แม่ช็อกลูกมาบอกฆ่าพ่อแล้ว ออกตามหาร่างเจอศพเหวอะ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 26 มิถุนายน ที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง  ตำรวจ สภ.วังจันทร์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุลูกชาย ทำร้ายพ่อเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณ หมู่.3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง

 

หลังตำรวจได้รับแจ้ง ตำรวจ พร้อม กู้ชีพป่ายุบใน จึงรุดไปตรวจสอบโดยทันที

 

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายเปล่ง อายุ55ปี สวมกางเกงขายาวลายสก็อต สวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า ข้างกายมีกระเป๋าสะพายสีขาวเปื้อนเลือด ที่มือมีหนังสติ๊กตกอยู่ 1 อัน นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ใกล้ไร่สับประรด แพทย์ชันสูตรพลิกศพ พบบริเวณร่างกาย ถูกฟันและเฉือนเป็นแผลฉกรรจ์ หลายแห่ง ใกล้ๆศพผู้ตายยังพบเคียวตัดปาล์มเปื้อนเลือด ตกอยู่ 1 อัน ตำรวจจึงถ่ายรูปเป็นหลักฐานก่อนส่งร่างผู้ตายส่งชันสูตรการเสียชีวิตโดยละเอียดยังโรงพยาบาล

 

โดยภรรยาผู้ตายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นายรณชัยผู้ก่อเหตุ (ลูกชาย) ได้เสพยาบ้าและดื่มเหล้า ต่อมามีปากเสียงกับพ่อจนทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นฆ่าพ่อ หลังเขาฆ่าพ่อเสร็จเขาวิ่งมาบอกตนเองว่า ฆ่าพ่อแล้วนะแล้วเขาก็หนีไป ตอนแรกไม่เชื่อเลยตามมาดูก็พบ นายเปล่ง สามีนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่จึงรีบแจ้งตำรวจ

 

ทีมข่าวช่อง 8 คุณชยุทธนาท นันท์ดี ลงสำรวจพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ พบเป็นไร่สับปะรดที่ติดกับสวนยางมีบ้านพักคนงานคั่นกลาง โดยบ้านของผู้ก่อเหตุ มีลักษณะชั้นเดียวแบ่งเป็นสองห้องนอนหลังคามุงสังกะสี  ห่างออกไปจากตัวบ้านพักประมาณ 30 เมตรพบคราบเลือดแห่งไปกับพื้นดิน เลือดสาดกระเด็นติดตามโพรงหญ้าและมีเลือดเปื้อนกระเป๋าสะพายข้าง ข้างในพบใส่ยาเส้นและไฟแช็ค มีหนังสติ๊กตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย  ทีมข่าวจึงได้ไปสำรวจ บ้านพักที่ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่โดยบริเวณบ้านพักโดยรอบพบมีดและของมีคมเป็นจำนวนมากรวมทั้งก้นบุหรี่ที่ตกอยู่ภายในบ้านพัก

ด้านแม่ของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้พ่อและลูกชายมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ลูกชายคนที่ก่อเหตุได้พูดกับเธอว่าได้ลงมือฆ่าพ่อตายไปแล้ว แต่เธอคิดว่าเป็นแค่การพูดเล่นเพราะว่าลูกชายเคยพูดแบบนี้เป็นประจำ หลังจากนั้นเมื่อถึงบ้านลูกชายคนเล็ก ลูกชายคนก่อเหตุก็ได้ไปบอกน้องชายว่าได้ฆ่าพ่อไปแล้ว น้องชายคนเล็กก็ไม่เชื่อสิ่งที่คนก่อเหตุพูดจึงได้บอกให้คนก่อเหตุกลับไปส่งแม่ที่ไร่สับปะรดและสวนยาง เนื่องจากใกล้เวลาที่แม่จะต้องกลับไปกรีดยางแล้ว หลังจากนั้นมาถึงบริเวณไร่สับปะรด คุณแม่ใช้ไฟฉายส่องนำทางก่อนที่แสงไฟจะสาดไปกระทบกับร่างของคนเป็นพ่อซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ตัวคุณแม่เห็นอย่างนั้น ก็รีบลงจากรถจักรยานยนต์และลงไปจับดูตามร่างกายของคนเป็นพ่อพบไม่มีชีพจร จึงได้เรียกปลุกแต่ก็ไม่ทัน พบว่าคุณพ่อได้เสียชีวิตแล้ว

