กรณี วันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า คุณยายท่านหนึ่งอาศัย อยู่ที่ชั้น 9 ของคอนโดเมืองทองธานี ถูกคนร้ายพยายามเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ คุณยายเห็นคนร้าย จึงถูกคนร้ายใช้มีดแทงคอ 1 แผล บริเวณท้ายทอยลักษณะโดนปาด ส่วนคนร้ายคาดว่าหนีลงมาแล้ว โดดลงมาบนหลังคาชั้น 1 ก่อนวิ่งหลบหนีไปคาดว่า คนร้ายได้รับบาดเจ็บ เพราะพบรอยเลือดตามทางไปสุดที่กำแพง โดยเบื้องต้น ทราบชื่อคนเจ็บเวลาต่อมา คือ นางสรฎี อายุ65ปี โดยคุณยายได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและกลับมายังที่พักแล้ว
โดยคุณยายเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ยายถูกแทงหลายแผล ทั้งที่ท้ายทอย แขนขวา มือขวา ลำคอด้านหน้า ข้อมือซ้าย นิ้วเท้าขวา ส่วนที่ยายรอดมาได้เพราะตอนเกิดเหตุอยู่กับหลาน 1 คน ช่วงเกิดเหตุประมาณตี 3 ยายจะไปเข้าห้องน้ำ เห็นเงาคนร้าย แต่เห็นหน้าไม่ชัด หลังจากนั้นพอคนร้ายเห็นคุณยาย ก็ใช้มีดแทงทันที ด้านคุณยายจึงเอามือรับไว้ ยายจึงรีบเรียกหลานชาย ทำให้คนร้ายวิ่งหลบหลีไปทางประตู
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้ขึ้นไปสำรวจภายในตึกที่เกิดเหตุ พบว่าห้องของคนร้าย เป็นชายอายุประมาณ 25 ปี ลักษณะผอม ผิวขาว ผมยาว ในคืนวันก่อเหตุมีการสวมใส่เสื้อสีกรมท่า กางเกงยีนส์ขาสั้น ตามที่มีภาพวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
โดยชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า อยู่ที่ชั้น 13 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับที่เจ้าตัวตัดสินใจกระโดดลงไปจากหลังระเบียง ซึ่งบริเวณด้านหลังห้อง มีลักษณะคล้ายราวตากผ้าหรือระเบียงด้านหลังเสียหาย เพราะเข้าใจว่าตัวของผู้ต้องสงสัยตัดสินใจกระโดดจากบริเวณระเบียงหลังห้องของเจ้าตัว และหากสังเกตจะพบว่ามีเลือดที่มีการต่อสู้กับยายคนเจ็บ โดยตัวของคนร้ายได้รับบาดเจ็บเพราะมีการแย่งมีด จึงทำให้บริเวณระเบียงด้านหลังมีลักษณะคล้ายเลือดติดอยู่ และที่สำคัญบริเวณทางเดินภายในตึก ยังมีเลือดของผู้ต้องสงสัยติดอยู่ตามพื้นจนกระทั่งเข้าไปที่ห้องหมายเลขดังกล่าว
และเมื่อ 14:30 น. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนได้มีการแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายที่มีการก่อเหตุปาดคอยายแล้วกระโดดลงจากชั้น 13 ซึ่งเบาะแสตามพื้นปูน ที่มีเลือดของคนก่อเหตุหยดไปตามรายทาง ไปสิ้นสุดอยู่ที่กำแพงสังกะสีด้านหลังคอนโด โดยจุดดังกล่าวมีลักษณะเลือดของคนร้ายติดอยู่ และมีกล่องโฟมรวมถึงสิ่งของที่คนก่อเหตุพยามที่จะนำมาใช้สำหรับปีนข้ามรั้วสังกะสี จะเห็นลักษณะเป็นรอยเหยียบแตกเสียหาย และยังมีรอยเลือดติดอยู่ที่กล่องโฟม
ซึ่งบรรยากาศช่วงที่ชุดสืบสวนได้มีการแกะรอย และมีการใช้บันไดปีนขึ้นไป เพื่อดูเส้นทางหลบหนี เนื่องจากฝั่งตรงข้าม เป็นที่ดินว่างเปล่ารกร้าง และมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ โดยได้มีการจัดส่งชุดสืบสวนลงไปทำการตรวจสอบภายในป่ารก คาดการณ์ว่าอาจจะหลบหนีอยู่ภายในป่า รวมทั้งอาจจะหมดสติหรือเสียชีวิตอยู่ในป่า เพื่อที่จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่จากการใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ในการตรวจสอบพื้นที่ป่าดังกล่าว ไม่พบเบาะแส แต่พบว่ามีการเดินออกถนนติดกับริมคลองปะปาออกไปแล้ว
