เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ต.ประสิทธิ์ สายตรง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้กระโดดลงมาจากตึกได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดที่อาคาร 21 โครงการเอื้ออาทรมีนบุรี ถนนรามอินทรา แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในโครงการเอื้ออาทรมีนบุรี บริเวณทางเดินระหว่างชั้น 3 และชั้น 4 พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงทราบเพียงชื่อเล่นว่า “กิ๊ฟ” มีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอกและช่องท้อง มีบาดแผลถูกฟันที่ลำคอ ใบหน้าด้านซ้าย เสียเลือดเป็นจำนวนมาก สวมชุดเสื้อกีฬามีปก กางเกงาขายาวลายสก๊อต ใกล้กันพบอาวุธมีดพกแหลม ที่ด้ามมีการพันผ้าเทปสีแดงไว้กันลื่น ตกอยู่บริเวณบันได 1 เล่ม

 

ขณะเดียวกันผู้ที่ก่อเหตุเป็นชายทราบชื่อต่อมาว่า นายณัฐชนน อายุ 20 ปี ได้กระโดดตึกลงมาจากชั้น 4 ลงที่บริเวณแทงก์เก็บน้ำบริเวณด้านข้างของตัวอาคารดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเสรีรักษ์  

 

 

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดตั้งแต่ช่วงก่อนจะเกิดเหตุ คลิปตัวที่ 1 เวลาประมาณ 20.44 น. จะเห็นผู้ก่อเหตุและผู้ตาย ได้เดินถือข้าวของกำลังเดินขึ้นไปบนตัวอาคาร

ต่อมาจะเห็นทั้งสองเดินขึ้นบันไดผ่านชั้น 2 โดยฝ่ายนายณัฐชนนผู้ก่อเหตุ ได้เดินนำหน้าขึ้นไปก่อน โดยมีน้องกิ๊ฟผู้เสียชีวิตเดินต ามหลังขึ้นไป ช่วงเวลาประมาณ 20.45 น. จะเห็นทั้งสองเดินขึ้นอาคารชั้น 3 ระหว่างนั้นจะเห็นฝ่ายชายเริ่มมีอารมณ์โมโห และหันกลับไปคุยกับฝ่ายหญิงสักพัก ในมือขวาจะเห็นนายณัฐชนนกำลังกำอะไรบางอย่างในมือ ก่อนจะค่อยๆเดินขึ้นชั้น 4 ซึ่งจะเห็นน้องกิ๊ฟผู้ตาย เริ่มต่อว่าแฟนหนุ่มตามหลัง

 

ต่อมาจะเป็นวินาทีเกิดเหตุ จะเห็นนายณัฐชนน ได้เดินนำขึ้นมาก่อน จากนั้นนายณัฐชนนได้ทิ้งข้าวของที่หิ้วขึ้นมาโยนทิ้ง และปรี่เข้าใส่น้องกิ๊ฟที่อยู่ข้างหลังทันที ซึ่งช่วงวินาทีขณะแทง กล้องไม่สามารถภาพได้ เนื่องจากเป็นมุมอับสายตา

เวลาประมาณ 20.46 น. จะเห็นชายคนหนึ่งซึ่งพักอาศัยอยู่ในอาคาร ได้เปิดประตูออกมาเห็นขณะฝ่ายชายกำลังลงมือแทงฝ่ายหญิง โดยเจ้าตัวพยายามตะโกนห้าม

หลังจากผู้ก่อเหตุลงมือฆ่าฝ่ายหญิงเสร็จแล้ว ได้เดินไปที่ห้องของญาติที่อยู่ชั้น 4 แต่ประตูห้องดันล็อก ทำให้เจ้าตัวต้องเดินกลับมาและเดินวนไปวนมา จะสังเกตว่า เสื้อผ้าของนายณัฐชนนเปื้อนไปด้วยเลือดของฝ่ายหญิง ซึ่งคนที่พักอาศัยต่างออกมาดูและต่างตกใจ ไม่กล้าเข้าใกล้

ต่อมาจะเห็นเจ้าตัวเดินไปเดินมาบริเวณชั้น 4 ก่อนจะตัดสินใจไปยืนริมระเบียงเพื่อที่จะเตรียมกระโดดตึกฆ่าตัวตาย และมีคนในอาคารพยายามห้าม และโทรศัพท์เรียกให้คนช่วยเหลือ

