จากกรณีมีผู้โพสต์ลงโซเชียล ในเนื้อหาของโพสต์ได้ระบุว่า ขอความช่วยเหลือเนื่องจากเป็นเพื่อนบ้าน ถูกทำร้ายจากพี่ชายแท้แท้ของเค้า เป็นระยะเวลาหลายปี โดยเวลาดื่มสุราจะมีอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายน้อง ซึ่งเป็นออทิสติกจนหน้าตาปูดบวม และกระโหลกร้าว ขนาดมีหน่วยงานลงเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือก็ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้เข้ากระบวนการของกฎหมาย

โดยมีการเผยแพร่คลิป นาทีที่ผู้ผู้ก่อเหตุคือนายทวีชัย กำลังทำร้ายร่างกาย นายไหม ซึ่งเป็นน้องเป็นออทิสติก และมีศักดิ์เป็นอาของผู้ร้องเรียน เนื่องจากทนพฤติกรรมของพ่อไม่ไหว

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังย่านเอกชัย โดยพบกับคุณพรรณี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า พ่อของเขาได้ทำร้ายน้องชายผู้เป็นอา มาโดยตลอดระยะเวลาหลายปีจนถึงขั้น บาดเจ็บสาหัส และคุณณี ก็ได้แอบถ่ายคลิปขณะพ่อของเขาก่อเหตุไว้ได้ จึงนำมาปรึกษาคุณเล็กผู้เป็นเพื่อนบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆที่จะช่วยเหลือในกรณีนี้ได้

โดยคุณพรรณี เล่าว่า พ่อของเขามีพฤติกรรมดังกล่าวและคนในครอบครัวไม่สามารถทนกับพฤติกรรมดังกล่าวได้แล้ว แล้วไหนเมื่อวานได้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบกรณีเรื่องแบบนี้ที่เกิดขึ้น ได้ลงพื้นที่เข้ามาให้การช่วยเหลือต้นจึงได้พาหน่วยงานดังกล่าวไปบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตน เมื่อเข้าไปยังภายในบ้านหน่วยงานที่เข้ามาให้การช่วยเหลือก็พยายามพูดคุยกับผู้ก่อเหตุแต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่รับฟังและโวยวายไล่ให้ออกจากบ้านไปลักษณะคุยไม่รู้เรื่อง จากนั้นตนจึงได้หันไปเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากที่เห็นคือหัวมีลักษณะบวมตาทั้งสองข้างปูดบวมและโหนกแก้มมีลักษณะบวม จนหน้าไม่อยู่ในลักษณะเค้าโครงหน้าเดิม จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตากสิน โดยเบื้องต้นแพทย์ได้แจ้งอาการว่าลักษณะมีกระโหลกร้าวสมองบวม และบริเวณกระดูกโหนกแก้มแตกร้าว และอาจจะสูญเสียดวงตาทั้งสองข้าง เนื่องจากแรงกระทบกระเทือนบริเวณเบ้าตา ซึ่งทางผู้ได้รับบาดเจ็บก็ไม่มีเอกสารใดใดติดตัวเลย แม้กระทั่งเอกสารระบุตัวตนอย่างเช่นบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านก็ไม่มี จึงอยากขอวอนให้เข้ามาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนการก่อเหตุเชื่อว่าพ่อน่าจะเป็นความเจ็บป่วย

มีรายงานว่า ตำรวจเข้าควบคุมตัวนายทวีชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

ขณะที่เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ยอมรับว่ากลัวมาก แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วย และเสียงที่ได้ยินเสียงดังข้างผนัง คาดว่าน่าจะจับหัวกระแทกกับผนัง อีกสาเหตุที่ไม่ช่วย เพราะกลัวว่าคนเจ็บจะถูกทำร้ายมากกว่านี้