จากกรณี นางดารัณ แพลอย หรืออ้อย อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ได้ออกไปหาหมอที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะหายตัวไป ญาติไม่สามารถต่อได้อีกเลย
หลังจากนั้น วันที่ 1 ก.ค. 66 น.ส.นันท์นิชา หอมหวน อายุ 36 ปี หลานสาวได้เดินทางเข้าแจ้งความคนหาย ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
โดยวานนี้ (3ก.ค.66) พบเบาะแสล่าสุด เป็นบัตรประชาชน และกระเป๋าข้าวของเครื่องใช้ของนางดารัณถูกเผา ริมแม่น้ำแควใหญ่ ก่อนที่จะเข้าให้ข้อมูลตำรวจ และยังไม่เจอตัวนางดารัณ
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสำนักงานฝ่ายทะเบียนของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ซึ่งเธอได้ทำงานอยู่ที่นี่ก่อนจะหายตัวไปปริศนา
กล้องวงจรปิดคลิปตัวที่ 1 ภายในห้องสำนักงาน เวลา 12.35 น.ของวันที่ 30 มิถุนายน จะเห็นนางดารัณ สวมเสื้อสีชมพู กำลังนั่งกดโทรศัพท์แชตคุยอะไรบางอย่างกับใครคนหนึ่งผ่านทางไลน์ที่โต๊ะทำงานของเธอ โดยจะเห็นเพื่อนๆในสำนักงานก็ได้ทำงานปกติ จากนั้นจะเห็นว่า เธอจะค่อยๆเก็บของใช้ส่วนตัว ทั้งแว่นตา ลิปติก แฟลชไดร์ฟ ใส่กระเป๋าสะพายสีดำ จากนั้นเธอได้ลุกจากที่นั่งและหยิบขวดแป้งมาทาบริเวณใบหน้า และนำขวดแป้งใส่กระเป๋า ก่อนที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ
จากนั้นเวลาคลิปตัวที่ 2 เวลา 12.37.40 น. จะเห็นนางดารัณ ได้เดินกลับจากห้องน้ำมาที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมสีดำ พร้อมกับใส่รองเท้า และหยิบกระเป๋าสะพายสีดำเดินออกจากสำนักงานออกไป
คลิปตัวที่ 3 เวลาประมาณ 12.38 น. กล้องหน้าสำนักงานบริเวณทางออก จะเป็นอีกมุมที่เห็นนางดารัณยืนยิ่งอยู่หน้าประตูทางออกสักพัก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมาติดต่อส่งข้อความหาใครสักคนบริเวณด้านหน้าสำนักงาน
คลิปตัวที่ 4 เวลา 12.39.56 น. จะเห็นเธอได้ยกโทรศัพท์โทรหาใครสักคน ใช้เวลาประมาณ 45 วินาที ก่อนจะวางสาย และเดินไปที่ลานจอดรถ
คลิปตัวที่ 5 จะเห็นเพื่อนที่ทำงานคนหนึ่งเดินมาพูดคุยกับนางดารัณได้สักพัก ก่อนที่นางดารัณจะเดินไปที่รถของตัวเอง และขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปจากลานจอดของสำนักงานในเวลา 12.43.22 น.
จากนั้นจะเป็นคลิปตัวเดิม ที่จะเห็นนางดารัณขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากมหาวิทยาลัยไป เวลา 12.48 น.
และทีมข่าวช่อง 8 ยังไล่กล้องต่อจนพบว่า นางดารัณ ไม่ได้ขี่มอเตอร์กลับไปยังบ้าน หรือ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาอย่างที่เธอได้แจ้งไว้กับเพื่อนที่ทำงาน แต่เธอได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปบนถนนทางหลวงเอเชียสาย 123 มุ่งหน้าอำเภอลาดหญ้า ซึ่งเป็นคนละทางกับเส้นทางกันโดยสิ้นเชิง
โดยกล้องที่ทีมข่าวพบว่า เธอได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านร้านค้าและบ้านของชาวบ้านต่างๆ ซึ่งเป็นเส้นห่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีประมาณ 2-3 กิโลเมตร
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวสำคัญ ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดตัวที่ใกล้จุดที่พบหลักฐานนางดาวัณ ถูกเผาทิ้งมากที่สุด บริเวณทางลงริมน้ำ
โดยคลิปวงจรปิดช่วงเวลา 17.46.07 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. จะเห็นชายปริศนาย้อมผมสีแดง สวมเสื้อยืดสีเทา ขี่มอเตอร์ไซค์คล้ายไรเดอร์ส่งของ ท้ายรถมีกล่องใส่พัสดุ ไม่สวมทะเบียนรถ ได้ขี่ลงไปบริเวณจุดท่าน้ำ
ต่อมาเวลาประมาณ 18.02 น. จะเห็น คุณออย และลูกชาย ที่เจอบัตรประชาชนนางดารัณ ได้ขี่รถซ้อนท้ายกันสวนลงไปยังจุดริมแม่น้ำ โดยสวนทางกลับชายปริศนาคนนี้พอดี ก่อนที่จะไปเจอบัตรประชาชนในน้ำ และมีการจุดกองไฟเผาอะไรบางอย่าง
และเวลา 18.20 น. จะเห็น 2 แม่ลูกได้ขี่รถกลับบ้าน ออกจากริมแม่น้ำไป
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ ดร.สายชล เทียนงาม ผอ.สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ให้ข้อมูลกับข่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตนเองเห็นถึงพิรุธบางอย่างที่นางดารัณ ก่อนจะออกจากสำนักงานไป ได้คุยแชตกับใครบางคน และโทรศัพท์หา รวมถึง เส้นทางที่นางดารัณเลี้ยวขวาออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่ใช่เส้นทางที่จะไปโรงพยาบาลอย่างที่เธอลาไว้ เพราะทางไปโรงพยาบาล หรือ บ้านของเธอต้องเลี้ยวซ้าย ซึ่งข้อมูลพวกนี้ได้ให้ตำรวจไปทั้งหมดแล้ว ตนเองก็อยากให้ตำรวจรีบดำเนินการตามหาตัวนางดารัณให้ได้โดยเร็ว
ก่อนหน้าที่นางดารัณจะหายตัวไป เธอได้ทำเรื่องยื่นขอลากิจ 1 วัน โดยในใบลากิจ ระบุว่า ไปทำธุระส่วนตัว แต่นางดารัณ ได้บอกกับเพื่อนร่วมงานว่า จะต้องการลาหยุดครึ่งวัน เพื่อจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตนเองในฐานะหัวหน้า เห็นว่า ไม่ได้ติดงานอะไร ก็ได้อนุญาตลาได้ปกติ ซึ่งก่อนที่นาวดารัณจะหายตัวไป ทุกอย่างเป็นปกติมาก เจ้าตัวยิ้มร่าเริง และไม่เคยตัดพ้อถึงปัญหาส่วนตัวให้ฟังเลย
ส่วนทางตนเองและมหาวิทยาลัย หลังเกิดเหตุ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเลย และให้ความร่วมมือกับตำรวจและนักข่าวทุกอย่าง เพราะอยากให้พบตัวนางดารัณอย่างปลอดภัย