ต่อมาเป็นกล้องใต้อาคาร ผู้ก่อเหตุตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้น 4 โดยมีชาวบ้านที่รออยู่ด้านล่าง พยายามจะวิ่งไปรับแต่ก็ไม่สามาถรับไว้ได้ทัน

นายชวลิต เพื่อนข้างห้องในอาคารที่เกิดเหตุ  ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ขณะฝ่ายหญิงถูกแทง เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นตนเองอยู่ในห้องพัก กำลังนั่งปั่นสล็อตออนไลน์อยู่ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงบริเวณบันไดทางขึ้นอาคาร ตนเองจึงเปิดประตูออกไปดู เมื่อเปิดไปถึง ก็เห็น เด็กนักเรียนชายผู้ก่อเหตุกำลังใช้มีดพกสั้น จ้วงแทงเด็กนักเรียนแบบไม่ยั้ง โดยจ้วงแทงทั้งลำคอ ใบหน้า ในลักษณะนั่งคร่อมแล้วจ้วงแทง ตอนนั้นตนเองเห็นเด็กผู้หญิง พยายามดิ้นอย่างทรมาน ตนเองได้แต่มองและตะโกนว่า “น้องพอได้แล้ว” และพยายามจะเดินเข้าไปช่วย

แต่เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นตนเองเดินเข้าไปใกล้ ได้หันกลับมาและทำท่าจะเอามีดจะแทงตนเองอีกคน ตนเองด้วยความกลัวจึงได้ยืนบอกให้ผู้ก่อเหตุใจเย็นๆ แต่เด็กชายที่ก่อเหตุไม่ฟังอะไรเลย จ้วงแทงอย่างเดียว จากนั้นเมื่อแทงเสร็จ ผู้ก่อเหตุได้วิ่งไปบนชั้น 4 ก่อนจะกระโดดลงมาจากอาคาร

ตนเองหลังเกิดเหตุรู้สึกเสียใจมาก ที่ตนเองไม่สามารถช่วยน้องผู้หญิงที่ตายได้ และอยากให้ผู้ที่ก่อเหตุตายตกไปตามกันเลย เพราะพฤติกรรมโหดเหี้ยมมากๆ ที่ลงมาฆ่าผู้หญิงได้ขนาดนี้

 

ทีมข่าวได้รับคลิปวีดีโอมาเพิ่มเติม 2 คลิป ซึ่งเป็นคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้หลังจากที่นายณัฐชนน กระโดดอาคาร ชาวบ้านพูดว่า “คว้าไม่ทัน กระโดดไปแล้ว ฆ่าผู้หญิงตาย แล้วกระโดด”  จากนั้นก็มีเสียงกรี๊ดของคนในอาคารดังออกมา และถ่ายสภาพศพฝ่ายหญิง นอนจมกองเลือดอยู่ที่บันไดชั้น 3 ไปหาชั้น 4

ด้านนายยุทธพ่อของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับอาการของนายณัฐชนน ลูกชายตัวเองตอนนี้ ยังคงทรงตัว 50/50 ซึ่งแพทย์บอกว่ามีเลือดออกที่สมอง และแขนหัก คาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างเร็ว 2 สัปดาห์

ส่วนปมที่เกิดเหตุ ก็คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง ที่ฝ่ายหญิงบอกเลิกลูกชาย แต่ส่วนตัวก็ไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่ค่อนได้คุยกับลูกชาย เนื่องจากอาศัยอยู่คนละที่ ส่วนใหญ่เขาจะอาศัยอยู่กับน้า และย่า ตัวเองจึงทราบแต่เพียงว่า ลูกชายคบหากับผู้หญิงรายนี้ได้ประมาณ 6 เดือนเท่านั้น

 

ที่ลูกชายคิดฆ่าตัวตายตามฝ่ายหญิง คาดว่าเขาน่าจะรักผู้หญิงคนนี้มาก เนื่องจากตัวเองสัมผัสได้ว่า ลูกชายมีการขายเสื้อผ้าออนไลน์กับฝ่ายหญิง และเงินทุกบาทที่ขายได้ก็ให้ฝ่ายหญิงหมด จึงคิดว่าลูกน่าจะวางแผนจะตั้งตัวกับนางสาวพรชนก

