หนุ่ม 17 จำจนตายถูกตัดขาขาด ควักบึ้มปาใส่เด็ก 15 เจอสวนของจริงแถมถูกจับ
ตำรวจสภ.เมืองฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบเหตุปาระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ริมถนน ต.โสธร ที่เกิดเหตุพบนายธนโชติ อายุ 17 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกหน้าแข้งขวาแตกละเอียด ส่วนเพื่อนอีกคนคือนายณัฐวุฒิ ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนขวา ขณะที่เพื่อนอีก2คน อยู่ในอาการตกใจ เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุโดยจะเห็นว่า รถมอเตอร์ไซค์ของฝั่งเด็กที่ก่อเหตุ ได้ขี่ผ่านบ้านของชาวบ้าน
ก่อนที่ทั้งสองฝั่งจะขี่รถสวนกันบริเวณทางเข้าหมู่บ้านบ้านรวย 4 โดยจะเห็นว่า ช่วงเวลา 16.31 น. กล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้านจะเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่บาดเจ็บ ขี่รถมอเตอร์ไซค์มากันสองคัน มากันทั้งหมด 4 คน โดยนายธนโชติ ที่ถูกระเบิดปิงปองจนขาขาด นั่งซ้อนท้ายรถคันที่ 1
จากนั้นจะเห็นว่า เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ฝั่งผู้บาดเจ็บขี่ผ่านกล้องไปได้ไม่นาน จะเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของ2วัยรุ่นที่ก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์สวนทางออกมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝั่งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ปาระเบิดใส่ วัยรุ่นฝั่งผู้บาดเจ็บแล้ว ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งสองมุมจะเห็นว่าวัยรุ่นฝั่งผู้ก่อเหตุได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีออกมาด้วยความเร็ว
ล่าสุดทีมข่าวได้รับแจ้งว่า แพทย์ตัดสินใจตัดขานายธนโชติแล้ว เนื่องจากบาดแผลไม่สามารถเย็บได้อีก
ในส่วนของคดีตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน ซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน ด.ช.ภาณุวัฒน์ อายุ 14 ปี และ นายอัครพร อายุ 16 ปี ซึ่งนายอัครพรเป็นคนปาระเบิด โดยถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส , ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันทำให้เกิดการระเบิดจนเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
โดยตำรวจต้องดำเนินดคีทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝั่งของนายธนโชติ และเพื่อนรวม4 คน ถูกแจ้งข้อกา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันทำให้เกิดการระเบิดจนเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น และ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
ทีมข่าวช่อง 8 ได้เปิดใจพูดคุยกับ นางพิกุล อายุ 41 ปี แม่ของนายอัครพร เด็กวัย 16 มือปาระเบิด บอกว่า เมื่อวานนี้ช่วง 4 โมงเย็นลูกชายของตนเองกำลังขี่รถมอไซค์ไปกับน้องชายเพื่อเดินทางไปรับน้องชายวัย 8 ขวบที่โรงเรียนแต่ระหว่างพาน้องชายกลับบ้าน ระหว่างทางได้เจอกลุ่มวัยรุ่นที่บาดเจ็บ 4 คน ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ประกบและทำท่าจะควักระเบิดปาใส่รถของลูกชายก่อน แต่ขณะนั้นกลุ่มวัยรุ่นเห็นว่ามีเด็กวัย 8 ขวบซ้อนอยู่บนรถด้วยจึงไม่ได้ปา
