จากกรณี นายเมธัส สวนศรี หรือ เก่ง เมธัส อดีตนักแสดง ผู้เสียหาย จากการถูกเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ทำร้ายร่างกาย โดยอ้างว่ามีจ่าไฝ ตำรวจสังกัดสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกายด้วย เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดี
นายเมธัส เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 5 จังหวัดนนทบุรี โดยวันดังกล่าวได้รับการติดต่อจากตำรวจนายหนึ่งชื่อ “จ่าไฝ” สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้มาพบเพื่อช่วยเจรจาทวงหนี้ค่าพนันออนไลน์กว่า 4 ล้านบาท จากนายบอย ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่นายเมธัสรู้จัก
โดยได้มาพร้อมกับลูกน้องอีกคนชื่อนายบอล แต่ระหว่างนั้นตำรวจ และเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้พาบุคคลอื่นรวมกว่า 12 คน มาปิดล้อมและข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หากไม่นำเงินจากนายบอยมาให้ภายในวันดังกล่าว แต่นายเมธัส ได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับนายบอยแล้ว ขอเลื่อนจ่ายเป็นวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งพบว่าเป็นหนี้คงเหลือรวม 7.5 แสนบาท แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยินยอมต้องให้จ่ายทันที เมื่อปฏิเสธว่าไม่สามารถทำได้กลุ่มชายฉกรรจ์จึงได้เข้ามาทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า
นายเมธัส ยืนยันว่า แม้ในอดีตจะเป็นคนเกเร แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนตัวเอง ทำอาชีพสุจริต และไม่ข้องเกี่ยวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ เพียงแต่รู้จักกับทั้งสองฝ่ายจึงเสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ โดยที่ไม่คาดว่าจะเกิดความรุนแรง พร้อมทั้งขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวให้ตรงกับความเป็นจริง หากพบว่ามีข้อความที่เป็นเท็จก็จะฟ้องดำเนินคดี
ขณะที่นายบอล ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าหลังจากที่เจรจากันไม่ได้ ก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อีกชุดหนึ่งเข้ามารุมทำร้ายโดยเห็นว่ามีปืนสั้น 3 กระบอก และปืนลูกซอง 1 กระบอก มาข่มขู่ ก่อนจะถูกพานท้ายปืนตีที่ปลายคิ้วจนเป็นแผลต้องเย็บรวม 10 เข็ม ส่วนตัวเองยอมรับว่ามีปืนอยู่ในกระเป๋า แต่ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้เพราะถูกกดตัวอยู่กับโต๊ะ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน
ส่วนนายบอย ที่เป็นคนเล่นพนันจนเป็นหนี้ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเคยเล่นพนันที่เว็บไซต์นี้มานานกว่า 1 เดือน ได้เสียครั้งละกว่า 1 แสนบาท โดยได้รับเครดิตจากเว็บไซต์ที่ทราบว่ารู้จักกับนายเมธัส เป็นเงิน 4 ล้านบาท แต่ได้ให้เล่นในวงเงิน 7.5 แสนบาท จนเป็นหนี้ ซึ่งตัวเองก็พึ่งเรียนจบและทำงานในด้านตัดต่อวิดีโอ
ขณะที่นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการทวงหนี้จากเว็บไซต์ที่ใช้กำลัง และมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีแล้ว แต่ตำรวจที่ถูกอ้างถึงไม่ถูกออกหมายจับ ส่วนกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุก็พบว่าไม่สามารถนำออกมาเป็นหลักฐานได้ และขอให้ตำรวจเร่งปราบปรามเว็บไซต์พนันออนไลน์
ล่าสุดร.ต.ต.วันชัย ศรีอินทร์สุทธิ์ รอง สว.สส.ภ.1 หรือ จ่าไฝ ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุตนเองอยู่ในร้านอาหารดังกล่าวด้วย เนื่องจากเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านอาหาร ซึ่งปกติแล้วร้านจะเปิดช่วงเย็นแต่ในวันดังกล่าวมีงานเลี้ยงพอดีจึงเข้ามาเตรียมสถานที่ก่อนในช่วงสาย ส่วนประเด็นที่ตนเองเป็นคนโทรหานายเก่งนั้น ยอมรับว่าเป็นคนโทรหาจริง เนื่องจากมีความสนิทสนมกัน ซึ่งนายเก่ง และกลุ่มคู่กรณีก็รู้จักกันอยู่แล้ว แต่ตนเองไม่ทราบว่าในวันดังกล่าวจะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายขึ้น และไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับหนี้เว็บพนัน กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นตนเองก็ได้เข้าไปห้ามเหตุการณ์ด้วย
ในวันนี้ตนเอง ในฐานะหนึ่งในหุ้นส่วนร้านอาหาร พร้อมกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนด้วยกันอีกคน เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ปากคำเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวน พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา
ขณะที่นายประเสริฐ หรือ แหลม อายุ 45 ปี และนายสุระศักดิ์ หรือ เด้ง อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ที่ถูกตำรวจ สภ.บางกรวย ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไปให้พ้นการจับกุม ร่วมกันหน่วยเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ได้เดินทางเจ้ามอบตัวกับ ตำรวจ สภ.บางกรวย หลังถูกนายเมธัส หรือ เก่ง โดยนายประเสริฐ ระบุว่า หลังจากที่เห็นข่าวนายเมธัสกับนายนฤพลออกมาให้ข่าว ไม่เป็นจริงแม้แต่เรื่องเดียว ทำให้ตนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเดินทางมาเข้ามอบตัว เพื่อขอต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตนขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะแจ้งข้อหามา ตนยอมรับว่าเป็นคนลงมือตบหน้านายเก่ง เมธัส ไปทีเดียวเท่านั้น ส่วนนายสุระศักดิ์ลูกน้องตนก็ใช้ลูกสนุ๊กตบใส่ใบหน้านายนฤพลลูกน้องนายเมธัส ที่พยายามจะชักอาวุธปืนพกออกมาจากกระเป๋าสะพายซึ่งเป็นการป้องกันตัว ซึ่งหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนในการมอบตัวสู้คดีแล้ว ตนจะแจ้งความดำเนินคดีกลับเช่นกัน
ขณะเดียวกัน มีตำรวจอีก1นาย ส.ต.อ.ปกรณ์เกียรติ ถูกออกหมายเรียกเข้าให้ข้อมูล โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ว่าเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวหรือไม่
ในส่วนของคดี มีผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 5 ราย คือ นายประเสริฐ อายุ 45 ปี , นายสุระศักดิ์ อายุ 34 ปี , นายอภิชาติ อายุ 32 ปี (ยังคงหลบหนี) , ร.ต.ต.วันชัย (จ่าไฝ) และนายรณณรงค์ อายุ 48 ปี