จากกรณีร.ต.ต.ประหยัด มณีศรี อายุ 70 ปี อดีต ตชด. (เกษียณ) ถูกคนร้ายคาดว่าใช้พร้าฟันที่กลางศีรษะ ต้นคอ และลำตัว เสียชีวิต เหตุเกิดถนนกั้นระหว่างสวนยางพาราและสวนทุเรียน ห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา
จาการสืบสวนสอบสวน พบของกลางที่คาดว่าใช้ก่อเหตุ เป็นมีดพร้า ส่วนคนก่อเหตุคือนายทรงพล อายุ 45 ปี มีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของร.ต.ต.ประหยัด
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ทีมข่าวได้มาจากบ้าน ร.ต.ต.ประหยัด จะเห็นว่า ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.53 น.กล้องวงจรปิดภายในบ้าน จับภาพ นางสุกัลยา ภรรยาของผู้เสียชีวิตและแม่ของผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านเพื่อไปทำธุระที่ธนาคาร
หลังจากนั้นเวลา 17.03 น. กล้องวงจรปิดจับภาพของ ร.ต.ต.ประหยัด สวมเสื้อยืดลายทางกีฬาสีน้ำเงินชมพู กางเกงขาสั้น เดินออกมาจากบ้านหลังจากนั้นได้ล็อกประตูบ้านก่อนที่จะเดินออกไปเพื่อรถน้ำต้นไม้ในสวนทุเรียน หลังจากนั้น ร.ต.ต.ประหยัด ก็หายไป และคาดว่าจะถูกซุ่มทำร้ายด้วยอาวุธมีดภายในสวนทุเรียน
ต่อมาในเวลา 16.09 น. กล้องวงจรปิดจะสามารถจับภาพของ นางสุกัลยา ภรรยาของผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ามาที่บ้านพักหลังจากที่ไปทำธุระที่ธนาคาร หลังจากนั้น ก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านโดยที่ไม่ทราบเลยว่าสามีถูกฆ่าไปแล้ว
หลังจากนั้นในเวลา 19.07 น. นางสุกัญญาภรรยาของผู้เสียชีวิตได้ออกไปตามหา ร.ต.ต.ประหยัดในสวนทุเรียน กระทั่งหลังไปพบศพของสามี ได้วิ่งกลับมา ร้องโวยวายให้ชาวบ้านมาช่วยมาสามีนอนตายอยู่ในสวน
กระทั่งต่อมาในเวลา 19.08 น. นางสุกัลยาภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เดินร้องไห้พร้อมถือโทรศัพท์กลับมาที่บ้าน จากนั้นได้ร้องตะโกนบอกว่าสามีของเสียชีวิตแล้วพร้อมกับบอกให้ชาวบ้านไปดูศพ หลัง จากนั้นจึงมีการแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นเวลา 19.58 น. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนทราบว่าคนร้ายคือนายทรงพล เป็นลูกเลี้ยงของ ร.ต.ต.ประหยัด ในเวลาต่อมา
ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับ นางสุกัลยา ภรรยาของผู้เสียชีวิตและเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองคบหากับร.ต.ต.ประหยัด มา 15 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ตนเองและ ร.ต.ต.ประหยัด ต่างคนก็มีลูกติด ซึ่งตนเอง มีลูก 2 คน โดยคนก่อเหตุเป็นคนโต ส่วน ร.ต.ต.ประหยัด มีลูกติด 4 คน ส่วนปมเหตุเรื่องที่ดิน ก็ยอมรับว่าเคยมีปัญหากับลูกชาย เมื่อ 4 เดือนก่อน เนื่องจาก ลูกชายบังคับให้โอนที่ดินดังกล่าวให้ แต่ตนเองไม่โอนให้ เพราะกลัวลูกจะขายเอาเงินไปเสพยา ทำให้ลูกชายไม่พอใจและได้ออกจากบ้านไป ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่ลูกชายออกไปจากบ้าน ก็มักจะโทรศัพท์มาบ่น ทำนองน้อยใจว่าแม่ รักและเชื่อฟังแต่ ร.ต.ต.ประหยัด ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเขา กระทั่งมาลงมือก่อเหตุ
ยืนยันตั้งแต่ ร.ต.ต.ประหยัด เข้ามาเป็นพ่อเลี้ยงของลูกชาย เขาไม่เคยคิดร้ายหรือมีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายเลยสักครั้ง ส่วนลางสังหรณ์ กับสามีก่อนจะถูกฆ่า มีแค่แมวมาคลอเคลียสามีผิดปกติก่อนจะออกไปตายเท่านั้น
