จากกรณี น้องดรีม (นามสมมติ) ร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกอดีตเพื่อนสาวบุกมาที่ห้องพัก พร้อมพวกอีก 2 คน ก่อนจะเอาขวดน้ำหอมทุบหน้าหลายครั้งตอนหลับ เพราะหึงหวงคิดว่า ฝ่ายชาย มีอะไรกับคนเจ็บ จึงฉวยโอกาสตอนที่คนหลับ และได้ให้เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยที่คอนโดแตะบัตรขึ้นมาทำร้ายถึงห้องจนเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บ
โดยน้องดรีม เล่าที่ไปที่มากับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนเป็นเพื่อนสนิทกับนางสาวโรส ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ซึ่งทำงานที่เดียวกัน โดยเพื่อนคนนี้เป็นคนชอบเที่ยวบาร์โฮส บางครั้งก็จะแนะนำผู้ชายให้ตนเองรู้จัก รวมถึงผู้ชาย ซึ่งเป็นต้นเรื่องด้วย จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง ฝ่ายชายซึ่งเป็นบาร์โฮสได้ทักมาหาตน เพื่อพูดคุย และชวนตนไปเที่ยว แต่ตนเองก็ปฎิเสธว่าไม่ไปเพราะตนเองไม่ได้ชอบ
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.23 น. ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้องระหว่างนั้นตนรู้สึกตัวเหมือนถูกของแข็งฟาดเข้ามาที่ศีรษะของตนหลายครั้ง จนกระทั่งตนรู้สึกตัวและเห็นว่ามีนางสาวโรส ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนและกลุ่มเพื่อนนางสาวโรส จำนวน 2 คน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน ประกอบไปด้วย นางสาวพลอย ซึ่งเป็นเพื่อนของนางสาวโรส และ แฟนหนุ่มของนางสาวพลอยได้บุกเข้ามาภายในห้องตน
ขณะที่วงจรปิดพบว่า โรส พลอย และแฟนพลอย ขึ้นลิฟต์ขึ้นมาและบุกเข้ามาภายในห้องของน้องดรีม และถอดรองเท้าเข้าไปภายในห้อง แล้วไปทำร้ายน้องดรีม
น้องดรีม เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตอนนั้นตนยอมรับว่า รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจึงพยามวิ่งหนี แต่นางสาวโรสกลับจิกหัว ฉุดกระชาก ทำร้ายร่างกายตนจนได้รับบาดเจ็บ ด้วยความเจ็บตอนนั้นตนพยายามจะสู้กลับแต่นางสาวพลอยได้เข้ามาล็อกตัวตัว ตนจึงตัดสินใจหาจังหวะสะบัดตัว ก่อนวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ จนเป็นเหตุทำให้นางสาวโรสไม่พอใจ และได้ทำร้ายข้าวของภายในห้องจนได้รับความเสียหาย
นอกจากนั้นหลังเกิดเหตุฝ่ายชาย (ตัวต้นเหตุ) ได้มีการแคปแชทที่พูดคุยกับทางคู่กรณีมาให้ตนดู จึงทราบว่าทางคู่กรณีได้มีการข่มขู่ให้ตนระวังตัวเนื่องจากพี่ชายเป็นตำรวจ ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าตนไม่เคยมี ความสัมพันธ์เกินเลยกับหนุ่ม บาร์โฮสคนดังกล่าวแต่อย่างใด
ทางด้านของนาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้พาผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว เนื่องจากหลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ระยะเวลาผ่านมารวมหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความคืบหน้า ส่วนผู้บาดเจ็บรู้สึกไม่ปลอดภัยเนื่องจาก ผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่คอนโดเดียวกัน (แต่อยู่คนละตึก) และยังมีการข่มขู่ว่าหากเจอ หากเจอที่ทำงานจะให้เพื่อนดักทำร้ายร่างกาย เนื่องจากผู้ก่อเหตุรู้จักเป็นกว้างขวางในสายงาน ยังข่มขู่ว่าให้ผู้เสียหายไปแจ้งความได้เลย เนื่องจากมีพี่ชายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