ยอมรับว่าลูกชายเป็นคนใจร้อน และตัวเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหาโอกาสติดต่อขอโทษครอบครัวคนตายอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้เจอกับฝั่งนั้น

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนายตั้ม ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองนั่งดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ที่ชั้นล่างของอาคารที่เกิดเหตุ กระทั่งได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุและแฟนสาวทะเลาะกัน แต่ตัวเองจับใจความไม่ได้ว่าเบาพูดว่าอะไรกันบ้าง

 

จนต่อมา เห็นผู้ก่อเหตุไปยืนอยู่ระเบียงบันได ชั้น 4 ไปหาชั้น 5 เพื่อจะกระโดดฆ่าตัวตาย ตอนนั้นพวกตัวเองพยายามเกลี้ยกล่อม ให้ผู้ก่อเหตุใจเย็นลง พร้อมทั้งเอาโซฟา ไปวางไว้ช้างล่างเพื่อจะให้รองรับผู้ก่อเหตุเอาไว้ จากนั้นตัวเองก็ไปยืนรอ จนผู้ก่อเหตุกระโดดลงมา ตัวเองก็ได้คว้ามือรับเอาไว้ ซึ่งก็ช่วยรับแรงผู้ก่อเหตุได้เล็กน้อย ก่อนที่เขาจะตกไปที่พื้น และบาดเจ็บ (ซึ่งในวงจรปิด ก็จะเห็นนายตั้ม เอามือไปรองรับผู้ก่อเหตุ ตอนที่ตกลงมา เอาไว้ได้)

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังวัดบึงทองหลาง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนางสาวพรชนกผู้เสียชีวิต  บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

 

ด้านนายมลฑล อายุ 48 ปี และนางกำไร อายุ 46 ปี พ่อและแม่ของนางสาวพรชนก ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ก่อนจะเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ นายณัฐชนน ผู้ก่อเหตุ เขาขับมอเตอร์ไซค์มาที่บ้านของตัวเอง

ที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งเขาประสบอุบัติเหตุรถล้ม จึงเอารถไปซ่อมที่ร้านแถวนี้ ซึ่งตอนที่ตัวเองเจอกับนายณัฐชนน เขาก็บอกกับตัวเองว่า เขาถูกลูกสาวตัวเองบอกเลิก เพราะเขาทำไม่ดีกับลูกสาวหลายอย่าง แต่ตัวเองก็ไม่ได้คุยอะไรกับนายณัฐชนนมากเท่าไหร่

 

กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม นางสาวพรชนก ลูกสาวตัวเอง จึงขับรถกระบะ เพื่อไปส่งผู้ก่อเหตุกลับบ้าน (ที่จุดเกิดเหตุ) ซึ่งก่อนจะออกจากบ้าน ผู้ก่อเหตุและลูกสาวก็ยังพูดคุยกันปกติ ไม่ได้ทะเลาะกันแต่อย่างใด แล้วยังมีการถือเอาถุงเสื้อผ้ามือ 2 ที่ลูกสาวจะใช้ขายตามตลาดนัด และในเฟซบุ๊กไปด้วย // กระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ตัวเองถึงมาทราบข่าวว่า ลูกสาวถูกแฟนหนุ่มทำร้ายจนเสียชีวิต

 

เหตุที่เกิดขึ้น ในฐานะพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ตัวเองก็ยังไม่ขอให้อภัยผู้ก่อเหตุ เพราะนับไม่ได้กับสิ่งที่เขากระทำ และตอนนี้ขอตั้งใจจัดแค่งานศพลูกสาวก่อน

 

สำหรับลูกสาวตัวเอง เรียนมหาลัยชั้นปีที่ 2 คณะการจัดการบัญชี โดยลูกสาวคนนี้เป็นคนขยันตั้งแต่เด็ก และเป็นคนดี ไม่น่าจะมาจากไปเร็วแบบนี้  ตัวเองอยากบอกลูกว่า ให้วิญญาณของเขาไปสู่สุขติ ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อกับแม่