จากกรณีการหายตัวไปของทั้ง 5 ชีวิต ซึ่งเป็นเครือญาติกัน หายออกจากบ้านพร้อมกับนายลมกรด แสงสว่าง หรือ แบงค์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของน.ส.ชนนิกานต์

กระทั่ง พบตัว 5 ชีวิต ที่จ.นนทบุรี โดยยืนยันไม่ได้ถูกอุ้ม ส่วนแบงค์ลมกรด ยังไม่พบตัว ทราบเบื้องต้นว่าถูกส่งย่านมีนบุรี

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ที่นายนวพล คนขับรถเชฟโรเลต มาส่งนายแบงค์ ลมกรด ลงจากรถ

วงจรปิดมุมที่ 1 เวลา 21.48.02 น. นายนวพล ได้ขับรถเชฟโรเลตสีดำ มาจอดที่หน้าตลาดมีนบุรี

กล้องตัวเดียวกันเวลา 21.48.15 น. นายแบงค์ ลมกรด เดินลงจากรถ และมีผู้หญิงเสื้อแดง ที่เป็นคนรู้จักนายแบงค์ เดินตามหลังนายแบงค์มา ส่วนนายนวพล และอีก 5 คน อยู่บนรถ จากนั้นนายแบงค์ และสาวเสื้อเแดง ก็เดินพ้นกล้องไป คาดว่าไปเรียกรถโดยสาร เขตมีนบุรี

เวลา 21.52.48 น. หญิงเสื้อแดง เดินกลับมาขึ้นรถ และเวลา 21.53.45 น. นายนวพล ได้ขับรถยนต์เชฟโรเลตออกไป

ขณะที่วงจรปิดมุมที่ 2 ก็จะเห็นเหตุการณ์ เดียวกับวงจรปิดตัวแรก แต่จะเป็นภาพอีกมุม

ทั้งนี้ทีมข่าวได้ตรวจสอบ ถนนสีหบุรานุกิจ เขตมีนบุรี เพื่อไล่กล้องตัวต่อไป แต่พบว่ากล้องที่อยู่ด้านหน้า เป็นของร้านสะดวกซื้อ ชื่อดัง ซึ่งทางร้านไม่อนุญาตให้ภาพวงจรปิด ณ จุดนั้นแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับประแมน โดยยืนยันว่าไม่เคยเห็นแบงค์ลมกรด และผู้หญิงเสื้อสีแดงที่ปรากฏในวงจรปิด

ทางด้านนายนวพล ซึ่งเป็นคนขับรถเซฟโรเลต และถูกแบงค์ลมกรดหลอกให้ขับรถให้ โดยนายนวพลได้พาทีมข่าวช่อง 8 มาชี้จุดที่บริเวณปากทางเข้าตลาดมีนบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ขับรถมาส่งนายแบงค์ลมกรด ก่อนที่แบงค์จะหายตัวไป

นายนวพล กล่าวว่า วันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ผ่านมา ตัวเองขับรถยนต์เชฟโรเลตสีดำซึ่งในรถมี 7 คน ประกอบด้วยนางอุษา ปานรอด อายุ 43 ปี  , น.ส.ชนนิกานต์ โตชะนก หรือ บีม อายุ 22 ปี , น.ส.ญาสุมินร์ โจมฤทธิ์ หรือ รุ้ง  อายุ 22 ปี , ด.ช.พรพิพัฒน์ ปานรอด หรือ ฟอร์ด อายุ 13 ปี และด.ญ. ศิรประภา รุจิตร หรือ ฟ้าใส อายุ 13 ปี (กลุ่ม 5 คน) รวมถึงมีนายแบงค์ ลมกรด และผู้หญิงเสื้อแดง ที่เป็นคนรู้จักนายแบงค์อีก 1 คน

เมื่อตัวเองขับรถยนต์มาถึงหน้าตลาด นายแบงค์ ก็ขอให้ตัวเองจอดรถ โดยบอกว่าจะไปทำงาน ตัวเองก็จอดรถให้เขาเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ตัวเองก็เคยมาส่งนายแบงค์ ที่ตลาดมีนบุรีประมาณ 4-5 ครั้ง เพราะเขาบอกว่าเขามาทำงานที่นี่

จากนั้นเขาก็ลงจากรถ ไปพร้อมกับผู้หญิงเสื้อแดง ที่เป็นคนรู้จักกับนายแบงค์ พร้อมบอกตัวเองว่า "รอตรงนี้นะ" แล้วเขาก็เดินไปทางร้านสะดวกซื้อติดกับถนนมีนบุรี ส่วนอีก 5 คน ก็นั่งรออยู่ในรถ กระทั่งผ่านไปประมาณ 5 -10 นาที นายแบงค์ก็หายตัวไปเลย ส่วนผู้หญิงเสื้อแดงก็เดินกลับมาขึ้นรถ แล้วก็บอกให้ตัวเองขับรถออกไป จนถึงตอนนี้ นายแบงค์ ก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตัวเองเลย แล้วตัวเองก็โทรศัพท์หาเขาไม่ติดแล้ว

