กรณี เพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิรน์ pert6" ลงคลิปพร้อมเล่าว่า #ร้องเรียนตรวจสอบ คุณครูท่านหนึ่งคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและ ประเด็นมีการพูดสมน้ำหน้าเด็กจริงไหม..วอนสื่อสังคมตรวจสอบด้วย สมน้ำหน้า นร.มันควรมั้ยคะ เรื่อง เด็กถูกสุนัขกัดในโรงเรียน ส... วันที่ 29 มิถุนายน 2566 ช่วง เช้า เวลาเข้าแถวหน้าเสาธง โรงเรียนละเลย ไม่เอาใจใส่ในความปลอดภัยของเด็ก โดย ดิฉัน นางสาว...ได้เห็น นร. ถูกสุนัข กัด และมีแผลที่มือ ในขณะเข้าแถว จึงได้รีบ พา นร. ไป หาหมอ โดยมี ครู... ไปด้วย และได้แจ้ง รักษาการ และครูท่านเห็นและทราบ เพราะอยู่ที่แถวทุกท่าน แต่ รักษาการนิ่งเฉย ไม่สั่งการใดๆ นั้น
โดยมีคลิป ซึ่งเป็นคลิปของนักเรียน เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง โดยในบางช่วงบางตอน เด็กบอกว่า ครูใหม่บอกว่าขอสมน้ำหน้าได้ไหม เด็กเลยเงียบ
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น ภายหลังจากที่ครูพาเด็กไปหาหมอ และถูกผอ.ตำหนิว่าขาดสอน ทำไมไม่มีการรายงาน โดยพยายามอธิบาย ว่าพาเด็กนักเรียนไปโรงพยาบาล
ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ อยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยพบว่าโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนกว่า 700 คน เปิดเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่6 มีบุคลากรทั้งสิ้น 30 คน
ทีมข่าวลงพื้นที่มา ทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการเก็บบันทึกภาพภายในโรงเรียนได้ แต่บุคลากรไม่สามารถที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ได้เนื่องจากติดที่ระเบียบราชการ พบว่าบรรยากาศภายในโรงเรียน โดยเฉพาะโดมจัดกิจกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะให้นักเรียนเข้าแถวและทำกิจกรรมต่างๆ จุดดังกล่าวสังเกตว่าช่วงที่ทีมข่าวลงพื้นที่มานั้น ยังคงมีสุนัขจรจัด วิ่งเล่นอยู่ภายในโรงเรียนหลายตัว ซึ่งรวมแล้วไม่ต่ำกว่า6-7ตัว แต่สุนัขตัวที่ก่อเหตุเป็นสุนัขพันธุ์ไทยสีขาวลายน้ำตาล ซึ่งเป็นสุนัขเด็ก ยังคงวิ่งเล่นและเดินไปมาอยู่ภายในโรงเรียน ซึ่งแม้ว่าภารโรงของโรงเรียนจะมีการไล่ให้ไปที่อื่น แต่สุดท้ายแล้วสุนัขจรจัดก็จะเข้ามาเล่นภายในโรงเรียนประจำ
ซึ่งโรงเรียน ได้ออกมาให้ข้อมูลยืนยันกับทีมข่าว ว่าหลังจากที่เด็กถูกสุนัข ก็ได้มีครูเวร2คน รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และส่วนบาดแผลที่ถูกสุนัขกัด เป็นลักษณะรอยขีดเล็กๆ อยู่บริเวณฝ่ามือใกล้กับหัวนิ้วโป้งฝั่งซ้าย แต่ทางโรงเรียนก็ได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผล พร้อมกับมีการฉีดยาบาดทะยักเพื่อป้องกันเอาไว้ ซึ่งทางโรงเรียนยืนยันว่ามีการช่วยเหลือเด็กตั้งแต่ที่ทราบว่าถูกสุนัขกัด จนกระทั่งส่งถึงโรงพยาบาลและได้รับวัคซีน
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พยามติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชาย ป.6 ที่ถูกสุนัขกัด โดยทางแม่ของเด็ก ให้ข้อมูลสั้นๆกับทีมข่าวว่า ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์หรือให้รายละเอียดเพิ่มเติม เพราะแม่ไม่ได้ติดใจทางโรงเรียน เพราะตอนแรกอาจจะมีการสื่อสารคาดเคลื่อน แต่หลังจากที่ไปติดตามความคืบหน้าและทราบว่าทางโรงเรียนได้มีการช่วยเหลือพร้อมกับให้ลูกได้รับวัคซีน ก็เข้าใจว่าทางโรงเรียนได้ร่วมดำเนินการช่วยเหลือลูกสาวแล้ว
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางดวงเดือน ผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ในวันที่กำลังมีการทำกิจกรรมหน้าเสาธงและเด็กนักเรียนป.6 ถูกสุนัขกัด เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในวันนั้นเด็กมีการทำกิจกรรมหน้าเสาธง ซึ่งเป็นกิจกรรมลูกเสือ โดยเด็กผู้เสียหาย เป็นเด็กนักเรียนขั้นป.6 ซึ่งไปเผลอเล่นกับสุนัขสีขาวน้ำตาลซึ่งเป็นสุนัขเด็ก โดยเป็นสุนัขจรจัดที่เข้ามาภายในโรงเรียน ซึ่งโดยปกติเด็กคนดังกล่าวมักจะเล่นกับสุนัขตัวที่ก่อเหตุเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งทั้งครูประจำชั้นและครูคนอื่นก็เคยตักเตือน เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหา แต่สุดท้ายในวันดังกล่าวไม่แน่ใจว่าสุนัขเกิดอาการเครียดหรืออะไร แล้วมีการก่อเหตุกัดที่มือซ้ายแต่เขาไม่ลึก โดยหลังจากนั้นครูเวรและครูประจำชั้นก็ได้รีบนำตัวส่งห้องพยาบาล เพื่อทำแผลเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อที่จะทำแผลและรับวัคซีนกันบาดทะยัก โดยใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุที่โรงเรียนทำเอาไว้ให้ ดังนั้นจากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ าทางโรงเรียนละเลยและไม่ได้สนใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตามข้อเท็จจริงแล้วครูได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมกับรับวัคซีน และช่วยเหลือเรื่องการติดต่อกับประกัน
ส่วนกรณีที่ครูคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ามีการบูลลี่ หรือมีการพูดทำนองว่าสมน้ำหน้าเด็ก ส่วนตัวรู้จักกับครูคนดังกล่าวเพราะเป็นครูสอนวิชาภาษาไทย เป็นคนพูดจาเรียบร้อย และไม่เคยที่จะบูลลี่หรือพูดหยอกล้อแรงกับเด็ก ดังนั้นจึงเชื่อว่าเกิดจากการตีความหรือเข้าใจ เพราะครูคนดังกล่าวก็มีสถานะเป็นครูประจำชั้นของเด็กเหมือนกัน และครูที่ถูกกล่าวหาก็เคยตักเตือนไม่ให้เล่นกับสุนัขจรเพราะกลัวจะเกิดเหตุ