ต่อมาลูกชายจึงรีบพาน้อง 8 ขวบกลับมาส่งที่บ้าน ก่อนจะเข้าไปหยิบระเบิดในห้องนอน ซึ่งลูกชายประดิษฐ์ไว้เอง และนำออกไปข้างนอกบ้านด้วยเพื่อป้องกันตัวจากกลุ่มคู่อริ ซึ่งลูกชายตั้งใจจะเดินทางไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ไม่ได้จะไปหาเรื่องใครซึ่งลูกชายไม่ได้ตั้งใจที่จะปาระเบิดให้วัยรุ่นอีกฝั่งขาขาด แค่ป้องกันตัวเท่านั้น เนื่องจากอีกฝ่ายก็มีอาวุธครบมือไม่แพ้กัน
หลังเกิดเหตุลูกชายถูกจับตนเองก็เพิ่งมาทราบข่าวจึงเดินทางมาเพื่อขอประกันตัวลูกชายที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ล่าสุดศาลพิจารณาเรียกเงินประกันตัว 8,000 บาท แต่ตนเองมีอาชีพเป็นลูกจ้างทั่วไป ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น จึงขอให้ลูกชายติดคุกไว้ก่อน เดี๋ยวจะพยายามหาเงินมาประกันตัวให้ ส่วนระเบิดที่ลูกชายใช้ก่อเหตุ ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเห็นลูกชายนั่งศึกษาเปิดดูในยูทูบ และเคยเตือนลูกชายแล้วว่าให้หยุดและระวังจะระเบิดใส่มือ แต่ลูกชายไม่เคยฟัง ซึ่งก็อยากฝากขอโทษน้องที่ขาขาดด้วยเพราะต้องหมดอนาคตไปเลย ลูกชายตนเองก็เช่นกันตอนนี้ติดคุก ก็หมดอนาคตเหมือนกัน
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามกับนายธนโชติ บอกว่า เมื่อวานนี้ตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านพร้อมเพื่อน แต่ระหว่างทางได้เจอกับวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุ 2 คน จากนั้น 2 วัยรุ่นก่อเหตุ ได้กวักมือเรียกพวกตนเอง แต่ตนเองบอกว่า “ไม่เล่นๆ” ก่อนจะขี่รถแยกกันไป จากนั้นไม่นาน ฝั่งผู้ก่อเหตุก็ได้ขี่รถอ้อมและขี่รถสวนกับพวกตนเองอีกครั้ง โดยตนเองเห็นคนซ้อนท้ายของอีกฝั่ง ง้างมือกำลังจะปาระเบิดใส่ ตนเองจึงได้หยิบลูกระเบิดปาใส่อีกฝ่ายก่อน แต่ไม่ถูกใครบาดเจ็บ
จากนั้นอีกฝ่ายได้ปาระเบิดใส่ขาตนเอง ตอนแรกที่โดนขาก็ยังชาไม่รู้สึกตัว แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ตนเองได้ก้มไปดูขาก็พบว่า ขาตนเองถูกระเบิดจนเกือบขาด ตอนนั้นตกใจมาก และเสียใจจนถึงทุกวันนี้ที่หมอต้องตัดขาตนเองทิ้ง ยืนยันตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ส่วนที่แม่ของอีกฝ่ายอ้างว่า กลุ่มพวกตนเองตั้งใจจะปาระเบิดใส่ลูกชายก่อน ขณะพาน้องไปส่งบ้านจากโรงเรียน ทำให้ต้องกลับไปเอาระเบิดมาป้องกันตัว ยืนยันว่า ไม่ใช่พวกของตนเองแน่นอน เพราะพวกตนเองเพิ่งจะเจอกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุครั้งแรกเท่านั้น และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกฝ่ายน่าจะจำผิดตัวมากกว่า ยอมรับว่าตอนนี้หลังถูกตัดขาขวาทิ้ง เสียใจมาก สงสารตัวเอง และสงสารแม่ที่สุดที่ต้องมาเลี้ยงดูตนเองหลังจากนี้ แทนที่ตนเองจะมีโอกาสเรียนหนังสือ ทำงานเลี้ยงดูแม่ แต่ตอนนี้ตนเองหมดอนาคตไปเลย
ขณะที่ นางสาวนฤมล อายุ 39 ปี แม่ของนายธนโชติ ยอมรับว่าลูกชายก็ผิด แต่ก็อยากให้อีกฝ่ายช่วยมาเยียวยาหรือรับผิดชอบอะไรบ้าง เพราะลูกชายตนเองถือว่าหมดอนาคตไปแล้ว ต่อขาคืนไม่ได้แล้ว และอยากให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมเข้ามาช่วยเยียวยาให้ด้วย เพราะตนเองก็มีอาชีพ รับจ้างขายของ และมีอาชีพทำนาทำไร่ ไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร