ความคืบหน้าการหายตัวปริศนา ของนางดารัณ แพลอย หรือ อ้อย อายุ 58 ปี พนักงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566
โดยตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี เชิญตัวนางสาวสาว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนางดารัณ มาสอบสวน หลังพบสัญญาณโทรศัพท์ของนางดารัณ ติดต่อนางสาวสาวเป็นคนสุดท้าย
หลังตำรวจเค้นสอบอย่างหนัก สุดท้ายนางสาวสาว ยอมรับสารภาพว่าร่วมฆ่านางดารัณ โดยรัดคอ เพราะอยากปลดหนี้
ต่อมาตำรวจคุมตัวนางสาวสาว ไปชี้จุดทิ้งศพของนางดารัณ ซึ่งนำร่างไปโยนทิ้งเหวหน้าผาท้ายเขื่อนศรีนครินทร์ ในพื้นที่อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยในระหว่างชี้จุด นางสาวสาว บอกว่า นายกอล์ฟ ซึ่งเป็นเพื่อนเป็นผู้ลากร่างของนางดารัณทิ้งเหว
โดยพฤติการณ์พบว่าวันเกิดเหตุ มีการนัดหมายนางดารัณ และรับขึ้นรถเก๋ง ดดยมีนางสาวสาวเป็นคนขับ ส่วนนางดารัณนั่งหน้าข้างคนขับ ขณะที่นายกอล์ฟ นั่งอยู่เบาะหลัง โดยพาเข้าปั๊มน้ำมัน ก่อนใช้เชือกรัดคอ แล้วร่วมกันนำศพมาทิ้งเหว
จากนั้นตำรวจประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย ชักลอกนำร่างขึ้นมาจากเหวลึก 4-5 เมตร โดยการกู้ร่างเป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะเป็นพื้นที่ลาดชัน โดยสภาพศพบวมอืด
ขณะเดียวกันได้ประสานลูกชายและลูกสะใภ้ มาร่วมดูการกู้ร่าง พร้อมยืนยันว่าศพที่พบเป็นนางดารัณ เพราะจำเสื้อผ้า รวมทั้งรองเท้าได้
จากการสอบสวน นางสาวสาว รับสารภาพว่า ให้นางดารัณไปดาวน์รถจักรยานยนต์ 3 คัน และเป็นชื่อของนางดารัณ ก่อนที่นางสาวสาวและนายกอล์ฟ จะเอารถ 3 คันไปขาย เลยวางแผนฆ่าปิดปาก
โดยนางสาวสาวกับกอล์ฟ นัดหมายกับนางดารัณ ออกมาพบโดยใช้อุบายให้ออกมาหา อ้างว่าจะพาไปพบนายทุน เพื่อปิดหนี้ โดยระหว่างทางมีปากเสียงกัน และไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องรถ 3 คัน โดยนายกอล์ฟใช้เชือกรัดคอนางดารัณจนขาดอากาศหายใจ แล้วนำศพมาทิ้งหลังอ่างเก็บน้ำ
*วงจรปิดนำศพไปทิ้ง
ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพของรถเก๋งของนางสาวสาว ขับผ่าน และคาดว่านางดารัณเสียชีวิตแล้ว โดยที่วงจรปิดบันทึกภาพได้ อยู่ห่างจากจุดทิ้งศพประมาณ 16 กิโลเมตร
ภาพวงจรปิดบันทึกภาพของรถเก๋งขาขับเข้าพื้นที่ เป็นเวลา 14.39 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หลังจากนั้น จับภาพรถเก๋งได้อีกครั้ง ขณะขับกลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ได้ในเวลาประมาณบ่าย3โมงกว่า แสดงว่าใช้เวลาทิ้งศพประมาณ 30 นาที
จากนั้นนางสาวสาว ประสานนายก็อต ซึ่งเป็นสามีของนางสาวสาว ให้ขี่จักรยานยนต์ของนางดารัณไปไว้ที่บ้าน ที่อ.ท่ามะกา
*ลูกชายตาย
ทีมข่าวช่อง8 ได้สอบถามนายจักรกฤษณ์ ลูกชายของนางดารัณ ถึงปมปัญหาที่แม่ถูกฆ่าเสียชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับนางสาวสาวนั้น เป็นอย่างไร โดยลูกชายของนางดารัณ ปฏิเสธจะตอบคำถามกับนักข่าว โดยพูดสั้นๆว่า ขอยังไม่ให้ข้อมูลตอนนี้ ก่อนจะขึ้นรถเดินออกจากจุดเกิดเหตุไปทันที
*จนท.พิทักษ์ป่า
ทีมข่าวได้พูดคุยนายชิงชัย แสนคำ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ที่พบศพคนแรก เล่าว่า ตนเองได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในช่วง 1-2 วันนี้ ให้ช่วยลาดตระเวนตรวจเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุได้นำศพมาทิ้งไว้จุดแถวนี้ โดยได้รับการประสานงานข้อมูลจากตำรวจ ตนเองจึงได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ลาดตระเวน ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่ 4 แล้ว ที่ตนเองขี่รถผ่านจุดนี้ แต่ที่ผ่านตนเองก็ไม่ได้กลิ่นศพ กระทั่งช่วง 9 โมงเช้าวันนี้ ตนเองได้ออกลาดตระเวนอีกครั้ง และผ่านจุดนี้ ได้กลิ่นศพตีจมูก กลิ่นแรงมาก จึงจอดรถและชะโงกหน้าลงไปดูบริเวณริมหน้าผา จนพบศพของหญิงสาวนอนหงายอยู่ในสภาพขึ้นอืดบวม ตนเองจึงรีบแจ้งตำรวจทันที
ซึ่งตนเองถือว่ายังโชคดีที่ผู้ก่อเหตุอาจจะรีบทิ้งศพ ทำให้ศพ ไม่ได้กลิ้งตกหน้าผา ไปสู่อ่างเก็บน้ำที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งหากศพไม่ติดต้นไม้ริมหน้าผา ก็คงตกและจมน้ำไปแล้ว ซึ่งจะยากมากที่จะพบ เพราะหน้าผามีความสูงกว่า 20 เมตร หากใครขี่รถผ่าน กลิ่นศพคงจะลอยไปไม่ถึงทำให้พบได้ยากมาก
*ชุดหลักฐานยันเสื้อผ้า
โดยหลักฐานที่ยืนยันว่าศพที่พบคือนางดารัณ คือ เสื้อคลุมสีดำ เสื้อสีชมพู กระดปรงสีดำ ซึ่งตรงกับชุดที่นางดารัณใส่ในวันที่ 30 มิถุนายนซึ่งเป็นวันที่หายตัวไป
*สาว
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง8 ได้เข้าไปที่ตึกมหาวิทยาลัย โดยพบเฟซบุ๊กของนางสาวสาว โพสต์ภาพตั้งใจทำงาน หลังจากลงมือฆ่านางดารัณแล้ว โดยมีทีท่าปกติ กระทั่งผ่านมา 3 วัน ตำรวจชุดสืบสวน เข้ามาสอบถามข้อมูล ว่าเป็นคนสุดท้ายที่พบนางดารัณ ก่อนจะถูกเชิญตัวไปสอบปากคำ จนยอมรับสารภาพ
*รถเก๋ง
ส่วนรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจนำมาไว้ที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ พฐ. ตรวจพบลายนิ้วมือโดยรอบตัวรถ โดยพบว่ามีธูปหอมและกำยานวางไว้ที่หลังรถ ซึ่งไม่รู้ว่าซื้อมาดับกลิ่นศพหรือกลิ่นเลือดในรถหรือไม่
*ก็อต
ส่วนนายก็อต สามีของนางสาวสาว ตำรวจคุมตัวมาสอบปากคำ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ หลังพบเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ของนางดารัณไปไว้ที่บ้านของนางสาวสาว
*กอล์ฟ
ขณะที่นายกอล์ฟ เป็นบุคคลที่นำของไปเผา โดยภาพวงจรปิดจับภาพชายหัวสีทองขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน
ภายหลังจากที่ข่าวช่อง8 นำเสนอข่าวไป ปรากฏว่า นายกอล์ฟโกนหัว เพื่อหนีตำรวจ แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด
*เพื่อนสถาบัน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 เข้าไปที่มหาวิทยาลัย พบกับเพื่อนร่วมงานของนางสาวสาว ให้ข้อมูลว่า วันที่ 30 มิถุนายนวันเกิดเหตุ นางสาวสาวได้เดินทางมาทำงานในตอนเช้า ส่วนช่วงบ่ายได้ลงชื่อเข้าทำงานนอกสถานที่ภายในมหาวิทยาลัย แต่ไม่เห็นตัว ส่วนวันที่ 1-3 กรกฎาคม เจ้าตัวก็ยังคงเดินทางมาทำงาน และเขียนชื่อลงสมุดเช็กชื่อเข้างานตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กระทั่งวันที่ 4 ช่วงเช้า ซึ่งเป็นวันที่ตำรวจเรียกตัวนาวสาวสาวไปสอบปากคำ และนางสาวสาวได้ลาหยุด โดยที่เพื่อนที่ทำงานไม่ทราบเลยว่า หยุดไปไหน มาทราบภายหลังว่า เกี่ยวข้องในคดีการหายตัวไปของนางดารัณแล้ว
ในส่วนความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผู้กำกับการ สภ.เมืองกาญจนบุรี ระบุว่า ศาลออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหา คือ นางสาววิลาวัณย์ (สาว) และ นายนิติ (กอล์ฟ) ใน 4 ข้อหาคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันลอบฝัง เผา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ , ร่วมกันกระทำการใดใดแก่ศพ หรือสภาพแวดล้อม ก่อนการชันสูตรพลิกศพ และ ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม
และหลังจากนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำขยายผลเพิ่มว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 2 คนหรือไม่