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าตลอดทั้งวันก่อนลูกชาย จะลงมือก่อเหตุ ตนเองไม่ได้เจอหน้ากับลูกชาย ซึ่งคาดว่าเขาน่าจะไปซุ่มรอจังหวะสังหารพ่อเลี้ยงอยู่ในป่ายาง แต่ไม่รู้ว่าเข้าและออกทางไหน
ส่วนศพของ ร.ต.ต.ประหยัด สามี วันนี้จะไปรับศพที่โรงพยาบาล และจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดชุมพร บ้านเกิดของเขาตามความตั้งใจของครอบครัว
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงประมาณ 14.00 น.หลังตำรวจสืบทราบมาว่า กลุ่มคนร้ายมี 4 คน ได้มีทางรอง ผกก.สอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าไปที่บ้านของ ร.ต.ต.ประหยัด เพื่อจำลองเหตุการณ์ตามวงจรปิดว่า ร.ต.ต.ประหยัด ใช้เวลาเดินไปยังจุดที่พบศพกี่นาที เพื่อเปรียบเทียบเวลาไปไล่วงจรปิดตามถนนต่อว่ากลุ่มคนก่อเหตุเข้าและออกเวลาไหนกันแน่
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง8 ได้ไปสอบถาม กับนายแก้ว(นามสมมุติ) เป็นชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ด้านหลังป่ายาง บอกว่า เมื่อวานนี้ เวลาเกือบจะค่ำเห็น ผู้ชาย 4 คน ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์มา 2 คัน ขี่เข้ามาจอดที่หน้าปากทาง ก่อนจะเดินเปิดไฟฉายเข้าไปในสวนยาง กระทั่งผ่านไป 20 นาที กลุ่มชายทั้ง 4 คน ก็เดินกลับออกมา แล้วก็รีบขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป ซึ่งตนได้แต่สงสารว่าทำไมเขากรีดยางกันเร็วจัง กระทั่ง ตำรวจ เข้ามาสอบถามข้อมูล จึงรู้ว่าในพื้นที่รอยต่อสวน มีคนฆ่ากันตาย และน่าจะเป็นกลุ่มที่ตนเองคิดว่าเข้ามาตัดยางเมื่อคืนนี้ ส่วนตัวไม่เคยรู้จักผู้ตาย เพราะเพิ่งย้ายมาทำงานที่นี่ จึงไม่รู้ว่าเขามีเรื่องกับใครมาก่อน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจิตติมา อายุ 46 ปี เป็นลูกสาวของ ร.ต.ต.ประหยัด บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดกับพ่อ ส่วนตัวเชื่อว่า พ่อพลาดท่าถูกฟันที่ด้านหลังจนเสียชีวิตเนื่องจากลูกเลี้ยงดักรออยู่ในป่า ส่วนปมเหตุเป็นเพราะลูกเลี้ยงมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่ค่อยชอบเพราะว่าพ่อเป็นอดีตตำรวจ ประกอบกับคิดน้อยใจว่าแม่รักพ่อเลี้ยงมากกว่าจึงเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุก็ฝันร้ายเกี่ยวกับพ่อแต่จำไม่ได้ว่าฝันว่าอะไร หลังจากนั้นก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีว่าจะเกิดเหตุร้ายกับพ่อมาโดยตลอด
"ที่ผ่านมา ยอมรับว่าที่ผ่านมาก่อนหน้านี้พ่อมีปัญหากับลูกเลี้ยงและลูกเลี้ยงเองพยายามที่จะทำร้ายร่างกายพ่อบ่อยครั้ง เคยขู่ว่าจะเอาปืนมายิงพ่อฆ่าพ่อก็มี ซึ่งตนเองก็เคย เตือนพ่อแล้วว่าให้พกอาวุธปืนติดตัวไว้ตลอดเวลา แต่พ่อก็บอกไม่เป็นไรเพราะเป็นตำรวจและเป็นนักมวยเก่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" นางจิตติมา ระบุ
นอกจากนี้ นางจิตติมา ยังส่งคลิปสุดท้ายที่ถ่ายไว้กับพ่อ ก่อนจะเสียชีวิตให้กับทีมข่าว และยอมรับว่าพ่อเป็นคนพูดจาโผงผางเสียงดัง แต่จริงๆแล้วเป็นคนใจดี ซึ่งพ่อเป็นอดีตตำรวจหน่วย eod ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เคยรับราชการอยู่ในพื้นที่จังหวัดยะลาอยู่ 2 ปี ซึ่งพ่อได้เกษียณมาอยู่บ้านกับภรรยาใหม่มาเป็น 10 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมาพ่อและนางสุกัลญาก็รักกันดีไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน เพราะส่วนใหญ่จะมีปัญหากับลูกเลี้ยงมากกว่า ยืนยันไม่อโหสิกรรม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับลูกเลี้ยงได้ ก็อยากจะถามว่าพ่อไปทำอะไรให้ ถึงต้องมาฆ่ากันแบบนี้