ฟ้าผ่ากระท่อมกลางนาดับ 2 ศพ ลูกเผยลางร้ายมีดตกมือไม่นานกู้ภัยแจ้งข่าว
ร.ต.อ.กฤติเดช จันทร์ลา สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า ที่บ้านโนนกู่ ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมมุ่งสังกะสี โดยที่บริเวณในกระท่อมพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ นอนอยู่ติดใกล้บนแคร่ไม้
ผู้เสียชีวิตคือ นางมะลิวรรณ อายุ 66 ปี และนางอรุณ อายุ 62 ปี ลักษณะนั่งเสียชีวิต
จากการสอบถามนายอานนท์ ลูกชายของนางอรุณ เล่าว่า ช่วงประมาณ 15.00 น. ได้เกิดฝนตกหนัก และตนเองก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00น. แม่ก็ยังไม่กลับมาบ้านจึงรู้สึกเอะใจ จากนั้นตนเองก็ได้ออกไปตามหาแม่ที่คอกวัวท้ายหมู่บ้าน เพราะแม่มักจะนำวัวที่เลี้ยงน้ำเข้าคอกเป็นประจำในช่วงเย็น เมื่อมาถึงคอกก็ต้องตกใจ เพราะวัวที่เลี้ยงไว้ยังอยู่บริเวณด้านนอกไม่ยอมเข้ามาในคอกวัว ตนจึงได้ไปจูงวัวเข้าคอก จากนั้นก็สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างซึ่งเป็นรถของแม่ตนเองจอดอยู่ จากนั้นได้มองเข้าไปในกระท่อมเห็นขาคนจึงเดินเข้าไปดู พบว่าแม่ของตนเองนอนอยู่แต่ก็ไม่มีลมหายใจ ตนเองถึงกับขาอ่อนแรงก่อนที่จะตั้งสติได้ ก็เดินเข้าไปอีกครั้งก่อนจะไปจับร่างของแม่ จากนั้นจึงได้เข้าไปในหมู่บ้านก่อนที่จะตามเพื่อนญาติและเพื่อนบ้านมาดู ซึ่งแม่ตนเองกับนางอรุณ จะเป็นเพื่อนสนิทกัน และจะชวนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
ขณะที่ชาวบ้านเผยว่าบริเวณที่เกิดเหตุนั้น มีต้นประดู่ที่มีความสู่กว่า 20 เมตร ซึ่งเคยถูกฟ้าผ่ามาแล้ว จนกระทั่งมาเกิดขึ้นในครั้งนี้จนทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิตถึง 2 คน
ต่อมาทีมข่าวสอบถามนายนัชชา อายุ 38 ปี ลูกชายของนางมะลิวรรณ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนเองทำงานอยู่โรงเชือดหมู จึงไม่เห็นเหตุการณ์มีเพียงลูกชายของนางอรุณเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์
ก่อนหน้านี้ตนเองสังเกตดูแม่ว่าเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แม่มักจะบ่นว่าอยากออกมาที่ทุ่งนาผิดปกติ เพราะปกติแล้วแม่ของตนเองจะไม่ค่อยออกมาที่ทุ่งนาเพียงลำพัง ซึ่งจะมีตนเองและพี่สาวพามา เนื่องจากแม่ขับรถไม่เป็น แต่เนื่องด้วยวันเกิดเหตุเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทที่มาชักชวนให้มาที่ทุ่งนาจึงได้ออกมาด้วยกัน จึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับแม่ ซึ่งตอนที่เพื่อนโทรศัพท์มาบอกตนเองว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ตนเองยังคิดว่าแม่เสียชีวิตเพราะหัวใจวาย เนื่องจากทำงานหนัก ไม่คิดว่าจะโดนฟ้าผ่า จนกระทั่งมาเจอสภาพศพจึงคิดได้ทันทีเลยว่าน่าจะถูกฟ้าผ่าแน่นอน
ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนเองกำลังทำงานเฉือดหมูอยู่ที่โรงฆ่าสัตว์ อยู่ดีๆ มีดที่ตนเองเคยจับทำงานมา 10 ปีไม่เคยหล่นมือ แต่วันเกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่ม อยู่ดีๆ มีดหล่นมือตกลงพื้น ทำให้ตนเองและเพื่อนตกใจกลัวจะโดนมีดบาด ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าเป็นลางบอกเหตุอะไร ผ่านไปประมาณ 10 นาทีเพื่อนก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่เสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ช่วงเวลา 12.21น. ของวันที่ 26 มิถุนายน 2566 บันทึกภาพขณะที่นางอรุณ ขี่ซาเล้งออกจากบ้าน ก่อนจะเลี้ยวซ้ายผ่านหน้ากล้องร้านค้า ไปบ้านของนางมะลิวรรณ เพื่อชักชวนกันออกไปเก็บฟืนที่ทุ่งนา
ขณะที่เมื่อเช้าลูกชายของผู้ตายทั้ง 2 คนพร้อมด้วยญาติและชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้ทำพิธีฝังร่างของผู้ตายที่ป่าช้าวัดป่าบ้านโนนกู่ ตำบลสาวะถี โดยได้มีการฝังร่างของผู้ตายในลักษณะกึ่งยืนกึ่งนอน ตามความเชื่อของคนในพื้นที่ที่เชื่อว่าหากเกิดชาติหน้าชีวิตจะได้ยืนยาว โดยจะเก็บร่างไว้ประมาณ 6 ปี ส่วนจุดที่ฝังร่างของทั้งสองคนญาติได้ฝังร่างไว้กันกันห่างกันประมาณ3- 4 เมตร เนื่องจากว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันและเสียชีวิตพร้อมกันจึงอยากให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน