อ่างทองดุควงปืนสงครามยิงถล่มคู่อริกลางร้านเหล้าสาดกระสุนโต้กันเกือบ 3 0นัดนักท่องเที่ยวหนีตายจ้าละหวั่น สุดท้ายตาย 1 ส่วนมือยิงเพื่อนพาหนีหลังถูกยิงสวนคาดพารักษาตัวโรงพยาบาลต่างพื้นที่ ตำรวจเร่งระดมกำลังตามล่าตัว

คลิปภาพมือถือซึ่งนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถ่ายไว้ได้ขณะที่ชายวัยรุ่นนำอาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าไปภายในร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งกลางเมืองอ่างทองก่อนที่จะมีเพื่อนวิ่งเข้ามาลาตัวขึ้นรถเก๋งสีขาวหลบหนีไป เป็นภาพที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐานหลังเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเกิดเหตุยิงกันภายในร้านอาหารกึ่งผับใกล้ตลาดปลากลางเมืองอ่างทอง จนทำให้นายเอก หรือนายภูมิพัฒน์ อายุ 45 ปีถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอกขวา 2 นัด ชายโครงขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากการตรวจสอบภายในร้านพบอาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ตกอยู่ 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 9 ปลอก และหัวกระสุนปืนทั้งขนาด 9 และ 11 มม.อีกจำนวนหนึ่ง บริเวณฉากด้านหลังเวทีมีร่องรอยถูกกระสุนจนทะลุ 4 จุด นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าร้านยังปลอกกระสุนปืนทั้งขนาด 9 และ 11 ตกอยู่อีกกว่า 20 นัด และมีกองเลือดจำนวนมากและยังมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าของผู้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องราตรีอยู่ภายในร้านจำนวนมากทำให้ต้องวิ่งหนีห่ากระสุนกันอย่างจ้าละหวั่น

ทางด้านคู่กรณี มี 2 คน ได้แก่นายจิรัฎฐ์ อายุ 36 ปี อาวุธปืนขนาด 11 มม. และนายจ้อน ทางพระอายุ 43 ปี อาวุธปืนยาว ตอนเกิดเหตุมีการยิงปืนเกือบ 30 นัด โดยปมเหตุผู้ก่อเหตุอ้างว่า ด้านผู้ตายพูดว่า มองหน้าทำไม เลยโกรธ แล้วก็มีการยิงกันเกิดขึ้นแต่จริงๆก็มีเรื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ภาพวินาทีดวลปืน จะเห็นภาพผู้ชายที่สวมหมวกนิรภัย อยู่ด้านนอกร้าน มีรถจักรยานยนต์ อยู่ด้านหลัง และ มีนายภูมิพัฒน์ อายุ 45ปี เอก วัดจันทร์  ผู้เสียชีวิตที่อยู่ในร้าน และมีผู้อยู่ในเหตุการณ์  นอนราบหลบกระสุนปืนอยู่กับพื้นภายในร้าน

ภาพวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ทางด้านผู้ก่อเหตุ มากับเพื่อน จะเห็นรถเก๋.สีขาวมาจอดก่อน แล้วก็มีรถเก๋งสีน้ำเงินอีกหนึ่งคันมาจอดรอ แล้วหลังจากนั้น จิรัฎฐ์ก็วิ่งเข้าไปในร้าน และจิรัฎฐ์เองก็บาดเจ็บอีกด้วย

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบจึงเข้าทำการอายัดตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ ได้นำหมายจับคดีค้างเก่า ในข้อหาความผิดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุน  ที่บริเวณร้านปลาเผา ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ โดยเหตุเกิดในปี 2565 ที่ผ่านมาและได้หลบหนีไป ก่อนมาก่อเหตุยิง" เอก วัดจันทร์นิรมิต " เสียชีวิต

ไทม์ไลน์เหตุดวลปืนยิ่งถล่มคู่อริ

ระหว่างตำรวจนำตัว คุมตัวนายจิรัฎฐ์ หรือ แฝดพี่ มาจากโรงพยาลาบเพื่อมาสอบปากคำและดำเนินคดีในส่วนของหมายจับเก่า เจ้าตัวต้องนั่งรถเข็นมารับทราบข้อกล่าวหา  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการสอบสวนประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุพร้อมแม่ของเจ้าตัวได้ออกมาจากห้องสอบสวน โดยทางเจ้าตัวเองได้นั่งรถเข็น (วีลแชร์) ที่บริเวณมือยังมีสายน้ำเกลือ ขณะที่ใช้หมวกกันน็อกปกปิดใบหน้า 

ทั้งนี้ทางทีมข่าวได้พยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางเจ้าตัวเองกลับไม่ทันได้ตอบ แต่คนเป็นแม่พูดแทรกว่าไม่มีปัญหากันมาก่อน และมีการโวยวายคล้ายไม่ให้ลูกชายพูด โดยจะมีช่วงจังหวะหนึ่งที่ทางคนเป็นแม่ได้ตบที่หมวกกันน็อก ลูกชายคล้ายพยายามห้ามไม่ให้พูด ทางทีมข่าวพยายามสอบถามว่าอีกฝั่งมีการท้าทายหรือมีการนัดเจอกันหรือไม่ ทางคนเป็นแม่บอกให้ไปถามหน้างานหรือที่เกิดเหตุเอง

