สุดทรมานแบกพ่อติดเตียงทำบัตร ปชช. รุ่งขึ้นตาย ลูกแฉ จนท.ตะเพิด ทำงานไร้หัวคิด

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Prangtong Jaiboon โพสต์เรื่องราวเมื่อพ่อป่วยติดเตียง แล้วบัตรประชาชนหมดอายุ แต่ทางอำเภอบอกว่าให้แบกคุณพ่อไป โดยระบุว่า บัตรปชช.คุณพ่อหมดอายุ แต่คุณพ่อติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และอาการไม่ดีมาตลอด ถามแล้วถามอีกว่า มีวิธีอื่นไหมคะ ที่จะไม่ต้องแบก ผู้ป่วยมา มันทุลัก ทุเลมากนะคะ เพราะคุณพ่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ย้ำแล้วนะคะ ว่าช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย มีเอกสารมอบอำนาจมาได้ไหมคะ ละให้คุณพ่อปั๊มนิ้วมือมาหรือมี จนท.ทางอำเภอไปตรวจสอบที่บ้านสรุป แบกคุณพ่อมาทำบัตร ปชช.ใหม่ วันที่ 7 มิ.ย.2566 คุณพ่อเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย. 2566 มาแค่ถ่ายรูป จบ ที่เหลือใช้ข้อมูลเดิมถามว่า ทำไมต้องทำ คุณพ่อยังต้อง ใช้เบิกจ่ายตรงและรับสิทธิ์ จากทาง รพ.ที่คุณพ่อรับยาต่าง ๆ รักษาอยู่ (เบิกหลวงเพราะพี่ชายเป็นทหาร) อะไร คือ ระบบราชการไทย แล้วบัตร ปชช.ใหม่ของพ่อ จะใช้ตอนไหนดี ในเมื่อวันนี้ พ่อไม่อยู่แล้ว ถามว่าจะต้อง แบกกันไปอีกกี่เคส ? ละต้องเสียชีวิต อีกกี่คน ? น่าหดหู่ใจสิ้นดี

นายธรรมนูญ นายอำเภอเมืองปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้ที่โพสต์และได้พบกับคุณปรางทอง ลูกสาวนายสมหมาย อายุ 66  ปี คุณพ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 หลังจากที่ลูกสาวต้องนำพ่อที่ป่วยติดเตียงไปทำบัตรประชาชนที่ว่าการอำเภอเมืองปทุมธานีและกลับมาที่บ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เสียชีวิตลง  ซึ่งนายธรรมนูญ นายอำเภอเมืองปทุมธานี ได้ยกมือไหว้ขอโทษทางลูกสาวและภรรยาผู้เสียชีวิต กับเรื่องที่เกิดขึ้นและจะนำไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานบกพร่องเรื่องนี้ก็ต้องมีมาตรการลงโทษซึ่งทางผมจะได้ทำหนังสือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ทำบัตรประชาชนและไม่ได้มีการกล่าวอ้างเรื่องที่ดินแต่อย่างใด และจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดซึ่งวันหนึ่ง มีประชาชนมาติดต่อกันเยอะมากซึ่งตนเองมาอยู่ที่อำเภอเมืองปทุมธานีได้ 5 เดือนก็พยายามปรับปรุงแก้ไขเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ รวมทั้งสถานที่ด้วยส่วนเรื่องบัตรคิวให้รับถึงเวลา 17.00 น.และให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้ายเพราะเป็นความเสียหายระดับประเทศ ซึ่งในการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านแต่ล่ะเดือน เราได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตลอด เรื่องผู้ป่วยติดเตียงเวลาทำบัตรประชาชน ทางอำเภอก็ต้องเข้าไปทำให้เขาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

คุณปรางทอง ใจบุญ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาตนเองพาแม่ไปทำบัตรประชาชนที่อำเภอเมืองปทุมธานี และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า พ่อตนเองป่วยติดเตียงจะทำบัตรประชาชนต้องทำอย่างไรบ้าง ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าต้องแบกมาซึ่งตนเองก็ย้ำไปว่าพ่อป่วยติดเตียง เขาก็บอกว่ายังไงก็ต้องเอาพ่อมาที่อำเภอทุกเคส ทุกกรณี  ไม่ว่าจะป่วย หรือนั่งรถเข็นก็ต้องมา ซึ่งตนเองก็ติดต่อรถกู้ภัยพาพ่อไปทำบัตรประชาชนซึ่งไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องจากนั้นก็พาพ่อกลับมาที่บ้านช่วงเวลาเช้ามืดก็เสียชีวิตในวันที่ 8 มิถุนายน 2566 เพราะพ่อต้องใช้บัตรประชาชนในการเสียบบัตรเพื่อเบิกค่ารักษา และอยากให้เคสพ่อเป็นเคสสุดท้ายไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

นายภานุวัฒน์  อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง (กู้ภัยเมืองปทุม007) เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุลูกสาวคนป่วยได้ประสานมาเพื่อให้นำคนป่วยไปทำบัตรประชาชนที่ที่ว่าการอำเภอเมืองปทุมธานี เนื่องจากบัตรประชาชนหมดอายุและต้องใช้ในการรักษาตัวขอคนป่วยเอง ตนเองเลยเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยการนำเปลตักเข้าไปเคลื่อนย้ายคนป่วยขึ้นรถโดยนำคนป่วยไว้บนสเตชเชอร์ เมื่อไปถึงที่ว่าการตนเองก็นำคนป่วยลงโดยนำลงทั้งสเตชเชอร์แล้วเข็นขึ้นไปบนที่ว่าการอำเภอเมืองปทุม จุดทำบัตรประชาชน  ตนเองจึงปรับสเตชเชอร์นั่งขึ้นตามสภาพของผู้ป่วยเพราะผู้ป่วยไม่ไม่รู้ตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาถ่ายบัตร สำหรับอุปกรณ์สเตชเชอร์จะมีทุกคนที่เป็นรถพยาบาลเคลื่อนย้ายคนป่วย ราคาจะอยู่ที่ 2-3 หมื่นบาท สามารถปรับนั่งนอนได้