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพบกับเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก่อนพ่อจะสิ้นใจ นางเขียวนามสมมุติเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บ้านติดกันกับพ่อและแม่ คนก่อเหตุเปิดเผยกับทีมข่าวว่า พฤติกรรมของลูกชายที่ก่อเหตุ เป็นคนเงียบขรึมเธอรู้อยู่แล้วว่าติดสามเสพติดแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรด้วยในวันที่เกิดเหตุเธอเปิดเผยกับทีมข่าวว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนที่พ่อจะหมดลมหายใจคือในวันนั้นลูกชายได้มายืมรถจักรยานยนต์ของพ่อเพื่อไปซื้อของหลังจากซื้อของกลับมาเสร็จลูกชายมีการพูดจาไม่ดีกับพ่อตัวพ่อเองก็พูดจาไม่ดีจึงเกิดมีปากเสียงกันซึ่งทั้งสองคนเป็นคนอารมณ์ร้อนทั้งคู่หลังจากนั้น ตัวลูกจึงได้ท้าทายพ่อให้มาชกต่อยโดยที่หลังจากถ้าถ่ายเสร็จทั้งสองคนก็วิ่งไล่กันตั้งแต่บริเวณบ้านพักไปจนถึงจุดเกิดเหตุโดยผู้เป็นพ่อหยิบหนังสติ๊กไปเพื่อหวังว่าจะยิงใส่ลูกชายส่วนตัวลูกชายเองเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุมีการโต้เถียงกันเสียงดังมาถึงบ้านของเธอซึ่งเธอไม่ได้สนใจเธอคิดว่าไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้นมากมายจึงไม่ได้เข้าไปห้ามหลังจากเกิดเหตุเธอก็ตกใจมากเพราะว่าพ่อลูกสองคนนี้ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำพูดจาเรียกกันว่ามึงกูตลอด

 

แม่ผู้ก่อเหตุเล่าว่า นายรณชัย อายุ 30ปี (ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชาย) และนาย เปล่ง แก้วมณี อายุ 55 ปี(พ่อที่เสียชีวิต) ทะเลาะกันอยู่ที่บ้าน จากนั้นนายรณชัย ได้นำรถออกไปปะยาง ตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะนายรณชัย นั้นเวลาเมาจะชอบพูดว่าจะฆ่าทิ้ง และปกติก็ชอบพกกระเป๋าอยู่ตลอดอยู่แล้ว 

 

พอนายรณชัย กลับมาก็เดินถือมีดที่ใช้ก่อเหตุมาหาตนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าฆ่าพ่อ บอกแต่ให้ตนไปส่งหาน้องชายที่บึงสามง่าม (อ.แกลง จ.ระยอง)ตนก็ไปส่ง  พอไปถึงหัวสะพาน ลูกชายก็บอกว่า ‘ได้ฆ่าไอ่หวินตายแล้ว’ (ผู้เป็นพ่อ) ตนก็ไม่ได้เชื่อเพราะลูกชายชอบพูดเล่นแบบนี้ 

 

เมื่อถึงบึงสามง่าม(บ้านลูกชายตนเล็ก)ตนได้เล่าว่า ‘มันฆ่าพ่อมัน’ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ บอกกับตนว่า มันเมายาแม่ อย่าไปเชื่อมัน  หลังจากนั้นตนก็บอกให้นายรณชัย ให้พาแม่กลับบ้านแม่จะไม่กรีดยาง รถไม่มีไฟ นายรณชัย ก็บอกว่าให้รอมืดๆหน่อย 

เมื่อนายรณชัย พาตนกลับบ้าน ปกติเคยเข้าทางหน้าบ้าน แต่รอบนี้พาเข้าหลังบ้าน เพราะนายรณชัย รู้ว่าพ่อตายอยู่หน้าบ้านเลยไม่พาตนเข้าทางนั้น หลังจากนั้นตนก็ได้หยิบหัวไฟ(ไฟฉายที่คาดหัว) ใส่รถพ่วงขับออกมา ส่วนนายรณชัย นอนอยู่ในห้อง ตนนั้นได้เห็นสามีนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก็ไปเขย่าตัว เอามือไปแตะที่จมูกก็ไม่มีลมหายใจแล้ว จึงถามลูกว่า ‘มึงทำเขาทำไม’ ลูกชายก็เดินออกมาจากในห้อง ตนจะไปแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายรณชัย ก็ ตะคอกใส่ ไปไหน ไม่ให้ไป  ให้ขึ้นรถมานี่ และพาตน ออกไปบึงสามง่าม ไปหาน้องชายอีก ตนเองก็กลัวจะมาทำร้ายตนอีกจึงต้องไปด้วย หันไปเห็นมีดที่ใช้ฆ่าพ่อ ด้วยความกลัวตนจึงจับโยนเข้าป่าสับปะรด 

 

หลังจากนั้นชาวบ้านก็บอกว่านายรณชัย ได้หนีไปที่ป่ายาง เช้ามืดนายรณชัย กลับมาที่บ้านจึงโดนตำรวจจับที่บ้าน

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วังจันทร์ ทำการสอบสวนก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฆ่าพ่อไปบอกแม่เก็บศพ