จนกระทั่งเมื่อเวลา 16:00 น. ที่ผ่านมา กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะเลือดของคนก่อเหตุที่ติดอยู่ตามปลายทางและบริเวณรั้วสังกะสี เพื่อที่จะนำไปเทียบเคียงหากมีการจับกุมตัวได้
ด้าน นายอ๊อดก้า (นามสมมติ) หลานชายของคนเจ็บ ในฐานะคนเห็นเหตุการณ์ และเป็นคนที่เอามีดไปไล่สู้กับคนร้าย เปิดใจว่า เหตุการณ์เมื่อคืนนี้หลังจากที่ตนเองได้ยินเสียงยายร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงได้รีบตื่นขึ้นมาดูยาย ปรากฏว่าถูกคนร้ายใช้มีดปาดที่คอและเมื่อได้รับบาดเจ็บ โดยตนเองเห็นว่า ในขณะนั้นยายได้รับบาดเจ็บ จึงไม่ได้คิดชีวิต เข้าไปที่ครัวเพื่อหยิบมีดอีโต้วางอยู่ที่เขียง เอามาไล่สู้กับคนร้าย โดยจังหวัดที่ตนเองกำลังเอามีดอีโต้ไล่สู้กับคนร้ายนั้น คนร้ายได้รีบเปิดประตูและวิ่งหนีออกไป
โดยคืนเกิดเหตุยอมรับว่าเป็นช่วงวินาทีที่ชนละมุน ประกอบกับยังไม่ได้ปิดไฟในห้องครบ จึงทำให้เห็นใบหน้าไม่ชัดเจน แต่ก็จำรูปพรรณสัณฐานได้ เข้าใจว่าเป็นคนในตึก เพราะโดยส่วนใหญ่คนนอกไม่สามารถเข้าออกได้ และที่สำคัญ ก่อนหน้านี้เพื่อนของยายก็เคยหาย ซึ่งหายไปประมาณ 3000 บาท ตนเองก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกันกับที่เข้ามาก่อเหตุเมื่อคืนนี้ เพราะมีลักษณะเหมือนเคยมาเอาเงินไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงกลับมาเอาซ้ำอีก ตนเองจึงเชื่อว่าเป็นพฤติกรรมของคนเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าคนร้ายจะทำกับคนแก่แบบนี้ ซึ่งส่วนตัวอยากจะให้ถูกจับโดยเร็ว และอยากให้มาขอโทษยาย หรือมีอะไรก็ควรที่จะมาคุยกัน ไม่ใช่มาทำกับคนแก่แบบนี้ ซึ่งตนเองก็รู้สึกสงสารยายที่ต้องมาเจอชะตากรรมถูกโจรจี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายบอส (นามสมมติ) เพื่อนข้างห้องของผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า ตนเองย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ภายในตึกหลังห้องของผู้ต้องสงสัย ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าไปก่อเหตุอะไรมา แต่ได้ยินเสียงคล้ายของหล่นเสียงดัง จึงออกไปดูหลังระเบียง ก็พบว่าตัวของผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นเพื่อนข้างห้อง มีการปีนออกไปนอกระเบียงบริเวณราวตากผ้า ก่อนที่จะกระโดดลงไปชั้นล่าง ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการตัดสินใจกระโดดหรือพลัดตกลงไป เพราะเนื่องจากตอนนั้นมีรปภ. พร้อมทั้งญาติของยายบางส่วน มาเคาะประตูหน้าห้องและสั่งให้ผู้ต้องสงสัยเปิดประตูออกมา จึงเข้าใจว่าตัวของผู้ต้องสงสัยเกิดความกดดัน จึงปีนออกไปนอกระเบียง ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงไป
และหลังจากที่ตนเองสังเกตบริเวณระเบียงหลังห้องของผู้ต้องสงสัย จะมีลักษณะเหมือนเลือดติดอยู่ตรงระเบียง เพราะเนื่องจากตัวของผู้ต้องสงสัย มีการต่อสู้กับยายและหลานของยาย จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้คาดว่ามีแผล และเลือดกำลังไหล จึงทำให้ระเบียงมีเลือดติดอยู่