิดความขัดแย้ง เรามีจิตใจเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว เรายึดโยงกับพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว วันนี้เราเอาเวลาไปทำงานเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนดีกว่าจะได้อยู่เย็นเป็นสุข"
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงจุดยืนของพรรคต่อกรณีที่มีบุคคลออกมาเสนอความเห็นต้องการจะให้วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันชาติ ว่าเดิมทีวันที่ 24 มิถุนายนคือวันเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2475 ซึ่งบริบทของประเทศไทยในการที่จะกำหนดวันในการที่จะกำหนดวันว่าวันไหนสำคัญอย่างไร ก็จะมีปัจจัยมาเกี่ยวข้องมากมาย ฉะนั้นจะมาถามว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอย่างไรในประเด็นนี้นั้น ยังไม่มีการนำประเด็นนี้มาพูดคุยกัน แต่วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันที่ต้องระลึกถึง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งมีความสำคัญในเรื่องของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่จะทำอย่างไรให้วันดังกล่าวซึ่งผ่านมาแล้วนั้นเป็นไปตามประชาธิปไตยที่แท้จริง นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการจะเสนอในมุมนี้มากกว่า
เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าไม่ได้ให้น้ำหนักไปในทางเดียวกันกับจุดยืนของพรรคก้าวไกล นายแพทย์ชลน่าน ตอบทันทีด้วยน้ำเสียงดุดัน ว่าไปพูดอย่างนั้นคงไม่ถูก ตนจะไม่วิจารณ์การนำเสนอของพรรคอื่น อย่าเอามาเปรียบเทียบผมขอร้องสื่อ ใครจะเสนออะไรอย่างไร ก็ขอให้เป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคม แต่จะเอาพรรคก้าวไกล มาเปรียบเทียบกับเพื่อไทยหรือเอาเพื่อไทยไปเปรียบเทียบกับพลังประชารัฐคงไม่ใช่เรื่อง ตนตอบด้วยความเคารพ ใครจะตอบอะไรก็เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้เสนอมุมนี้ด้วย ก่อนถามกลับสื่อมวลชนว่า พรรคก้าวไกลกล้าเสนอให้วันที่ 24 เป็นวันชาติหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ถามไปยังพรรคก้าวไกลเขาก็บอกว่าไม่ได้เสนอ เพียงแต่เป็นแค่มุมมองของสมาชิกบางคนของเขา
ทั้งนี้ตนขอสื่อมวลชนอย่าบิดเบือนอย่าไปบิดประเด็น เราต้องสร้างความรักความสามัคคีในชาติให้เกิดขึ้นให้ได้