ขณะที่ทางเจ้าตัวบอกแค่ว่าไม่ใช่ปืนของตน แม่ของเจ้าตัวบอกไม่รู้ว่าใครยิง และทางลูกชายของตนก็ไม่ได้รู้จักกับคนตายมาก่อน ทางผู้ก่อเหตุยังบอกต่อว่าอีกฝ่ายยิงมาก่อน ปัดตอบปมขับรถไปวนเวียนก่อนเกิดเหตุ หรือ เป็นปัญหาใคร ไม่ขอยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุปฏิเสธ ขณะที่ทางเจ้าตัวเองบอกแค่ว่ารถคันที่เห็นในคลิปคือรถของภรรยาตนเอง  ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวขึ้นรถคุมขังเพื่อส่งศาล ดำเนินคดีเก่า ขณะที่ในส่วนของคดีใหม่นั้น ทางเจ้าน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง จะมีการไปเพิ่มหมายและนำตัวมาดำเนินคดีต่อ

ทีมข่าวลงพื้นที่หาข้อมูลเบื้องต้น พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเชื่อมโยงคดีเก่าช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ที่ทาง "จ้อน ทางพระ"ผู้กว้างขวางเมืองอ่างทอง อดีตมือยิงตำรวจ ปทส. เคยโดนลอบทำร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง อาจจะเป็นประเด็นล้างแค้น เนื่องจากทาง " นายจิรัฎฐ์" หรือ แฝดพี่ " ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกพี่ลูกน้องของ  "จ้อน ทางพระ"  ขณะที่คนตาย " เอก วัดจันทร์นิรมิต " เป็นเพื่อนของคนชื่อนุ ซึ่ง นุเป็นคล้ายลูกน้องของ "เปิ้ล" ผู้มีอิทธิพลอีกฝั่งในพื้นที่ที่เคยมีปัญหากับ "จ้อน ทางพระ" โดยเหตุการณ์จากที่มีการเล่านั้น พบว่าเหมือนทาง "นายจิรัฎฐ์" หรือ แฝดพี่ " ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถจักรยานยนต์คันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้ขับวนหาผู้ตายและเพื่อน ก่อนจะมาเบิ้ลรถ 1 ครั้ง และเข้าไปที่ร้านและโวยวายหาว่าคนตายและเพื่อนมองหา ทำให้มีเรื่องและปากเสียงกัน ก่อนที่ทาง "นายจิรัฎฐ์" หรือ แฝดพี่ " ผู้ก่อเหตุ  ได้ตามพวกมาเป็นกระบะ 1 คัน และ เก๋ง 1 คัน ในช่วงที่เกิดเหตุ  ทั้งนี้เบื้องต้นคนตายเองไม่ได้มีปัญหาโดยตรงกับคนก่อเหตุ เป็นเเค่เพียงก๊วนหรือเพื่อนของฝั่งคู่กรณี

ด้านนางสาวณัฐภัทร ลูกสาวนายเอก (ลูกสาวคนตาย) บอกว่าเมื่อวานนี้จริงๆแล้วพ่อออกไปกับเพื่อนนั่งดื่มกันอยู่แถวบ้าน แล้วไปเจอนายนุ เพื่อนของพ่อ ซึ่งกำลังจะออกไปดื่มเหล้าพอดี

ส่วนสาเหตุที่พ่อถูกยิงแล้วถูกกล่าวอ้างว่าพ่อไปยิงเขาก่อนนั้นโดยส่วนตัวยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้เพราะพ่อไม่เคยพกปืนแล้วความเป็นจริงพ่อจะพกปืนไปร้านเหล้าได้อย่างไรแต่พ่อน่าจะถูกลูกหลงหรือยิงผิดตัวมากกว่าเนื่องจากพ่อไม่เคยเข้าแก๊งกับใครและไม่เคยรู้จักกับคนที่ยิงพ่อซึ่งเป็นแก๊งที่อยู่อำเภอโพธิ์ทองด้วย ลูกสาวถึงขั้นร้องไห้กับเราบอกว่าสงสารพ่อที่ต้องมาจบชีวิตโดยที่ไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเขาทะเลาะอะไรกัน เพราะปกติพ่อเป็นคนที่ทำความผิดแล้วหนี แต่นี่การที่พ่อยังอยู่ในร้านเชื่อว่าพ่อไม่ผิดและไม่เกี่ยวข้องด้วยจึงไม่ได้พยามหลบหนีแต่อาจจะถูกเข้าใจผิดว่าอยู่กับแก๊งของเพื่อนพ่อที่ชื่อว่านายนุ