ญาติวอนช่วยตามหาคนในครอบครัว 5 ชีวิต ถูกหนุ่มคนสนิทพาขึ้นรถตู้ ติดต่อไม่ได้กว่า 2 เดือน และไม่รู้ชะตากรรม
จากกรณีกระแสข่าวการหายตัวไปของเครือญาติพร้อมกันถึง 5 ราย และได้ถูกร้องเรียนจนกลายเป็นเรื่องที่ถูกให้ความสนใจรายนี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องนี้ไปที่บ้านของ น.ส.พิทยารัตน์ อายุ 26 ปี ชาวต.นาไม้ไผ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นญาติสนิทของทั้ง 5 คน และเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลขอความช่วยเหลือ
ล่าสุด 29 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เธอให้ข้อมูลระบุว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาน้าหลานรวม 5 ชีวิตประกอบด้วยนางอุษา อายุ 43 ปี , น.ส.ชนนิกานต์ หรือน้องบีม อายุ 22 ปี, น.ส.ญาสุมินร์ หรือ น้องรุ้ง อายุ 22 ปี (เพื่อนน.ส.ชนนิกานต์), ด.ช.พรพิพัฒน์ อายุ 13 ปี หรือ น้องฟอร์ด, ด.ญ.ศิรประภา หรือ น้องฟ้าใส อายุ 13 ปี ได้หายออกจากบ้านไปพร้อมกับนายลมกรด หรือนายแบงค์ อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ แฟนของ น.ส.ชนนิกานต์ นำรถตู้สีขาว ทะเบียน นข 8797 อุดรธานี โดยมีนายนพดล เป็นคนขับและมีหญิงสาวคนสนิทของนายนพดลนั่งมาในรถรวม 3 คน ต่อมานายลมกรดซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ชนนิกานต์ ได้พาคนหายออกจากบ้านไป และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนเวลาผ่านล่วงเลยไปนานกว่า 2 เดือนก็ยังติดต่อใครไม่ได้เลย ทำให้ทางญาติเป็นกังวลไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ด้านน.ส.พิทยารัตน์ เปิดเผยว่า นายลมกรด ชาวจ.เชียงใหม่ หนึ่งใน 3 คนที่มารับบุคคลทั้ง 5 ได้มารู้จักกับ น.ส.ชนนิกานต์ เมื่อ 5 เดือนก่อน จากนั้น น.ส.ชนนิกานต์ได้พานายลมกรดมาทำความรู้จักกับนางอุษา ผู้เป็นแม่ที่บ้านใน อ.ท่าศาลา โดยมีน.ส.ญาสุมินร์ หรือน้องรุ้ง อายุ 22 ปี (เพื่อน น.ส.ชนนิกานต์) ด.ช.พรพิพัฒน์ อายุ 13 ปี, ด.ญ.ศิรประภา อายุ 13 ปี นั่งอยู่รวมกันที่บ้าน
น.ส.พิทยารัตน์ เล่าต่ออีกว่า หลังนางอุษา ผู้เป็นแม่ของ น.ส.ชนนิกานต์ได้รู้จักกับนายลมกรดแฟนของลูกสาว นายลมกรดได้ชักชวนนางอุษาให้ร่วมลงทุนเปิดปั๊มน้ำมัน โดนอ้างว่าเป็นเจ้าของธุระกิจหลายอย่าง ทำให้นางอุษาหลงเชื่อจึงนำที่ดินจำนวน 5-6 ไร่ไปขายได้เงินมาจำนวน 300,000 บาท นอกจากนี้นายลมกรดยังได้บอกกับนางอุษาว่าจะช่วยเหลือดูแลเรื่องทุนการศึกษาให้กับเด็กๆทั้ง 4 คน โดยจะรับฟ้าใสกับฟอร์ดเป็นลูกบุญธรรม หลังนางอุษาได้เงินจากการขายที่ดินมาก็นำไปให้นายลมกรดแฟนของลูกสาว นอกจากนี้นางอุษายังได้หลงกลนายลมกรดที่พยายามหว่านล้อมให้ลงทุนเพิ่ม ทำให้นางอุษาใจอ่อนนำรถกระบะโตโยต้ารีโว้สมาร์ทแคปตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน ผจ 9822 นครศรีธรรมราช ไปจำนองไว้กับเต็นท์รถในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้เงินมาจำนวน 100,000 บาท
นายแบงค์และเพื่อนมารับบุคคลทั้ง 5 คนและหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อบุคคลทั้ง 5 รวมถึงตัวนายลมกรดได้อีกเลย หลังจากทั้ง 5 คนได้หายตัวไปนางสุจิต อายุ 72 ปี แม่ของนางอุษาไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่าศาลา กระทั่งทางตำรวจสืบทราบว่ารถตู้ที่ใช้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ จ.พะเยา จึงส่งตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบไปติดตามจับกุมตัวนายนพดล หนึ่งใน 3 ได้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นก็นำตัวนายนพดลพร้อมรถตู้มาที่ สภ.ท่าศาลา นายนพดลให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายลมกรดว่า เป็นเพียงคนรับจ้างขับรถตู้ให้เท่านั้นไม่มีส่วนได้เสีย และในวันที่ 14 มิ.ย.นายนพดลได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไป
ส่วนประเด็นคาดว่านายลมกรดน่าจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฏมาหลอกลวงให้หลานสาวหลงรัก และออกอุบายให้นางอุษาผู้เป็นแม่ร่วมลงทุน ทำให้ทุกคนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ทำให้ทางญาติๆเป็นกังวลเพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับน้าและหลานทั้ง 5 คน จึงขอให้สื่อช่วยติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อสอบถามไปทางตำรวจ สภ.ท่าศาลา เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามเท่าที่ควร
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดตามข้อมูลนี้กับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรายหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังแจ้งความ จนไปติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาและรถตู้ได้จากข้อมูลที่รถตู้คันนี้ถูกใบสั่งจากการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งได้นำตัวมาสอบปากคำพบว่าเป็นผู้รับจ้างขับรถตู้เป็นผู้ให้การที่มีข้อมูลอยู่ถึงพฤติกรรมของชายอีก 2 คนกับบุคคลทั้ง 5 ที่หายไปขณะนี้ ไปแวะห้างหรือกิจกรรมอื่นๆไม่มีประเด็นน่าสงสัย แต่ข้อมูลเชิงลึกในขณะนี้พบว่านางอุษา ขายที่ดินได้เงินไปจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนำรถยนต์ไปจำนำที่ กทม. ส่วนข้อมูลในพื้นที่พบว่ามีปัญหาเรื่องหนี้สินจำนวนมากและนำที่ดินของญาติคนหนึ่งไปขายเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่สงสัย อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือไม่สามารถติดต่อทั้ง 5 คนได้เลย เกิดอะไรขึ้นบ้างในขณะนี้ยังไม่มีใครทราบ ซึ่งน่าที่จะติดต่อกันได้บ้าง ทางตำรวจท้องที่ได้รับแจ้งและสืบสวนจะออกหมายจับได้แล้วกำลังเร่งติดตาม ส่วนผู้ที่หายไปทั้ง 5 รายนั้นยอมรับว่ายังไม่รู้ชะตากรรม