นายนวพล บอกต่อว่าตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. ที่ตัวเองรับงานขับรถพานายแบงค์ และ 5 คนเที่ยวมานั้น เขาก็ยังไม่ได้จ่ายเงินค่ารถตัวเอง ซึ่งนายแบงค์พูดมาคำหนึ่งว่า “พี่ ถ้างานผมสำเร็จ ค่อยคิดเงินค่ารถทีเดียวเลยนะ” ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็ตอบตกลง เพราะคิดว่าจะได้เงินค่ารถเป็นเงินก้อน ส่วนค่าน้ำมันวันแรกๆ ตัวเองเติมเอง แต่วันหลังๆมานั้น นายแบงค์ เขาก็หาเงินมาเติมเอง อีกทั้งรถไปยืมมา จนนายนวพลถูกเจ้าของรถแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มด้วย

เมื่อไล่ดูเส้นทางหลบหนีของแบงค์ ลมกรด ในช่วง 29 มิ.ย.2566 นายนวพลรับทั้ง8 ชีวิต ออกจากหอพัก ซอยลาดพร้าว130

จากนั้น21.48น. ในวันที่ 29 มิ.ย. 2566 ไปส่งแบงค์ ลมกรดที่ตลาดมีนบุรีก่อนจะหายตัวไป

ส่วนความเคลื่อนไหวของผู้หญิงเสื้อสีแดง ซึ่งไปส่งแบงค์ลมกรด พบว่าเมื่อ 13.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. 2566 ไปลงเมืองทองธานี



ก่อนที่ 5 ชีวิต ปรึกษากับนายนวพล ก่อนจะปล่อยทั้ง 5 ชีวิต ที่วัดช่องลม จ.นนทบุรี

นอกจากนี้ มีข้อมูลสำคัญจากนายนวพล บอกว่า ที่ผ่านมาตัวเองก็รู้สึกสงสารความเป็นอยู่นายแบงค์ และทั้ง 5 คนอยู่เหมือนกัน เพราะมีหลายวัน ที่นายแบงค์เขาไม่มีเงิน ต้องซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปห่อเดียว มาต้มกินทั้ง 6 คน ซึ่งแบ่งกันกินเพื่อประทังชีวิต

และเท่าที่สังเกต นายแบงค์เขาจะใช้โทรศัพท์ 1 เครื่อง และเวลาอยู่ในรถเขาจะไม่ค่อยใช้อินเทอร์เน็ต แต่ถ้าลงจากรถไป ก็ไม่รู้ว่าเขาใช้อินเทอร์เน็ตหรือไม่

ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ตัวเองสังเกตว่า คนในรถทั้ง 5 คน เขาจะฟังคำสั่งนายแบงค์ทุกอย่าง ไม่ว่านายแบงค์จะบอกให้ทำอะไร และมีการเตรียมเสื้อผ้ามาเยอะ น่าจะต้องรู้ว่าต้องหลบหนีเป็นเวลานาน

ขณะเดียวกันความคืบหน้าการรับตัวทั้ง 5 คนกลับบ้านที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มีทางญาติๆสลับสับเปลี่ยนกันมาเฝ้ารอกันทั้งวัน โดยเมื่อ 19.40 น. ที่ สภ.ท่าศาลา ทั้ง 5 ชีวิต เดินทางมาถึง โดยมีญาติๆมารอรับ ทันทีที่ได้พบหน้าได้โผกอดร้องไห้

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.พิทยารัตน์ อายุ 26 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สาวของน้องบีมและเป็นหลานของนางอุษา ได้ต่อสายไปยังรองผู้กำกับสอบสวนเพื่อขอพูดคุยกับคนบนรถ โดยนางอุษาบอกว่า โทรศัพท์เสีย ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่าโทรศัพท์มือถือพังพร้อมกัน 5 เครื่องเลยหรือ และไม่เชื่อว่าไปเที่ยว

เมื่อย้อนไปดูความเคลื่อนไหวของหญิงเสื้อสีแดง นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้กล้องวงจรปิดเพิ่มเติมมาสองมุม

กล้องตัวที่ 1 ความยาว 11 วินาที (เวลาในกล้องตรง) เวลา 13.20.19 จับภาพนายนพดล ขับรถเชฟโรเลตผ่านกล้อง โดยมีการชะลอรถ ก่อนจะถึงสะพานลอย 10 เมตร

กล้องวงจรปิดตัวที่ 2 (เวลาช้ากว่าความจริง 15 นาที) เวลา 13.06.17 น. จับภาพรถของนวพล กำลังจอดส่งหญิงเสื้อแดง จากนั้นรถก็ขับออกไป และเวลา 13.06.20 จะเห็นเงาดำๆ ซึ่งคือผู้หญิงเสื้อแดง ที่ลงจากรถ แล้วกำลังขึ้นสะพานลอยไป

เจอตัว "แบงค์ ลมกรด" โผล่มีนบุรีเย้ยบิ๊กโจ๊ก มีสาวชุดแดงช่วย 5 ชีวิตถึงบ้านปิดปากนิ่ง